"อินโดนีเซีย"ยกระดับคุมเข้มสกัด"รองเท้ามือ 2" หลังพบลักลอบเข้ามาขายผ่านโครงการเพื่อสังคม

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ เสนอข่าว Indonesia to tighten used shoe import controls after Reuters report ระบุว่า รายงานข่าวสืบสวนของรอยเตอร์ กรณีรองเท้ามือสองที่ผู้บริจาคตั้งใจส่งไปเข้าโครงการรีไซเคิลในประเทศสิงคโปร์ แต่กลับไปพบวางขายในตลาดที่อินโดนีเซีย ส่งผลให้กระทรวงอุตสาหกรรมแดนอิเหนาประกาศเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ

รอยเตอร์เผยแพร่รายงานข่าวสืบสวนของตนเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2566 ซึ่งหนึ่งในกระบวนการตรวจสอบ คือการทดลองบริจาครองเท้าจำนวน 10 คู่ ผ่านโครงการรีไซเคิลที่ดำเนินการโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านปิโตรเคมีในสหรัฐอเมริกา ร่วมกับทางการสิงคโปร์ โดยติดตั้งเครื่องระบุพิกัดซ่อนไว้ใต้พื้นรองเท้า และในเวลาต่อมาก็พบว่า รองเท้าไปอยู่ที่ตลาดในกรุงจาการ์ตาและเมืองบาดัมของอินโดนีเซีย อันเป็นประเทศเพื่อนบ้านทางใต้ของสิงคโปร์

ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา ทางการอินโดนีเซียสั่งห้ามนำเข้าเสื้อผ้าและรองเท้ามือสองจากต่างประเทศ ด้วยเหตุผลทั้งด้านสุขอนามัยและเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมสิ่งทอในท้องถิ่น ซึ่ง อากัส กูมิวัง คาร์ตาซัสมิตา (Agus Gumiwang Kartasasmita) รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย กล่าวว่า รายงานของรอยเตอร์ ชี้ให้เห็นการนำเข้ารองเท้าใช้แล้วอย่างผิดกฎหมายนั้นดำเนินการอย่างเป็นระบบและใช้โครงการเพื่อสังคมในทางที่ผิด ดังนั้นต้องหยุดการนำเข้ารองเท้าใช้แล้วอย่างผิดกฎหมาย เพราะจะส่งผลกระทบในทางลบต่ออุตสาหกรรมรองเท้าในประเทศ

กระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ยังเสนอสิ่งจูงใจใหม่สำหรับผู้ผลิตรองเท้าในท้องถิ่นที่นำเข้าวัตถุดิบสำหรับธุรกิจของตน และกำหนดกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นสำหรับธุรกิจที่นำเข้าสิ่งทอ ทั้งนี้ ในเดือน ก.ค.2564 บริษัทปิโตรเคมีแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ กับรัฐบาลสิงคโปร์ ได้เปิดตัวโครงการที่จะบดรองเท้าเก่าที่มีพื้นเป็นยางให้เป็นเม็ดเพื่อใช้สร้างลู่วิ่งและสนามเด็กเล่นใหม่ ทำให้ประชาชนบริจาครองเท้าหลายหมื่นคู่ให้กับโครงการ แต่เมื่อมีข่าวดังกล่าวปรากฏขึ้น ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษในวันที่ 27 ก.พ.2566 กรณีมีรองเท้าบางส่วนถูกส่งไปอินโดนีเซีย

- 006