วันที่ 5 มีนาคม 2567 นสพ.Daly Mail ของอังกฤษ รายงานข่าว Huge transsexual prostitute brawl sees hundred-strong 'ladyboy' mob fighting in Bangkok turf war, with escorts clambering over each other to tear off rivals' clothes and throw punches ระบุว่า ที่ประเทศไทย ในค่ำคืนของวันที่ 4 มี.ค. 2567 เกิดเหตุสาวประเภทสองชาวไทยและฟิลิปปินส์ ยกพวกตะลุมบอนที่บริเวณซอยสุขุมวิท 11 กรุงเทพฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมกำลังเพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์
เหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งมีผู้ถ่ายคลิปวีดีโอไว้และถูกแชร์ออกไป เผยให้เห็นภาพแห่งความชุลมุน มีทั้งการขว้างปาสิ่งของรวมถึงรองเท้าส้นสูง มีผู้ถูกกระทืบ และบางรายก็ถูกฉีกเสื้อผ้า รายงานยังระบุว่า กลุ่มสาวประเภทสองทั้ง 2 ชาติที่เข้าปะทะกัน ต่างทำงานบริการทางเพศ (Sex Worker) ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งการปะทะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนถึงใน สน.ลุมพินี สถานีตำรวจซึ่งรับผิดชอบท้องที่เกิดเหตุ โดยเบื้องต้นมีรายงานว่า สาวประเภทสองชาวฟิลิปปินส์ถูกควบคุมตัวเนื่องจากทำงานโดยไม่มีวีซ่าและใบอนุญาต
พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ (Yingyot Suwanno) ผกก.สภ.ลุมพินี เปิดเผยว่า เมื่อได้รับแจ้งเหตุสาวประเภทสองจำนวนมากรวมตัวกันบริเวณโรงแรมในซอยสุขุมวิท 11 จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปยังพื้นที่ดังกล่าวเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย และสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ส่วนผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ถูกเรียกไปสอบปากคำที่สถานที่ตำรวจ มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งบางส่วนก็เป็นผู้ร้องเรียน และจะเรียกบุคคลอื่นๆ มาสอบเพิ่มเติม โดยตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า กรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งของ “ย่านโคมแดง” หรือย่านที่มีการขายบริการทางเพศ ซึ่งโดดเด่นด้านราคาที่ไม่แพงและมีสีสันมากที่สุดในโลกนับตั้งแต่ทศวรรษ 1960 (ปี 2503-2512) เมื่อสหรัฐอเมริกาเข้าไปตั้งฐานทัพในประเทศไทย เช่น ในย่านพัฒน์พงศ์ มีบาร์หลายแห่งดำเนินกิจการโดยทหารสหรัฐฯ ขณะที่ในปัจจุบัน เมืองหลวงของไทยมีคลับเปลื้องผ้า บาร์อะโกโก้ ร้านนวด และผู้ขายบริการทางเพศที่หาลูกค้าอยู่ริมถนนจำนวนมาก ซึ่งนอกจากโสเภณีชาวไทยแล้ว ยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาประกอบอาชีพดังกล่าวด้วย
และแม้ในประเทศไทยจะกำหนดให้โสเภณีเป็นอาชีพผิดกฎหมาย แต่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริการทางเพศก็ดำรงอยู่ได้ในทางปฏิบัติเนื่องจากมีการจ่ายผลประโยชน์ให้กับผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 108 จาก 180 ประเทศทั่วโลก ในการจัดอันดับความโปร่งใสขององค์กรระหว่างประเทศอย่าง Transparency International ครั้งล่าสุด ซึ่งพบว่า 1 ใน 4 ของเจ้าหน้าที่รัฐได้รับสินบนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และร้อยละ 88 ของผู้อยู่อาศัยมองว่า การทุจริตของภาครัฐเป็นปัญหาใหญ่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สตม.1 ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงเเรมกะเทยปินส์เข้าพัก ยันไม่มีการค้าประเวณีตามที่กล่าวอ้าง
สาวสองไทยเล่าเป็นฉากๆ จุดเริ่มต้นของเรื่อง ปะทะ 'สาวสองปินส์'
สาวสองไทยถูกทำร้ายไม่เชื่อ สาวสองฟิลิปปินส์เข้ามาเที่ยว ชี้ทุกคนรวมตัวทวงศักดิ์ศรี หลังถูกเหยียดหยาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี