โคลัมโบ (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส) - รัฐบาลศรีลังกา ซึ่งไม่มีเงินดอลลาร์ในคลังสำรองเหลือแล้ว เตรียมหยุดพิมพ์ธนบัตรรูปีเพื่อจ่ายเงินเดือนข้าราชการ หลังจากความพยายามอัดฉีดเงินรูปีเข้าสู่ระบบยังไม่อาจหยุดยั้งเงินเฟ้อที่จ่อพุ่งสูงถึง 60%
นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห แถลงต่อรัฐสภาก่อนจะมีการทบทวนนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดี โดยระบุว่า อัตราเงินเฟ้อในประเทศอาจสูงถึง 60% ในเร็วๆ นี้ และรัฐบาลเตรียมเสนอแผนปรับโครงสร้างหนี้ต่อกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟในช่วงสิ้นเดือน ส.ค.โดยปัจจุบัน ดัชนีราคาผู้บริโภคในศรีลังกาประจำเดือน มิ.ย.สูงขึ้นถึง 54.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และค่าโดยสารในเดือน มิ.ย.เพิ่มสูงขึ้น 128% จากเมื่อเดือนพ.ค และราคาอาหารสูงขึ้น 80% ท่ามกลางการขาดแคลนผลผลิตการเกษตรและน้ำมันดิบ รัฐบาลประสบปัญหาขาดทุนสำรองระหว่าประเทศเพื่อนำเข้าอาหาร ปุ๋ย ยา และเชื้อเพลิงมานานหลายเดือนแล้ว
นายกรัฐมนตรีแสดงความหวังว่าไอเอ็มเอฟจะอนุมัติแผนขอกู้ยืมเงินระยะเวลา 4 ปี หลังจากไอเอ็มเอฟเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ผลการเดินทางมาเจรจาที่ศรีลังกาเมื่อเร็วๆ นี้มีผลลัพธ์น่าพอใจ แต่ก็ยอมรับว่าการเจรจามีความซับซ้อนและยุ่งยากกว่าในอดีต เพราะขณะนี้ประเทศอยู่ในสถานะล้มละลาย ไม่เหมือนการเจรจาครั้งก่อนที่อยู่ในฐานะประเทศกำลังพัฒนา
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ธนาคารกลางศรีลังกาเตรียมประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ หลังจากเมื่อเดือนพ.ค.ยืนยันไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่อยู่ในระดับ 13.50% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 14.50% อีกทั้งยังเตรียมหยุดพิมพ์ธนบัตรรูปีเพื่อจ่ายเงินเดือนข้าราชการ หลังจากความพยายามอัดฉีดเงินรูปีเข้าสู่ระบบยังไม่อาจหยุดยั้งเงินเฟ้อที่จ่อพุ่งสูงถึง 60%
เมื่อเร็วๆ นี้ศรีลังกาเพิ่งสั่งปิดหน่วยราชการและสถานศึกษาทั้งหมดจนถึงวันที่ 10 ก.ค.เพื่อประหยัดน้ำมัน ทำให้ถนนหลายสายว่างเปล่า แต่มีพาหนะจำนวนมากเข้าแถวรอยาวหลายกิโลเมตรเพื่อรอเติมน้ำมันตามปั๊มที่เปิดอยู่เพียงไม่กี่แห่ง