บลันไทร์ (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) -ยอดผู้เสียชีวิตจากไซโคลนเฟรดดีพัดถล่มทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกาเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 200 ศพแล้ว และคาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้นอีก เพราะยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก

รัฐบาลมาลาวีเปิดเผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไซโคลนเฟรดดีพัดถล่มเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 190 ศพแล้ว และมีผู้บาดเจ็บ 584 คน นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหายอีก 37 คน คาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้นอีกเพราะโอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตนั้นแทบจะไม่มีแล้ว ผู้เสียชีวิตในมาลาวีส่วนใหญ่เป็นเหยื่อโคลนถล่มในเมืองบลันไทร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าขายมีบ้านเรือนจำนวนมากถูกพัดพาไปกับกระแสโคลนที่ถล่มลงมาในช่วงกลางดึกที่ผู้คนกำลังนอนหลับทั่วประเทศมีประชาชนได้รับผลกระทบเกือบ 59,000 คน และมีคนไร้ที่อยู่กว่า 19,000 คน ที่ต้องไปอาศัยอยู่ตามโรงเรียนและโบสถ์เป็นการชั่วคราว

ส่วนที่โมซัมบิก ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านมีรายงานผู้เสียชีวิต 20 ศพ บาดเจ็บอีก 24 คน บ้านเรือนประชาชนและสาธารณูปโภคต่างๆ ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

การพัดถล่มแอฟริกาของไซโคลนเฟรดดีในครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง หลังจากที่ไซโคลนลูกดังกล่าวเคยพัดถล่มมาดากัสการ์ไปเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ จากนั้นเคลื่อนเข้าสู่โมซัมบิกเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันกว่า 20 ศพ ประชาชนได้รับผลกระทบเกือบ 4 แสนคนก่อนที่พายุจะเคลื่อนตัวลงสู่มหาสมุทรอินเดีย จนกระทั่งกลับมาทวีกำลังแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยความเร็วลมสูงสุดถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไซโคลนเฟรดดีเคลื่อนตัวเข้าถล่มโมซัมบิกอีกครั้งเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนจะพัดถล่มมาลาวีเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ นับเป็นพายุหมุนเขตร้อนที่เกิดขึ้นเป็นระยะเวลายาวนานที่สุด หลังจากที่พายุเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา