ประท้วงแบน : กลุ่มผู้สื่องานแอปพลิเคชั่นติ๊กต็อก (TikTok) ในสหรัฐฯ ยืนถือป้ายประท้วงด้านนอกอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตันดี.ซี. หลังจากวุฒิสภาสหรัฐฯ ลงคะแนนเสียงท่วมท้นให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายที่กำหนดให้
วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น) -วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายที่กำหนดให้บริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance)ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแอปพลิเคชั่นติ๊กต็อก (TikTok) ที่ให้บริการแชร์คลิปวีดีโอสั้นยอดนิยม ให้ขายหุ้นในส่วนของกิจการนี้
ในสหรัฐฯ ภายในระยะเวลาประมาณ9 เดือน มิฉะนั้นจะถูกสั่งห้ามใช้แอปนี้ในสหรัฐฯ
ร่างกฎหมายนี้ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนจะได้รับไฟเขียวจากวุฒิสภาเมื่อวันอังคารที่ 23 เม.ย. เป็นผลมาจากความกังวลว่า จีนจะสามารถเข้าถึงข้อมูลของชาวอเมริกัน ร่างกฎหมายนี้จะถูกส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อลงนามประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป ซึ่งไบเดนกล่าวว่า เขาจะลงนามในร่างกฎหมายฉบับนี้ในวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ (24 เม.ย.) โดยหลังจากที่ร่างกฎหมายนี้ถูกลงนามประกาศใช้ ไบต์แดนซ์ จะมีเวลา 270 วันเพื่อขายหุ้นใน ติ๊กต็อก โดยทางการสหรัฐฯอาจขยายเวลาให้อีก 3 เดือน หากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าข้อตกลงกำลังเดินหน้า
มาร์โก รูบิโอ ประธานคณะกรรมการข่าวกรองแห่งวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน ระบุ เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่สหรัฐฯ ปล่อยให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนควบคุมแอปยอดฮิตที่สุดตัวหนึ่งในอเมริกา ซึ่งเป็นมุมมองตื้นเขินที่อันตราย กฎหมายใหม่นี้จะบังคับให้เจ้าของชาวจีนต้องขายแอปดังกล่าว ถือย่างก้าวที่จะส่งผลดีต่ออเมริกา
ด้านติ๊กต็อกกล่าวว่า ไม่ได้แบ่งปันข้อมูลและจะไม่ส่งต่อข้อมูลผู้ใช้งานติ๊กต็อกในสหรัฐฯ ให้กับรัฐบาลจีน พร้อมกับกล่าวว่า กฎหมายที่ห้ามใช้งานติ๊กต็อกในสหรัฐฯ ถือเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความเห็นของผู้ใช้งานติ๊กต็อก นอกจากนั้น ติ๊กต็อกแจ้งแก่พนักงานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า จะต่อสู้ต่อไปเพื่อให้ศาลสั่งให้ระงับการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ โดยเตรียมที่จะยื่นคัดค้านกฎหมายนี้ อ้างว่าขัดต่อบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญอเมริกันครั้งที่ 1 (First Amendment) ที่ให้หลักประกันว่าจะต้องไม่มีการออกกฎหมายที่ขัดต่อเสรี ทางศาสนา เสรีภาพทางการแสดงออก และเสรีภาพสื่อ ขณะเดียวกัน ก็คาดว่าจะมีผู้ใช้ติ๊กต็อกจำนวนหนึ่ง ที่คัดค้านมาตรการของสหรัฐฯ ด้วย
มรสุมทางกฎหมายที่ยืดเยื้อมานาน 4 ปีของติ๊กต็อก ซึ่งมีผู้ใช้งาน 170 ล้านคนในสหรัฐฯ เป็นเพียงหนึ่งในหลายความขัดแย้งและมุมมองด้านอินเตอร์เนตและเทคโนโลยีที่ไม่ตรงกัน ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แอปเปิล (Apple) ก็ประกาศว่าถูกรัฐบาลจีนสั่งให้ถอด WhatsApp และ Threads ของค่าย Meta ออกจาก App Store ในจีน โดยอ้างว่ากระทบต่อความมั่นคงเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี