เทลอาวีฟ/เบรุต (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงอิสราเอลแล้ว หวังหามาตรการช่วยลดอันตรายที่เกิดกับพลเรือนในฉนวนกาซาให้เหลือน้อยที่สุดในขณะที่เกิดสงครามในฉนวนกาซา ขณะที่หลายฝ่ายจับตาผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนแถลงในวันศุกร์ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงอิสราเอลในวันศุกร์ และได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ตลอดจนพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ เพื่อหาหนทางในการลดความสูญเสีย และทำร้ายพลเรือนที่ติดค้างอยู่ในฉนวนกาซา ที่ซึ่งกำลังขาดแคลนทั้งน้ำ, อาหาร, ยารักษาโรค และน้ำมัน บลิงเคนกล่าวก่อนออกเดินทางว่า เขาจะพยายามแสวงหาขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมจากอิสราเอล เพื่อให้แน่ใจว่า การทำร้ายพลเรือนปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาจะลดลงเหลือน้อยที่สุด ในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ก็เรียกร้องให้มีการหยุดพักเพื่อเปิดทางให้กับความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม

บลิงเคนเดินทางเยือนอิสราเอลเป็นรอบที่ 2 นับตั้งแต่เกิดการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยกลุ่มฮามาสเริ่มโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวในเขตภาคใต้ของอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,400 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ทำให้อิสราเอลเอาคืนด้วยการระดมโจมตีเป้าหมายที่เป็นกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 9,000 ราย ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วยมากกว่า 3,700 ราย

ด้านทีโดรส อัดฮานาม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก แถลงที่นครเจนีวา ว่า มีผู้บาดเจ็บทั้งในฉนวนกาซาและอิสราเอลกว่า 21,000 คน และอีก 1.4 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัยในกาซา ระบุ คำสั่งบังคับอพยพโรงพยาบาล 23 แห่งในกาซา ทำให้ชีวิตของผู้ป่วยหลายร้อยคนต้องเสี่ยงอันตราย พร้อมเรียกร้องพักรบเพื่อมนุษยธรรมระหว่างอิสราเอล-ฮามาส เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ที่บาดเจ็บจากการสู้รบหลายพันคน

สถานการณ์สู้รบล่าสุด ฝ่ายอิสราเอลประกาศว่า ทหารอิสราเอลล้อมเมืองกาซา ซิต้ีได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ในการส่งทหารอิสราเอลบุกภาคพื้นดินครบ 1 สัปดาห์เมื่อวันที่ 3 พ.ย. และได้โจมตีสำนักงานใหญ่ฮามาส และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ของฮามาส ได้แก่ อุโมงค์ใต้ดิน แท่นยิงจรวด และยังคงถล่มทางอากาศกาซาต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน อิสราเอลยังโจมตีเมืองเจนิน ในเขตเวสต์แบงก์ ที่ไม่ได้อยู่ในความควบคุมของฮามาส ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 4 คน เกิดความรุนแรงในเวสต์แบงก์มานาน 18 เดือนแล้ว และสถานการณ์ยิ่งรุนแรงขึ้นหลังวันที่ 7 ตุลาคมที่อิสราเอลถูกฮามาสโจมตี โดยตำรวจอิสราเอลปะทะกับชาวปาเลสไตน์มากขึ้นในเวสต์แบงก์ ทำให้ชาวปาเลสไตน์ในเวสต์แบงก์เสียชีวิตไปแล้ว 121 คน

ในอีกด้านหนึ่ง ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน มีกำหนดแถลงจากย่านชานเมืองทางใต้ของกรุงเบรุต ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มช่วงเย็นวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อระลึกถึงสมาชิกกลุ่มที่ถูกอิสราเอลโจมตีเสียชีวิต ทั้งนี้ นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัว พรมแดนทางใต้ของเลบานอนก็เกิดการยิงปะทะรุนแรงขึ้น ส่วนใหญ่เป็นการปะทะระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เป็นพันธมิตรกับกลุ่มฮามาส จุดกระแสวิตกว่า สงครามอิสราเอล-ฮามาสจะบานปลายในระดับภูมิภาค มีคนในฝั่งเลบานอนถูกสังหารแล้วมากกว่า 70 ราย ในจำนวนนี้ 50 คนเป็นสมาชิกฮิซบอลเลาะห์ ขณะที่มีคนในฝั่งอิสราเอลถูกสังหาร 9 คน ในจำนวนนี้เป็นทหาร 8 นาย การปะทะทางใต้ของเลบานอนทวีความรุนแรงขึ้นในวันพฤหัสบดี เมื่ออิสราเอลโจมตีในวงกว้าง ตอบโต้ที่ฮิซบอลเลาะห์ถล่มที่ตั้งของอิสราเอล 19 แห่งพร้อมกัน นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า ฮิซบอลเลาะห์ไม่อยากเข้าไปพัวพันอย่างเต็มตัวกับสงครามที่อิสราเอลขู่ว่าอาจทำลายเลบานอน ขณะที่บางคนเชื่อว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของอิหร่าน แต่อามัล ซาอัด ผู้เชี่ยวชาญเรื่องฮิซบอลเลาะห์ของมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ในเวลส์แย้งว่าฮิซบอลเลาะห์เป็นพันธมิตรแต่ไม่ใช่ตัวแทนของอิหร่าน นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ในการสู้รบกับอิสราเอลมากกว่าอิหร่านที่ไม่เคยเผชิญหน้ากับอิสราเอลโดยตรง ฮิซบอลเลาะห์เคยทำสงครามใหญ่กับอิสราเอลในปี 2549 มีคนในเลบานอนเสียชีวิตมากกว่า 1,200 ราย และมีคนในอิสราเอลเสียชีวิต 160 ราย