แผ่นดินไหวอัฟกานิสถานครบ 1 สัปดาห์
คาบูล - แผ่นดินไหวขนาด 6.3 ในจังหวัดเฮรัต ทางตะวันตกของอัฟกานิสถาน ผ่านมาครบ 1 สัปดาห์แล้ว แต่บรรดาผู้ประสบภัยจำนวนมากยังคงต้องนอนข้างถนนเป็นคืนที่ 7 คนที่บ้านไม่พังเสียหายก็ยังไม่กล้ากลับเข้าบ้าน เพราะกลัวว่าบ้านจะไม่แข็งแรงพอ และกลัวว่าจะเกิดแผ่นดินไหวซ้ำหรืออาฟเตอร์ช็อคอีก ขณะที่ทั้งเจ้าหน้าที่อัฟกานิสถาน และองค์การบรรเทาทุกข์หลายแห่ง ร้องขอเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนให้แก่ผู้ประสบภัยที่ไร้ที่อยู่อาศัยหลายพันคน เนื่องจากความช่วยเหลือของรัฐบาลต่อผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวแทบไม่มีเลย เหตุเพราะต่างประเทศตัดความช่วยเหลืออัฟกานิสถานมานาน 2 ปีแล้ว หลังจากตาลิบันขึ้นปกครองประเทศตั้งแต่ปี 2021 ส่วนยอดผู้เสียชีวิตก็ยังคงสับสนแม้ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้ว ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอัฟกานิสถานระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตกว่า 2,400 ราย แต่ปรับลดลงเหลือกว่า 1,000 ราย ล่าสุดระบุตัวเลขรวมผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บกว่า 4,000 คน แต่ไม่ได้แยกเป็นยอดผู้เสียชีวิตกับจำนวนผู้บาดเจ็บ ส่วนทางสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุล่าสุดเมื่อวันอังคาร มีผู้เสียชีวิต 1,294 ราย แต่เป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ได้มาจากเขตเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด
เตือนการค้าโลกกระทบหนัก
มาร์ราเกซ - เอ็นโกซี โอคอนโจ-อิเวลา ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ กล่าวที่เมืองมาร์ราเกช ประเทศโมร็อคโก ตั้งความหวังว่า ความขัดแย้งอิสราเอลกับฮามาสจะจบลงโดยเร็ว เนื่องจากมีแนวโน้มว่า ความขัดแย้งนี้อาจลุกลามจนกระจายไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก หวังว่าความรุนแรงทั้งหมดจะจบลง เพราะเป็นบ่อเกิดของความไม่แน่นอน ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมความไม่แน่นอนในโลกที่เกิดขึ้นอยู่แล้วในขณะนี้ และกำลังจำกัดการเติบโตของการค้าโลกอยู่ ผลกระทบนี้จะยิ่งหนักขึ้น จากการที่เกิดสงครามขึ้นอย่างไม่คาดฝันระหว่างอิสราเอลกับฮามาสล่าสุดนี้ ผู้อำนวยการการค้าโลก ซึ่งอยู่ที่โมร็อคโกในสัปดาห์นี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีองค์การการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ กับธนาคารโลก เตือนว่า ความรุนแรงในตะวันออกกลางจะกลายเป็นปัจจัยลบที่เพิ่มขึ้นมาอีกปัจจัยหนึ่ง ซ้ำเติมหลายปัจจัยที่กำลังบีบคั้นการค้าโลกอยู่แล้วในขณะนี้ ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยสูง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ตึงตัวของจีน และความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย
สิงคโปร์รับมือหมอกควันไฟรอบใหม่
สิงคโปร์ - สำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ หรือเอ็นอีเอ ระบุในคำแนะนำปัญหาหมอกควันประจำวันว่า สภาพอากาศแห้งเกิดขึ้นในพื้นที่โดยรอบเป็นส่วนใหญ่เมื่อวันศุกร์ โดยยังคงตรวจพบไฟป่าทั้งสิ้น 174 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้และกลางของเกาะสุมาตรา เมื่อเทียบกับ 66 จุดในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และจากภาพถ่ายดาวเทียม พบหมอกควันไฟปานกลางถึงหนาแน่นเหนือท้องฟ้าภาคใต้ของเกาะสุมาตรา คาดว่า กระแสลมที่พัดผ่านจะพัดมาจากตะวันออกเฉียงใต้เป็นส่วนใหญ่ สภาพอากาศแห้งคาดว่าจะยังคงมีอยู่จนถึงสุดสัปดาห์นี้ จึงมีโอกาสที่หมอกควันข้ามพรมแดน จะส่งผลกระทบต่อสิงคโปร์อีกในสุดสัปดาห์นี้หากสถานการณ์หมอกควันรุนแรงขึ้น และกระแสลมที่พัดผ่าน เปลี่ยนทิศทางเป็นพัดมาจากทางใต้ หรือตะวันตกเฉียงใต้ ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คุณภาพอากาศของสิงคโปร์ ลดลงสู่ระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2562 เนื่องจากกระแสลมพัดพาเอาหมอกควันจากไฟป่าในอินโดนีเซียลอยปกคลุมถึงสิงคโปร์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี