12 พฤษภาคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมอร์ริก การ์แลนด์ รัฐมนตรียุติธรรมของสหรัฐฯ แถลงการณ์ว่า เขาอนุมัติการโอนเงินที่ยึดได้จาก คอนสแตนติน มาโลเฟเยฟ มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ให้กับยูเครน ซึ่งเป็นการโอนเงินครั้งแรกที่ยึดได้เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูบ้านเมืองยูเครน และจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาว่า คอนสแตนติน มาโลเฟเยฟ ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯ บังคับใช้ต่อรัสเซีย โดยอัยการกล่าวหาว่าเขาให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ชาวรัสเซีย เพื่อส่งเสริมการแบ่งแยกดินแดนในคาบสมุทรไครเมียของยูเครน ที่ถูกรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศในปี 2557
เมอร์ริก การ์แลนด์ ประกาศว่า กระทรวงฯ ยึดเงินหลายล้านดอลลาร์จากบัญชีของมาโลเฟเยฟ ในสถาบันการเงินของสหรัฐฯ ที่ตรวจสอบได้ว่าละเมิดมาตการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ภายหลังรัสเซียเปิดสงครามในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 การ์แลนด์ประกาศตั้งคณะทำงานชุดใหม่ที่ใช้ช่อว่า KleptoCapture เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบมหาเศรษฐีที่มีอิทธิพลทางการเมือง หรือ "โอลิการ์ช" ของรัสเซีย พยายามหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่ลงโทษต่อบุคคลหรือองค์กรในรัสเซียและจนถึงขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดทรัพย์สินหลายรายการของโอลิการ์ชหลายราย ซึ่งรวมถึงซูเปอร์ยอชต์หรูลำตัวยาว 106 เมตร ของสุไลมาน เกริมอฟ มูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์ ที่จอดเทียบท่าในฟิจิ
โดยเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วสภาคองเกรสของสหรัฐฯ อนุมัติกฎหมายที่อนุญาตให้ถ่ายโอนทรัพย์สินบางอย่างที่ยึดได้จากมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ให้กับยูเครนผ่านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ต่อมาเมษายนของปีนี้กระทรวงยุติธรรมขอให้สภาคองเกรสขยายรายการทรัพย์สินที่สามารถส่งมอบให้ยูเครน โดยเฉพาะเงินที่ยึดได้จากการละเมิดมาตรการควบคุมการส่งออกต่อรัสเซีย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี