วอชิงตัน/ปักกิ่ง (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส) -หลังการเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่ได้ประกาศเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ จับมือรัสเซียพร้อมเผชิญหน้ากับตะวันตก รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประเมินว่า จีนได้กลายเป็นพี่ใหญ่ของรัสเซียแล้วในตอนนี้
ภายหลังประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เพิ่งเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนรัสเซียเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งเขาได้ร่วมประกาศจุดยืนความเป็นพันธมิตรที่ไร้ขีดจำกัดกับประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูตินผู้นำของรัสเซีย และลงนามความร่วมมือและข้อตกลงทวิภาคีมากมายในด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ รวมทั้งเน้นย้ำว่า ต้องการร่วมกันสร้างระเบียบโลกใหม่ ที่ลดอิทธิพลของชาติตะวันตกลง
ล่าสุด แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของวุฒิสภา โดยได้กล่าวสรุปการประเมินการเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีสีว่า เขามองความสัมพันธ์ครั้งนี้ว่า จีนถือเป็นพี่ใหญ่ของรัสเซีย และว่าประธานาธิบดีสีต้องการสร้างการเมืองโลกแบบหลายขั้วเพื่อจัดระเบียบโลกใหม่ แต่เขาเชื่อว่าประธานาธิบดีปูติน มีความต้องการไม่เหมือนกัน เพราะผู้นำรัสเซียน่าจะต้องการโลกที่ไร้ระเบียบมากกว่า
สำหรับประเด็นที่ว่า จีนกำลังพิจารณาช่วยเหลือรัสเซียด้านอาวุธเพื่อใช้ในสงครามยูเครน ที่เขาเคยกล่าวหาเอาไว้นั้น บลิงเคนกล่าวว่า จนถึงขณะนี้จีนยังไม่ได้ล้ำเส้นด้วยการส่งมอบอาวุธใดๆ ให้รัสเซีย อย่างไรก็ตาม แม้ไม่ได้มอบอาวุธ แต่เมื่อจีนให้ความสนับสนุนรัสเซียด้านการทูตและเศรษฐกิจ ก็ยิ่งทำให้ยุติสงครามได้ยากขึ้น
ด้าน หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้แถลงล่าสุดถึงข้อกล่าวหาส่งอาวุธให้รัสเซียด้วยว่า จีนไม่ได้เป็นผู้ก่อวิกฤตการณ์ขี้นในยูเครน และไม่เคยมอบอาวุธให้กับฝายใดเลย จึงขอให้สหรัฐฯ พิจารณาตัวเองให้ดีถึงบทบาทในสงคราม และยุติการสุมฟืนในกองไฟและหันมากล่าวโทษจีน
ขณะเดียวกัน ธนาคารโลกประเมินว่า ยูเครนจำเป็นต้องใช้เงินถึง 411,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 14 ล้านล้านบาท) ในการซ่อมสร้างและฟื้นฟูประเทศจากความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังจากการรุกรานของรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว หรือเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว การประเมินตัวเลขดังกล่าวร่วมกันดำเนินการโดยรัฐบาลยูเครน ธนาคารโลก คณะกรรมาธิการยุโรปและสหประชาชาติ เพิ่มขึ้นจาก 349,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11.9 ล้านล้านบาท)ที่ประมาณการไว้ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ทำให้ประชาชนหลายล้านคนต้องพลัดถิ่นฐาน และยังสงผลให้ราคาอาหารและพลังงานของโลกเพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เดนีส ชไมฮาล ของยูเครน กล่าวในแถลงการณ์ว่า ในปีนี้ ความจำเป็นเร่งด่วน 5 ด้านประกอบไปด้วย โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน บ้านพักอาศัย โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เศรษฐกิจและการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม โดยบางส่วนที่เกี่ยวกับการซ่อมสร้างได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว แต่เขาเตือนว่า ปริมาณความเสียหายและการฟื้นฟูที่จำเป็นในตอนนี้ไม่รวมข้อมูลเรื่องความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐาน บ้านเรือนและธุรกิจที่อยู่ในพื้นที่ที่ถูกยึดครอง หากได้ดินแดนเหล่านี้คืนมาเมื่อไหร่ เจ้าหน้าที่จะเริ่มดำเนินการฟื้นฟูความเสียหายต่อไป