นูซา ดัว/เคียฟ (เอพี/รอยเตอร์ส) – ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า เรียกร้องให้มีการหยุดยิงนาน 1 เดือนในยูเครนในช่วงที่จะมีการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยระบุว่ากีฬาสามารถทำให้คนมารวมกันได้ ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ชี้การยึดคืนเมืองเคอร์ซอนของยูเครนคืนกลับมาจากรัสเซีย อาจเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบความขัดแย้งทางทหารระหว่างยูเครนกับรัสเซีย
จานนี อินฟันติโน ประธานฟีฟ่า กล่าวระหว่างมื้อเที่ยงของที่ประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือจี20 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ว่า ฟุตบอลโลก 2022 ที่จะเปิดฉากในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ที่กาตาร์ สามารถเป็นตัวกระตุ้นเชิงบวกให้แก่สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ดำเนินมาเกือบ 9 เดือน เขาขอร้องทุกคนให้พิจารณาเรื่องหยุดยิงชั่วคราวเป็นเวลา 1 เดือนในช่วงที่มีการแข่งขันจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม หากไม่สามารถหยุดยิงได้เต็มรูปแบบ ก็ขอให้มีการเปิดเส้นทางมนุษยธรรมหรือมีสิ่งใดก็ตามที่อาจจะนำไปสู่การฟื้นการเจรจาอีกครั้ง
ประธานฟีฟ่ากล่าวว่า ฟุตบอลเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนมารวมตัวกัน รัสเซียเพิ่งเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 ขณะที่ยูเครนก็กำลังร่วมกับสเปนและโปรตุเกสเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2030 จึงทำให้มั่นใจว่าฟุตบอลสามารถแก้ไขปัญหาของโลกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟุตบอลโลกที่จะเป็นเวทีเอกลักษณ์ เพราะคาดว่าจะมีคนมากถึง 5,000 ล้านคน หรือกว่าครึ่งหนึ่งของคนทั้งโลก ชมการถ่ายทอดสดมหกรรมกีฬานี้ จึงขอให้ใช้โอกาสนี้ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อสร้างจุดเริ่มต้นให้แก่การยุติความขัดแย้งทั้งปวง
ด้านความเคลื่อนไหวในยูเครน ล่าสุด ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน เดินทางเยือนเมืองเคอร์ซอนที่ซึ่งประชาชนยังคงเฉลิมฉลองที่ทหารยูเครนสามารถยึดคืนเมืองดังกล่าวคืนจากกองทัพรัสเซียได้ ประธานาธิบดีเซเลนสกี ระบุว่า การยึดคืนเมืองเคอร์ซอนของยูเครนกลับมาจากรัสเซียเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบสงครามที่ยาวนานและยากลำบาก เนื่องจากยูเครนต้องสูญเสียทหารผู้กล้าฝีมือดีไปเป็นจำนวนมาก ทั้งยังระบุว่า ยูเครนพร้อมเดินหน้าสู่สันติภาพ และสงครามครั้งนี้ก็มีเดิมพันสูงมาก
ผู้นำยูเครนยังได้กล่าวเมื่อคืนวันจันทร์หลังเสร็จสิ้นภารกิจเยือนเมืองเคอร์ซอนว่า ประชาชนในเมืองเคอร์ซอนต้องใช้ชีวิตท่ามกลางไฟดับ ถูกตัดการติดต่อสื่อสาร ไม่มีอินเตอร์เนต และไม่มีสัญญาณโทรทัศน์ เนื่องจากรัสเซียได้ทำลายระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเมืองเคอร์ซอนเกือบทั้งหมด ทั้งยังระบุว่า การตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซียหมายถึงสภาพบ้านเมืองที่พังทลายจนราบเป็นหน้ากลอง
ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ประกาศผนวกแคว้นเคอร์ซอนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในเดือนตุลาคม ขณะที่โฆษกของประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ระบุว่า การเดินทางเยือนเมืองเคอร์ซอนของผู้นำยูเครน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสถานะของแคว้นเคอร์ซอนที่ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแต่อย่างใด เพราะแม้สูญเสียเมืองท่าสำคัญนี้ไป รัสเซียยังคงครอบครองร้อยละ 70 ของทั้งแคว้นเคอร์ซอน และรัฐบาลรัสเซียยังยืนยันว่า ยังมีอธิปไตยเหนือดินแดนแห่งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี