‘UN’ขอเปิดช่องทางช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมใน‘กาซา’ ด้าน ‘กาชาดสากล’หวั่นตัดไฟทำรพ.กลายเป็นสุสาน
12 ต.ค. 2566 สื่อต่างประเทศรายงานสถานการณ์ความยากลำบากของผู้อยู่อาศัยในดินแดนฉนวนากซาของปาเลสไตน์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการของกองทัพอิสราเอลเพื่อตอบโต้การโจมตีของกลุ่มติดอาวุธฮามาส โดย นสพ.The Peninsula ของกาตาร์ เสนอข่าว Lack of power supply turning Gaza hospitals into ‘graveyards’, warns Red Cross ระบุว่า คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) หรือกาชาดสากล แสดงความเป็นห่วงโรงพยาบาลในฉนวนกาซา ที่กำลังกลายเป็นสุสาน หลังไฟฟ้าถูกตัดทำให้การรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยไม่สามารถดำเนินการได้
ไฮชาม เอ็มฮันนา (Hisham Mhanna) เจ้าหน้าที่กาชาดสากลประจำฉนวนกาซา โพสต์คลิปวีดีโอผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า บริษัทพลังงานแห่งเดียวในดินแดนปาเลสไตน์อาจปิดตัวลงโดยสิ้นเชิง ซึ่งโรงพยาบาลทั่วฉนวนกาซากำลังประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรและอุปทาน ในขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บอาการสาหัสเพิ่มขึ้นทุกชั่วโมงเนื่องจากการทิ้งระเบิดของอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง
ด้านองค์การสหประชาชาติ (UN) เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ news.un.org หัวข้อ UN chief urges immediate action to prevent Israel-Gaza conflict spillover อ้างถ้อยแถลงของ อันโตนิโอ กูเตร์เรส (António Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติ เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอล-ฮามาส โดยแสดงความกังวลกับสถานการณ์ความขัดแย้งที่เริ่มลุกลามออกไป หลังมีรายงานว่าพบเหตุปะทะกันในบริเวณชายแดนอิสราเอล-เลบานอน และมีข้อเรียกร้องดังนี้
1.กลุ่มฮามาสต้องปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมดทันที โดยเน้นย้ำถึงหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่จะต้องคุ้มครองชีวิตพลเรือน กับ 2.บริการด้านมนุษยธรรมต้องสามารถเข้าถึงได้อย่างเร่งด่วน สถานที่ โรงพยาบาล โรงเรียน และคลินิกของสหประชาชาติจะต้องไม่ตกเป็นเป้าหมายการโจมตี ขณะที่สิ่งของช่วยชีวิตที่สำคัญ รวมถึงเชื้อเพลิง อาหาร และน้ำ จะต้องได้รับอนุญาตให้เข้าไปในฉนวนกาซาอย่างเร่งด่วนและไม่มีอุปสรรค
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) เปิดเผยเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2566 ว่า ยอดผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในอิสราเอลจากการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ และในฉนวนกาซาจากการทิ้งระเบิดของกองทัพอิสราเอล รวมถึงมีผู้พลัดถิ่นจำนวนมากทะยานไปทั่ววงล้อม และในวันเดียวกัน ฮามาดา เอล บายารี (Hamada El Bayari) เจ้าหน้าที่ OCHA ในเขตวงล้อม ยังกล่าวด้วยว่า ไม่มีพื้นที่แม้แต่เซนติเมตรเดียวในฉนวนกาซาที่ผู้คนสามารถรู้สึกปลอดภัยได้
“ขณะนี้พลเรือนราว 340,000 คนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น โดยราวร้อยละ 65 พยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาที่พักพิงจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ที่โรงเรียนของหน่วยงานบรรเทาทุกข์ของสหประชาชาติ (UNRWA) หรือในศูนย์พักพิงที่กำหนด สิ่งที่เราเห็นอยู่นั้นเหนือจินตนาการจริงๆ สงครามครั้งนี้ต้องสูญเสียไปอย่างมากและดูเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อบริการสาธารณะปิดตัวลงโดยอิสราเอลและไฟดับใกล้จะสมบูรณ์ ความล้มเหลวของระบบบำบัดน้ำเสียเป็นภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นอีกประการหนึ่งที่รอจะเกิดขึ้น ณ จุดนี้ ทุกนาทีที่ผ่านไป มันยิ่งแย่ลง” เอล บายารี กล่าว
กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล รายงานเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2566 ว่า มีชาวอิสราเอลมากกว่า 1,000 คน รวมถึงชาวต่างชาติ ถูกสังหารและบาดเจ็บอย่างน้อย 2,806 คน เช่นเดียวกับกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ ที่เปิดเผยว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 830 ราย และบาดเจ็บ 4,250 ราย อีกทั้งนับตั้งแต่การสู้รบของทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 7 ต.ค. 2566 มีรายงานประชากรในพื้นที่ฉนวนกาซากว่า 1 ใน 10 ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น และยังคงเพิ่มขึ้น
สำนักงานสนามของหน่วยงานบรรเทาทุกข์และการทำงานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ของ UN ในพื้นที่เสียชีวิตไปแล้ว 11 ราย มีนักเรียนเสียชีวิตในโรงเรียน 30 ราย และอีก 8 คนได้รับบาดเจ็บ ซึ่ง UNRWA เปรียบเสมือนเส้นชีวิตสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์เกือบสองล้านคนในฉนวนกาซา โดยให้บริการที่จำเป็น เช่น การศึกษาและการดูแลสุขภาพ
แต่ความขัดแย้งดังกล่าวส่งผลให้ศูนย์กระจายอาหารทั้ง 14 แห่งต้องปิด รวมทั้งลดการดำเนินงานลง นอกจากนี้ ชาวปาเลสไตน์ประมาณ 220,000 คนได้หาที่พักพิงในสิ่งอำนวยความสะดวกของ UNRWA ประมาณ 90 แห่งทั่ววงล้อมนี้ ซึ่ง จูเลียต โทมา (Juliette Touma) ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของ UNRWA กล่าวเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2566 ว่า เจ้าหน้าที่จำนวนมากยังคงทำงานอยู่ โดยร่วมมือกับโครงการอาหารโลก (WFP)
รายงานข่าวของ UN กล่าวต่อไปว่า ในเวลาเดียวกัน หน่วยงานของสหประชาชาติ รวมถึง WFP เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนของแนวทางด้านมนุษยธรรม และช่องทางการเข้าถึงที่ปลอดภัยและไม่มีอุปสรรคสำหรับบุคลากร ซึ่ง ซาเมอร์ อับเดลจาเบอร์ (Samer Abdeljaber) ผู้อำนวยการ WFP ประจำปาเลสไตน์ กล่าวว่า สถานการณ์นี้เหมือนเป็นหายนะ และเจ้าหน้าที่กำลังทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ ทั้งผู้ที่หนีออกจากบ้าน และผู้ที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง จะได้รับอาหารและช่วยเหลือที่จำเป็นสำหรับการมีชีวิตรอด
ภายหลังเหตุการณ์ความขัดแย้ง WFP ได้เริ่มแจกจ่ายอาหารให้กับผู้คน 100,000 คนในศูนย์พักพิง UNRWA โดยมีเป้าหมายที่จะเข้าถึงผู้คนได้มากกว่า 800,000 คน โดยต้องใช้เงิน 17.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 640 ล้านบาท เพื่อบรรเทาทุกข์ทันที และ 45 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1.6 พันล้านบาท ตลอดระยะเวลา 6 เดือน
ทอร์ เวนเนสแลนด์ (Tor Wennesland) เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นผู้ประสานงานพิเศษในกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลาง ยังคงมีส่วนร่วมกับฝ่ายต่างๆ ในความขัดแย้งและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักต่อไป โดยในวันที่ 11 ต.ค. 2566 ได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอียิปต์ ซาเมห์ ชูครี (Sameh Shoukry) และเจ้าหน้าที่อาวุโสคนอื่นๆ ซึ่งสิ่งสำคัญอันดับแรกคือการหลีกเลี่ยงการสูญเสียชีวิตของพลเรือนเพิ่มเติม และจัดให้มีการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา
ขอบคุณเรื่องจาก thepeninsulaqatar , news.un
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี