กองทัพปากีสถาน เปิดเผยว่า พลเอกเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ อดีตประธานาธิบดีปากีสถาน ถึงแก่อสัญกรรมแล้วที่นครดูไบ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยวัย 79 ปี คณะนายทหารระดับสูงของปากีสถาน กล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่วันนี้ว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุดต่อการอสัญกรรมของ พลเอกเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ

สื่อปากีสถานรายงานว่า พลเอกมูชาร์ราฟ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในนครดูไบ ช่วงเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยวัย 79 ปี หลังรักษาตัวมานานจากอาการป่วยเรื้อรัง

พลเอกมูชาร์ราฟ ก่อรัฐประหารในปี 2542 เป็นการยึดอำนาจโดยไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้อ หลัง นายนาวาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น พยายามจะปลดพลเอกมูชาราฟ ออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ภายหลังจากที่เพิ่งจะแต่งตั้งเขาให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกเมื่อ 1 ปีก่อนหน้านั้น เหตุเพราะมูชาร์ราฟสั่งการให้กองทัพปากีสถานปฏิบัติการในเขตอิทธิพลของอินเดีย ที่ภูมิภาคแคชเมียร์ จนเกือบบานปลายเป็นสงคราม

พลเอกมูชาร์ราฟ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2544 ถึงปี 2551 โดยในช่วง 7 ปีที่เขาบริหารประเทศ ปากีสถานมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จากการขับเคลื่อนนโยบายปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง และปากีสถานกลายเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ หลังเหตุวินาศกรรม 9/11 จนสามารถวิ่งเต้นให้รัฐบาลของ ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช มอบความสนับสนุนมหาศาลให้แก่กองทัพปากีสถาน ในขณะที่ตัวเขารอดพ้นการลอบสังหารอย่างน้อย 3 ครั้ง

มูชาร์ราฟมีแผนกลับมาครองอำนาจอีกครั้งในปี 2556 แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากถูกตัดสิทธิ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ที่ปรากฎว่า นายชารีฟ คู่ปรับคนสำคัญได้ชัยชนะ ในปี 2559 ศาลยกเลิกคำสั่งห้ามพลเอกมูชาร์ราฟ เดินทางออกนอกประเทศ ทำให้เขาเดินทางไปยังนครดูไบเพื่อเข้ารับการรักษาตัว ก่อนพำนักอยู่ที่นั่นมาโดยตลอด ต่อมาในปี 2562 ศาลตัดสินลับหลังให้ลงโทษประหารชีวิตมูชาร์ราฟในความผิดฐานก่อการกบฎ ก่อนกลับคำตัดสินในเวลาต่อมา

- 006