ชาวเวียดนามร่วมโครงการฝึกอาชีพที่ญี่ปุ่น พบ 1 ใน 4 กลับบ้านแล้วมีงานทำ น้อยกว่า"ไทย-จีน-ฟิลิปปินส์"
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2565 สำนักข่าว VnExpress International ของเวียดนาม เสนอข่าว Just one-fourth of Vietnamese interns find jobs after returning from Japan ระบุว่า ชาวเวียดนามซึ่งเข้าร่วมโครงการฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น มีเพียงร้อยละ 26.7 หรือราว 1 ใน 4 เท่านั้น ที่กลับมาบ้านเกิดแล้วหางานทำได้ ซึ่งน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับ 2 ชาติร่วมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) อย่างไทยและฟิลิปปินส์ รวมถึงเพื่อนบ้านอย่างจีน ที่พลเมืองของประเทศดังกล่าว กว่าครึ่งหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการฝึกงานในญี่ปุ่น เมื่อกลับไปบ้านเกิดแล้วสามารถหางานทำได้
รายงานข่าวอ้างผลการศึกษาของ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ที่เผยแพร่ในเดือน มิ.ย. 2564 พบว่า ในเวลานั้น มีชาวเวียดนามเข้าร่วมโครงการในญี่ปุ่น 202,000 คน คิดเป็นร้อยละ 63.8 ของผู้เข้าร่วมทั้งหมดจากทุกประเทศ ส่วนใหญ่ทำงานในภาคก่อสร้าง เกษตร การบริการ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา จำนวนชาวเวียดนามที่เข้าร่วมโครงการฝึกงานในญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นอย่างมากในหลายสาขา โดยเฉพาะภาคก่อสร้างนั้นเพิ่มสูงถึง 9 เท่า
ทั้งนี้ หลายกรณีพบว่า บรรดาผู้เคยไปฝึกงานในญี่ปุ่น เมื่อเดินทางกลับเวียดนาม คนเหล่านี้ได้ใช้ทักษะภาษาญี่ปุ่นในการค้าขาย เป็นครูสอนภาษา ไปจนถึงเป็นที่ปรึกษาด้านการส่งออกแรงงาน ซึ่งบทสรุปของรายงานใช้คำว่า “สิ้นเปลืองทรัพยากรมนุษย์ (waste of human resources)” เนื่องจากล้มเหลวในการบรรลุวัตถุประสงค์ดั้งเดิมของโครงการ นั่นคือการถ่ายโอนทักษะ
การสำรวจของ JICA ที่ทำกับบริษัทในญี่ปุ่น 341 แห่ง และนายจ้างในเวียดนามมากกว่า 40 ราย พบว่า เป็นเรื่องยากที่ชาวเวียดนามซึ่งผ่านการฝึกงานในญี่ปุ่น จะได้งานทำเมื่อเดินทางกลับบ้านเกิด เนื่องจากขาดประสบการณ์ทำงานที่เหมาะสม ในความเป็นจริง ทักษะภาษาญี่ปุ่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่แรงงานกลุ่มนี้ได้เปรียบเพื่อนร่วมชาติ การสำรวจยังพบด้วยว่า ผู้เข้าร่วมโครงการฝึกงานในญี่ปุ่น หลายรายจบการศึกษาเพียง ม.ต้น หรือ ม.ปลาย และสามารถทำงานบางอย่างที่พวกเขาได้รับการฝึกอบรมในญี่ปุ่นเท่านั้น เมื่อกลับไปเวียดนามจึงต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อตามให้ทันแรงงานในท้องถิ่นที่มีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่า
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ชาวเวียดนามที่ซึ่งเข้าร่วมโครงการฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่สามารถหางานทำในบ้านเกิดได้ เช่น โรงงานในเวียดนามไม่มีเครื่องจักรแบบเดียวกับที่แรงงานเคยใช้ในญี่ปุ่น นอกจากนี้ แรงงานยังคาดหวังค่าจ้างที่สูงแบบเดียวกับที่เคยได้รับในต่างแดน กล่าวคือ ในการทำงานที่ญี่ปุ่น แรงงานกลุ่มนี้มีรายได้ 1,000-1,500 เหรียญสหรัฐ หรือราว 36,000-54,000 บาทต่อเดือน ซึ่งสูงกว่าค่าจ้างพนักงานใหม่ในเวียดนามราว 3-4 เท่า อนึ่ง ร้อยละ 23 ของนายจ้าง ระบุว่า ขาดช่องทางรับแรงงานกลุ่มนี้เข้าทำงาน
ญี่ปุ่นเริ่มต้นโครงการรับชาวต่างชาติเข้าไปฝึกงานมาตั้งแต่ปี 2536 เพื่อช่วยถ่ายทอดทักษะ เทคโนโลยีและความรู้ไปยังประเทศกำลังพัฒนา ขณะที่มีชาวเวียดนามกว่า 6 แสนคน ออกไปทำงานใน 50 ประเทศหรือดินแดน ในจำนวนนี้ 250,000 คนอยู่ในญี่ปุ่น 230,000 คนในไต้หวัน และ 40,000 คนในเกาหลีใต้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : โครงการฝึกงาน‘ญี่ปุ่น’ อีกเป้าหมาย‘ไทย’ขายแรง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี