ปักกิ่ง/วอชิงตัน (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - รัฐบาลจีนดำเนินการคว่ำบาตรบริษัทที่ดำเนินกิจการด้านการทหารของสหรัฐฯ 2 แห่ง ซึ่งได้แก่ ล็อกฮีด มาร์ติน
(Lockheed Martin) และ นอร์ทธรอป กรัมแมน (Northrop Grumman) เนื่องจาก 2 บริษัทดังกล่าวมีบทบาทในการจัดหาอาวุธให้กับไต้หวัน

เหมา หนิง โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวตามปกติว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้มุ่งมั่นในการจัดหาอาวุธให้กับไต้หวัน แม้ว่าจีนจะพยายามคัดค้านอย่างแข็งขัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออธิปไตยของจีนและผลประโยชน์ด้านความมั่นคง เธอกล่าวด้วยว่า ล็อกฮีด มาร์ติน เป็นผู้รับสัญญารายใหญ่ในการขายอาวุธให้กับไต้หวันที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม และนอร์ทธรอป กรัมแมน เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายอาวุธให้ไต้หวันหลายครั้ง ดังนั้น จีนจึงตัดสินใจใช้
มาตรการคว่ำบาตรบริษัททั้งสอง ตามกฎหมายต่อต้านการคว่ำบาตรของต่างชาติ (Anti-Foreign Sanctions Law) ของจีน

ทั้งนี้ รัฐสภาสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบัญญัติว่าด้วยความสัมพันธ์กับไต้หวัน กำหนดให้สหรัฐฯ ต้องจัดหาอาวุธให้กับไต้หวันเพื่อป้องกันตนเอง และตามปกติรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ผ่านมาใช้วิธีการขายมากกว่าการให้ความช่วยเหลือโดยตรง แต่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ อนุมัติการให้ความช่วยเหลือโดยตรงด้านการทหารให้กับไต้หวัน ภายใต้โครงการความช่วยเหลือที่ให้แก่รัฐบาลต่างประเทศ

ในอีกด้านหนึ่ง หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ของอังกฤษ รายงานอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และผู้ได้รับฟังรายงานสรุปว่าสหรัฐฯ เชื่อว่า พล.อ.หลี่ ซ่างฝู รัฐมนตรีกลาโหมจีนที่หายหน้าไปกำลังถูกรัฐบาลจีนสอบสวนและถูกปลดจากตำแหน่งแล้วก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายราห์ม เอมานูเอลเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่นโพสต์ในเอ็กซ์ (X) หรือทวิตเตอร์เดิมว่า สมาชิกในคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน กำลังเหมือนนวนิยายแนวฆาตกรรมของ อกาธา คริสตี้ เรื่อง “จนศพสุดท้าย (And Then There Were None)” เริ่มจาก ฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศ และ พล.อ.หลี่ ยู่เชา ผู้บัญชาการกองกำลังจรวดแห่งกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนที่หายหน้าไปและถูกปลดโดยไม่มีการชี้แจงในเดือนกรกฎาคม ล่าสุดคือ พล.อ.หลี่ ซ่างฝู ต่อมานายเอมานูเอลโพสต์ตั้งคำถามเมื่อวันพฤหัสบดีว่า พล.อ.หลี่หายหน้าไป 3 สัปดาห์แล้ว หรือว่าเขากำลังถูกกักบริเวณ

พล.อ.หลี่ วัย 65 ปี เพิ่งรับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมและมนตรีแห่งรัฐของจีนเมื่อวันที่ 12 มีนาคม เขาปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งหลังสุดด้วยการไปร่วมประชุมด้านความมั่นคงใกล้กรุงมอสโกของรัสเซียเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม จากนั้นในอีก 2 วันต่อมารัฐบาลเบลารุสได้เผยแพร่ภาพเขาพบกับประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ที่กรุงมินสก์