ยุติค้นหา : สภาพโครงสร้างที่หักงอของสะพาน ฟรานซิส สกอตต์ คีย์ ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ของสหรัฐฯ หลังจากถูกเรือสินค้าต้าหลี่ สัญชาติสิงคโปร์ พุ่งชนช่วงกลางดึกคืนวันจันทร์ต่อเนื่องเช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ล่าสุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยยุติการค้นหาผู้สูญหาย 6 คน ที่ตกลงไปในแม่น้ำพร้อมกับสะพานที่พัง เนื่องจากเชื่อว่าทั้งหมดน่าจะเสียชีวิตแล้ว
บัลติมอร์ (รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น)-ทีมกู้ภัยสหรัฐฯ ยุติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์สะพานถล่มในเมืองบัลติมอร์รัฐแมริแลนด์ หลังจากถูกเรือสินค้าขนาดใหญ่พุ่งชนแล้ว คาดผู้สูญหายทั้ง 6 คน น่าจะเสียชีวิตทั้งหมด ขณะที่มีการเปิดเผยว่าเจ้าพนักงานนำร่อง 2 คน บนเรือลำนี้เป็นชาวเมืองบัลติมอร์ แต่เรือประสบเหตุไฟฟ้าขัดข้องไม่นานก่อนพุ่งชนสะพาน
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า การค้นหาคนงานที่สูญหาย 6 คนยุติลงหลังผ่านพ้นเหตุการณ์สะพานถล่มไปแล้ว 18 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นเมืองบัลติมอร์เปิดเผยว่า ด้วยเวลาที่ยาวนานและน้ำในแม่น้ำมีอุณหภูมิที่เย็นจัดไม่ถึง 8 องศาเซลเซียส ทำให้คาดว่าคนงานทั้ง 6 คนที่ร่วงลงสู่แม่น้ำไม่น่าจะมีชีวิตรอด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สามารถช่วยชีวิตขึ้นมาได้ 2 คน ในจำนวนนี้ 1 คนอาการสาหัสและกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ขณะที่ในวันพุธที่ 27 มี.ค. ทีมนักประดาเตรียมจะลงไปค้นหาในแม่น้ำอีกครั้งเพื่อจะนำร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำ
เหตุการณ์เรือสินค้าพุ่งชนเสาค้ำยันของสะพานเกิดขึ้นเมื่อเวลาก่อนรุ่งสางของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น (26 มี.ค.) เรือลำดังกล่าวมีชื่อว่า ต้าหลี่ เรือบรรทุกสินค้าสัญชาติสิงคโปร์ เบื้องต้นมีรายงานว่าเรือประสบปัญหาไฟฟ้าดับ ทำให้สูญเสียแรงขับชั่วคราว ก่อนที่เรือจะพุ่งชนเข้ากับเสาค้ำยันสะพาน ฟรานซิส สกอตต์ คีย์ที่พาดผ่านแม่น้ำปาทัปสโกบริเวณปากอ่าวบัลติมอร์ ในรัฐแมริแลนด์ เป็นเหตุให้โครงสร้างของตัวสะพานพังถล่มลงมาทั้งหมด แต่เจ้าหน้าที่บนเรือได้แจ้งต่อตำรวจเมืองบัลติมอร์ ทำให้สามารถสั่งปิดการจราจรบนสะพานได้ทัน โดยคนที่อยู่บนสะพานมีเพียงเจ้าหน้าที่ที่กำลังซ่อมแซมผิวถนนบนสะพาน แม้จะมีรายงานว่ามียวดยานร่วงลงสู่แม่น้ำด้วยการแจ้งปิดการสัญจรบนสะพานดังกล่าวจึงช่วยป้องกันความสูญเสียเอาไว้ได้เป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ซินเนอร์จีมารีน กรุ๊ป (Synergy Marine Group) บริษัทในสิงคโปร์ที่บริหารจัดการเรือต้าหลี่ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับหนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทมส์ในสิงคโปร์ว่า เจ้าพนักงานนำร่อง 2 คน ที่อยู่บนเรือในขณะที่เกิดเหตุเป็นชาวบัลติมอร์ทั้งคู่ ส่วนลูกเรือทั้ง 22 คน เป็นชาวอินเดียที่บริษัทเป็นผู้จัดจ้างและดูแล ทั้งหมดปลอดภัยดีขณะนี้พนักงานของบริษัทได้ไปอยู่ในพื้นที่แล้ว เพื่อให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สอบสวนของสหรัฐฯ อย่างเต็มที่
สำหรับสะพาน ฟรานซิส สกอตต์ คีย์ (Francis Scott Key Bridge) แห่งนี้ทอดข้ามทางเข้าท่าเรือบัลติมอร์ ซึ่งเป็นท่าเรือพลุกพล่านเป็นอันดับ 9 ของสหรัฐฯและพลุกพล่านที่สุดสำหรับการส่งออกยวดยาน โดยเมื่อปี 2566 มีการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศน้ำหนักรวมมากกว่า 47 ล้านตัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทางการท้องถิ่นสั่งระงับการเดินเรือทั้งหมดผ่านท่าเรือแห่งนี้โดยไม่มีกำหนด
มาร์โก โฟร์จอยน์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งออกและการค้าระหว่างประเทศของสหราชอาณาจักร เผยกับบรรษัทแพร่ภาพและกระจายแห่งอังกฤษ หรือ บีบีซี ว่า การระงับการเดินเรือผ่านท่าเรือบัลติมอร์จะส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานโลกเฉพาะปี 2566 มีการส่งออกรถยนต์และยวดยานผ่านท่าเรือนี้มากกว่า 750,000 คันมีทั้งแบรนด์ใหญ่ของสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป บัลติมอร์ยังเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจีรายใหญ่ราวเดือนละ 500,000 ตัน จึงมีความหมายสำคัญต่อสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป นอกจากนี้ ท่าเรือบัลติมอร์ยังจ้างงานคนโดยตรง 15,000 ตำแหน่ง และโดยอ้อมอีกราว 140,000 ตำแหน่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี