วอร์ซอ/มอสโก (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส)-ประธานคณะเสนาธิการร่วมสหรัฐฯ และประธานคณะเสนาธิการร่วมยูเครนพบหน้ากันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่รัสเซียทำสงครามในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ด้าน ทำเนียบเครมลิน เผย การพบปะระหว่างผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซียกับผู้อำนวยการซีไอเอของสหรัฐฯ อาจเป็นไปได้
พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมสหรัฐฯ พร้อมทหารระดับสูง 6 นาย เดินทางทางบกไปยังพื้นที่ที่ไม่เปิดเผยแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของโปแลนด์ใกล้พรมแดนยูเครนเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น เพื่อพบหารือกับ พล.อ.วาเลอรีซาลูชนี ประธานคณะเสนาธิการร่วมยูเครน โฆษกของ พล.อ.มิลลีย์ เผยกับผู้สื่อข่าว 2 คนที่ติดตามไปทำข่าวว่า นายพลทั้ง 2 นายได้หารือสถานการณ์ในยูเครนกันอย่างสม่ำเสมอตลอดปีที่ผ่านมา โดยได้พูดคุยในรายละเอียดเกี่ยวกับการปกป้องยูเครนที่ถูกรัสเซียรุกรานแต่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน จึงคิดว่าการหารือเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งควรเป็นการพบหน้ากัน
เดิมคาดหวังกันว่า พล.อ.ซาลูชนีจะเดินทางไปกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม เพื่อร่วมการประชุมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมหลายประเทศในสัปดาห์นี้แต่เมื่อทราบชัดเจนเมื่อวันจันทร์ว่าเขาไม่สามารถเดินทางไปได้ จึงตัดสินใจทันทีว่าจะพบกันที่โปแลนด์ ใกล้ชายแดนยูเครน
รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เคยประกาศชัดเจนว่า จะไม่ส่งเจ้าหน้าที่ทหารไปยูเครน ยกเว้นผู้ไปปฏิบัติหน้าที่ให้แก่สถานทูตสหรัฐในกรุงเคียฟ โฆษกประธานคณะเสนาธิการร่วมสหรัฐชี้แจงว่า การพบหน้ากันเป็นครั้งแรกนี้ เพื่อให้ พล.อ.มิลลีย์นำข้อมูลและความกังวลของ พล.อ.ซาลูชนีไปแจ้งต่อที่ประชุมนาโตในวันพุธและพฤหัสบดีนี้หลังจากนั้น พล.อ.มิลลีย์จะไปร่วมประชุมกลุ่มติดต่อยูเครนที่ฐานทัพอากาศในเยอรมนีในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ กลุ่มนี้ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงประมาณ 50 คน คาดว่าที่ประชุมจะหารือเรื่องสถานการณ์ปัจจุบันในยูเครนและความจำเป็นทางทหารในอนาคต เนื่องจากภูมิประเทศในสนามรบจะเปลี่ยนจากแห้งแข็งในฤดูหนาว เป็นเปียกชื้นในฤดูใบไม้ผลิ
ในอีกด้านหนึ่ง ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน เปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้ที่การพบปะหารือระหว่างเซอร์เก นาริชกินผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย กับวิลเลียม เบิร์น ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอจะเกิดขึ้นอีก เพียงแต่ยังไม่ทราบวันเวลาที่ชัดเจนสำหรับการพบปะครั้งนี้ แต่นาริชกินเคยพบปะเบิร์น ผู้อำนวยการซีไอเอมาแล้วที่กรุงอังการาของตุรเคียเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
โฆษกทำเนียบเครมลินระบุด้วยว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกองทัพ ตั้งแต่ปี 2023 ถึงปี 2026 และจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางทหาร หลังรัสเซียติดหล่มในสงครามที่ยูเครน ทำให้ต้องมีการปฏิรูปกองทัพขนานใหญ่โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงว่า จะมีการยกระดับขีดความสามารถในการสู้รบให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นทั้งกองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองกำลังขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ การเสริมความแข็งแกร่งในโครงสร้างหลักของกองทัพมีความเป็นไปได้ เพื่อเป็นหลักประกันด้านความมั่นคงทางทหาร และการปกป้องสหพันธรัฐรัสเซีย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี