‘แอฟริกา’ยกการ์ดสูง หวั่น‘อีโบลา’ระบาดลามข้ามประเทศ ผู้เชี่ยวชาญเผยติดแล้วโอกาสตายยิ่งกว่าโควิด
7 ต.ค. 2565 The Punch หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของไนจีเรีย เสนอข่าว Ebola deadlier than COVID-19, heighten surveillance, warn virologists เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2565 ตามเวลาท้องถิ่น ระบุว่า นักไวรัสวิทยาและนักระบาดวิทยาในประเทศไนจีเรีย เตือนภาครัฐทั้งส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นให้เฝ้าระวังการระบาดของไวรัสอีโบลา เนื่องจากผู้ติดเชื้อจะมีโอกาสเสียชีวิตสูงกว่าการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างมาก โดยเฉพาะการควบคุมการเดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด
ศ.ซันเดย์ โอมิลาบู (Prof.Sunday Omilabu) ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยลากอส กล่าวว่า อัตราการเสียชีวิตจากอีโบลาอยู่ที่ร้อยละ 80 ขณะที่โควิด-19 อยู่ที่เพียงร้อยละ 2 ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2565 หน่วยงานสาธารณสุขของประเทศยูกันดา ตรวจพบไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ซูดาน จากการตรวจคัดกรองที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลมาดูดู อำเภอมูเบนเด ทางตอนกลางของประเทศ จึงเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องให้ความรู้กับประชาชนทั้งการสังเกตอาการต้องสงสัย และวิธีการระมัดระวังตัวในชีวิตประจำวัน
เช่นเดียวกับ โอลาดิโป โคลาโวลี (Oladipo Kolawole) นักไวรัสวิทยา มหาวิทยาลัยอเดเลค (Adeleke University) กล่าวเสริมว่า รัฐบาลควรจัดตั้งระบบเฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพตามแนวชายแดน ตรวจสอบเที่ยวบินที่มาจากพื้นที่ที่เกิดการระบาดของเข้มงวด และประกาศคำแนะนำในการเดินทางกับประชาชนชาวไนจีเรีย ด้าน โมเสส อเดวูมี (Moses Adewumi) อาจารย์ภาควิชาไวรัสวิทยา วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอลเลจ ฮอสพิทัล , อิบาดัน (University College Hospital, Ibadan) ให้ความเห็นว่า ให้ทำงานเชิงรุกได้เลยไม่ต้องรอการแจ้งเตือน
“เราจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าอัตราการเฝ้าระวังเพิ่มขึ้น รัฐบาลไม่ควรผ่อนคลายการเฝ้าระวัง เกือบจะแน่ใจแล้วว่าสิ่งนี้อยู่กับเรา เราควรทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อปรับปรุงการเฝ้าระวัง มีการรับรู้ไม่เพียงพอ ไม่มีขอบเขตเมื่อพูดถึงโรคติดเชื้อ บางคนนอนอยู่ที่ไนจีเรีย ต่อมาอีก 6 ชั่วโมงก็ไปอยู่ที่ยุโรป หรือ 12-13 ชั่วโมงก็ไปอยู่สหรัฐอเมริกาแล้ว ถ้าเราเสริมการเฝ้าระวังของเราในขณะที่ผู้คนกำลังเข้ามา เรารับรองว่าพวกเขาจะถูกคัดกรองอย่างดี” อเดวูมี กล่าว
สตีเฟน ฟากเบมี (Stephen Fagbemi) นักระบาดวิทยาแห่งรัฐออนโด ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของไนจีเรีย เตือนให้ผู้คนระวังชาวต่างชาติโดยเฉพาะผุ้ที่เดินทางมาจากยูกันดา ทั้งนี้ ไนจีเรียอยู่ในสภาวะตื่นตัวสูง บรรดาผู้เชี่ยวชาญกำลังประเมินความเสี่ยงและยกระดับการแจ้งเตือน โดยเฉพาะเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังที่สนามบิน เพราะเป็นช่องทางการเข้ามาที่ง่ายที่สุดสำหรับการเดินทางมาจากยูกันดา และหากพบผู้ติดเชื้อ ก็มีสถานกักกันและรักษาโรคกระจายอยู่ในทุกรัฐที่มีสนามบินนานาชาติ
ด้านสำนักข่าวอัลจาซีราของกาตาร์ เสนอข่าว Africa CD, WHO to host regional meeting on Ebola in Uganda ระบุว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า เกี่ยวกับการระบาดของไวรัสอีโบลาซึ่งก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก โดย อาห์เม็ด อ็อกเวลล์ (Ahmed Ogwell) รักษาการผู้อำนวยการของศูนย์ฯ เปิดเผยว่า 3 ประเทศที่เคยได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสอีโอลาในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกช่วงปี 2557-2559 ประกอบด้วย เซียราลีโอน กินีและไลบีเรีย ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุม ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 12 ต.ค. 2565 ด้วยเช่นกัน
การระบาดของไวรัสอีโบลาระลอกล่าสุดเกิดขึ้นในภาคกลางของประเทศยูกันดา ปัจจุบันพบอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 69 ซึ่ง อ็อกเวลล์ ย้ำว่าเป็นอัตราที่สูงมาก อีกทั้งยังมีอัตราการสูญเสียบุคลากรสาธารณสุขเฉลี่ย 4 ใน 10 คน ปัจจุุบันพบผู้ติดเชื้อแล้ว 43 ราย ตามประวัติทั้งหมดไม่มีใครเคยอยู่ในเมืองหลวงคือกรุงคัมปาลา ทั้งนี้ ปัจจุบันมีกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้าถึง 860 คน และอย่างน้อยร้อยละ 78 กำลังถูกเฝ้าระวัง สถานการณ์รุนแรงขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
นักวิทยาศาสตร์ชาวยูกันดาและหุ้นส่วนของพวกเขาในต่างประเทศกำลังมองหาวิธีการปรับใช้ 1 ใน 2 วัคซีนที่เป็นไปได้กับไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ซูดาน ด้าน โยนาส เทเก็ก โวลเดมาเรียม (Yonas Tegegn Woldemariam) ผู้แทนองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำยูกันดา กล่าวว่า วัคซีนจากสถาบันวัคซีนซาบิน (Sabin Vaccine Institute) มีพร้อมใช้เพียง 100 โดสเท่านั้น
"ผู้ผลิตเหล่านี้มองหากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น เราไม่มีข้อมูลพอที่จะปรับใช้ในประชากรขนาดใหญ่และไม่มีอุปทาน (Supply-การจัดหา) อยู่ที่นั่น ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์กำลังตกลงบนระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์สำหรับการวิจัย และทันทีที่ระเบียบการตกลงกันได้ ผมคิดว่าวัคซีนจะถูกนำเข้ามาในยูกันดา ซึ่งก็หวังว่าจะมาในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ผู้ที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อทีได้รับการยืนยันจะถูกกำหนดเป็นเป้าหมายในการศึกษา” ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำยูกันดา กล่าว
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา สั่งซื้อชุดตรวจคัดกรองแล้ว 2 หมื่นชุด คาดว่าจะได้รับในช่วงต้นสัปดาห์หน้า และจะจัดส่งอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่สต็อกไว้ในสัปดาห์หน้าเช่นกัน โวลเดมาเรียม กล่าวว่า ห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ที่ตั้งขึ้นในโรงพยาบาลใกล้กับพื้นที่ระบาดได้ลดเวลาการตอบสนองสำหรับผลการตรวจลงเหลือ 6 ชั่วโมง ดังนั้นการตอบโต้สถานการณ์ของหน่วยงานด้านสาธารณสุขยูกันดานั้นจึงดีขึ้นทุกวัน
อีโบลาอาจตรวจคัดกรองได้ยากในช่วงแรกเรื่องจากอาการไข้ที่พบก็อาจเป็นอาการของโรคมาลาเรียได้เช่นกัน อีโบลาซึ่งปรากฏเป็นไข้เลือดออกจากไวรัส ติดต่อได้ผ่านการสัมผัสกับของเหลวในร่างกายของผู้ติดเชื้อหรือวัสดุที่ปนเปื้อน ผู้ติดเชื้อจะมีอาการ เช่น มีไข้ อาเจียน ท้องร่วง ปวดกล้ามเนื้อ และบางครั้งมีเลือดออกทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ประเทศยูกันดานั้นมีการระบาดของอีโบลาหลายครั้ง รวมถึงในปี 2543 ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 ราย โรคดังกล่าวพบครั้งแรกในปี 2519 ระบาดใน 2 ประเทศพร้อมกันคือซูดานใต้และคองโก ส่วนชื่ออีโบลานั้นมาจากชื่อของแม่น้ำที่อยู่ใกล้หมู่บ้านซึ่งเป็นจุดพบการระบาดครั้งแรก
ขอบคุณเรื่องจาก
https://punchng.com/
https://www.aljazeera.com/
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี