26 กันยายน 2567 จากกรณีที่ 'ฌอน 'ดิดดี' โคมบ์ส' (P. Diddy) เจ้าพ่อแร็ปเปอร์คนดังชาวอเมริกา วัย 54 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐเข้าจับกุมตัวในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อเย็นวันที่ 16 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีเขาในหลายข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ โดยเขาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาข่มขู่-กรรโชกทรัพย์ และค้าประเวณี และยังคงถูกควบคุมตัวในเรือนจำระหว่างพิจารณาคดี (ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เจ้าพ่อแร็ปเปอร์อ่วม! ศาลสั่งห้ามประกันตัว โดนหนักข้อหากรรโชกทรัพย์-ค้ากาม)
ซึ่งเมื่อไล่ไทม์ไลน์จากเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566 แคสซี เวนทูรา (Cassie Ventura) อดีตแฟนสาวของแรปเปอร์ดัง ออกมายื่นฟ้องเขาในข้อหาทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศ ตลอดช่วงที่ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ระหว่างปี 2550 - 2561 โดยเธอถูกดิดดี้ทำร้ายจิตใจ
ในเอกสารคำฟ้อง เคสซี ระบุ ว่าดิดดี้และบุคคลอื่นๆ กระทำการค้ามนุษย์ ค้าประเวณี ล่วงละเมิดทางเพศ ใช้ความรุนแรง คุกคามทางเพศ ตลอดจนเลือกปฏิบัติทางเพศ รวมถึงแฉเรื่องที่เธอเคยถูกเขาทำร้ายร่างกายบริเวณทางเดินของโรงแรมในปี 2559 แต่หลังยื่นฟ้องเพียงแค่วันเดียว ดิดดี้และแคสซีก็ตกลงยอมความกัน โดยทั้งคู่ออกแถลงการณ์ว่าเรื่องดังกล่าวได้รับการแก้ไขโดยสันติแล้ว ซึ่งทนายของดิดดี้ย้ำว่า การยอมความนี้ไม่ถือเป็นการรับสารภาพ
นับจากการแฉของแคสซี เวนทูรา ก็เริ่มมีเหยื่อสาวอีกมากมายออกมายื่นฟ้องเอาผิดดิดดี้ในคดีเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ เริ่มจากวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 หญิง 2 รายยื่นฟ้องต่อศาลสูงนิวยอร์ก โดยคนที่ 1 ชี้ว่าเธอถูกดิดดี้วางยาและข่มขืนเมื่อปี 2534 ขณะที่เธอยังเป็นนักศึกษา โดยที่เขาถ่ายคลิปขณะก่อเหตุส่งไปให้คนอื่นดูด้วย
ขณะที่หญิงคนที่ 2 ชี้ว่าถูกดิดดี้ กับ แอรอน ฮอลล์ (Aaron Hall) จากวง Guy ทำร้ายและข่มขืนเมื่อปี 2533 ขณะที่เธออายุแค่ 16 ปี ดิดดี้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาจากเหยื่อทั้ง 2 ราย ผ่านโพสต์ในอินสตาแกรมในเดือนธันวาคม 2566 บอกเป็นการกล่าวหาอันน่ารังเกียจจากคนที่ต้องการเงิน แต่ขณะที่คดีเก่ายังไม่เคลียร์
หญิงคนที่ 3 ออกมายื่นฟ้องเพื่อเอาผิดดิดดี้กับจำเลยอีก 2 คน ในข้อหาค้าประเวณีและบังคับข่มขืน ร่วมกับข้อกล่าวหาอื่นๆ โดยตอนที่เธออายุ 17 ปี เหยื่อสาวถูกดิดดี้มอมเหล้าและยา ก่อนส่งเธอขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปนิวยอร์ก และเธอก็ถูกจำเลยทั้ง 3 คนข่มขืนในสตูดิโอของดิดดี้ ซึ่งดิดดี้ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ผ่านทางอินสตาแกรม
ต่อมาสิ่งที่ทำให้ทั่วโลกฮือฮาอย่างหนัก เมื่อทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดจากเหตุการณ์ที่ดิดดี้ ทำร้ายอดีตแฟนสาวเมื่อปี 2559 เปิดเผยให้เห็นจังหวะที่ดิดดี้นุ่งผ้าขนหนู เดินกวดไล่ตาม แคสซี เวนทูรา มาตามโถงทางเดินของโรงแรม ก่อนที่เขาจะเตะเธอ ทำร้ายร่างกายเธอ ทั้งยังขว้างแจกันแก้วใส่เธอ จากเหตุการณ์ที่เขาเคยออกมาปฏิเสธสิ่งที่ถูกกล่าวหาไปก่อนหน้านี้ ทำให้ดิดดี้ต้องออกมายอมรับเรื่องทำร้ายร่างกายอดีตแฟนสาวจริงและยอมที่จะขอโทษเธอ
16 กันยายน 2567 'ฌอน 'ดิดดี' โคมบ์ส'ก็ถูกจับในที่สุด หลังคณะลูกขุนลงมติฟ้องเขาในข้อหาสมคบคิดฉ้อโกง ค้ามนุษย์ขนส่งเพื่อการค้าประเวณี ซึ่งต่อมาอัยการชี้ว่าแรปเปอร์ดังใช้อาณาจักรธุรกิจของตัวเองเป็นองค์กรอาชญากรรม ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี บังคับใช้แรงงาน ลักพาตัว และทำร้ายร่างกายผู้หญิงมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี พร้อมกับข้อกล่าวหาอื่นๆ ที่เขายืนกรานปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งหากเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดตามข้อกล่าวหาเหล่านี้ อาจต้องลงเอยด้วยการรับโทษจำคุกตลอดชีวิต
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า'ฌอน 'ดิดดี' โคมบ์ส' คือหนึ่งในผู้ผลักดันการเป็นศิลปินของ 'จัสติน บีเบอร์' (Justin Bieber) ซึ่งประเด็นนี้ทำให้โซเชียลมีการขุดคลิปเก่าๆ ของทั้งคู่มาพูดถึง หนึ่งในนั้นคือคลิปจากปี 2552 ขณะที่จัสตินอายุเพียง 15 ปี โดยชาวเน็ตตั้งข้อสังเกตว่าดิดดี้ในวัย 40 ปี กำลังแสดงพฤติกรรมที่น่าขนลุกกับจัสติน บีเบอร์ พูดถึงช่วงเวลา 48 ชั่วโมง ที่เขาจะต้องอยู่กับจัสติน ในทำนองที่ว่า "เราไปแฮงก์เอาต์ที่ไหนและทำอะไรกัน เราไม่สามารถเปิดเผยได้จริง ๆ แต่นั่นจะต้องเป็นความฝันของคนวัย 15 อย่างแน่นอน"
นอกจากนี้ยังมีคลิปที่จัสตินต้องการต้องปกป้องศิลปินรุ่นน้องอย่าง บิลลี ไอลิช (Billie Eilish) จากอุตสาหกรรมนี้ด้วย โดยเป็นบทสัมภาษณ์จากปี 2563 ตอนนั้น จัสตินในวัย 30 ปี ถึงกับหลั่งน้ำตาขณะแชร์ประสบการณ์ของตัวเองหลังประสบความสำเร็จในวัยเพียง 14 ปี และเซ็นสัญญากับ Usher จัสตินพูดออกมาว่า “มันเป็นเรื่องยากสำหรับผมที่อายุน้อยและต้องอยู่ในวงการนี้ โดยไม่รู้ว่าจะต้องหันไปทางไหน ทุกคนก็บอกว่าพวกเขารักผม แต่ก็หันหลังให้ผมในชั่ววินาที ผมแค่อยากจะปกป้องเธอ (บิลลี) ผมไม่อยากให้เธอต้องพบเจอทุกๆ อย่างที่ผมเคยเจอมา ผมไม่ปรารถนาให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นกับใครทั้งนั้น”
นอกจากนี้ยังมีวีดีโอที่บันทึกภาพแสดงให้เห็นว่าดิดดี้ยื่นเหล้าให้จัสตินคุกเข่าดื่มบริเวณระหว่างขา รวมถึงมีข่าวลือว่าถูกดิดดี้บังคับให้ถ่ายวิดีโอ เพื่อนำไปขายต่อกับคนดัง ซึ่งทำให้โซเชียลตั้งข้อสงสัยว่า จัสติน บีเบอร์ อาจเคยเป็นเหยื่อของดิดดี้หรือไม่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการยืนยันข้อเท็จจริงที่แน่ชัดก็ตาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี