5 ธ.ค. 2567 นสพ.Asahi Shimbun ของญี่ปุ่น รายงานข่าว S. Korea’s ruling party head supports suspending Yoon’s powers, boosting chances of impeachment ระบุว่า ฮัน ตง-ฮุน (Han Dong-hun) หัวหน้าพรรค People Power Party ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลเกาหลีใต้ และเป็นพรรคต้นสังกัดของประธานาธิบดี ยูน ซุก-ยอล (Yoon Suk-yeol) กล่าวในการประชุมพรรค ว่าตนสนับสนุนมาตรการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของยูน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ยูนอาจทำอะไรรุนแรงขึ้นมาอีก เช่น การประกาศกฎอัยการศึกเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งจะเป็นอันตรายกับประเทศชาติและประชาชน
หลังจากประกาศกฎอัยการศึกเมื่อคืนวันที่ 3 ธ.ค. 2567 แต่ถูกต่อต้านอย่างหนักจากประชาชน รวมถึงสมาชิกรัฐสภาได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ไม่ยอมรับ ทำให้ยูนต้องประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกในเวลาหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง และพรรคฝ่ายค้านกำลังผลักดันให้มีการลงมติในรัฐสภาเกี่ยวกับการถอดถอนยูนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 7 ธ.ค. 2567 โดยกล่าวหายูนว่ากระทำการเป็นกบฏหรือก่อรัฐประหารที่ผิดกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตาม หากจะให้ญัตติดังกล่าวผ่าน ฝ่ายค้านจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลบางส่วนเพื่อให้ได้จำนวนเสียงในสภาเกิน 2 ใน 3 อันเป็นเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ซึ่งท่าทีล่าสุดของหัวหน้าพรรค People Power Party ทำให้ถูกมองว่ายูนอาจมีโอกาสสูงขึ้นที่จะถูกถอดถอน โดยฮันอ้างว่า ตนได้รับข้อมูลข่าวกรองว่ายุนได้สั่งการให้ผู้บัญชาการข่าวกรองด้านการป้องกันประเทศจับกุมนักการเมืองคนสำคัญที่ไม่ได้ระบุชื่อ โดยอิงจากข้อกล่าวหาว่าทำกิจกรรมต่อต้านรัฐในช่วงกฎอัยการศึก
การถอดถอนยูนจะต้องได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาอย่างน้อย 200 คนจากทั้งหมด 300 คน ขณะนี้พรรคฝ่ายค้านที่ร่วมกันยื่นญัตติถอดถอนมีที่นั่งรวมกัน 192 คน ขณะที่นักการเมืองฝั่งพรรครัฐบาลมีอยู่ 108 คน ซึ่งเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2567 แม้ฮันจะวิพากษ์วิจารณ์การประกาศกฎอัยการศึกของยุนว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ก็บอกด้วยว่าตนจะขัดขวางการยื่นญัตติถอดถอน เพราะมีความจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้ประชาชนและผู้สนับสนุนพรรคได้รับความเสียหายจากความวุ่นวายที่ไม่ได้เตรียมตัวไว้
ฮันเคยถูกมองว่าเป็นเพื่อนร่วมงานใกล้ชิดของยุน เนื่องจากทั้งคู่เติบโตมาในสายงานอัยการเหมือนกันก่อนจะหันมาเล่นการเมือง อีกทั้งเมื่อยูนรับตำแหน่งประธานาธิบดีใหม่ๆ ยังแต่งตั้งฮันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดแรก แต่เมื่อฮันเติบโตในวงการเมืองและกลายเป็นหัวหน้าพรรค ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มแย่ลง เนื่องจากมีความเห็นขัดแย้งกันว่าจะจัดการกับเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับยุนและภรรยาอย่างไร
ฮันเป็นผู้นำกลุ่มนักการเมืองส่วนน้อยในพรรคฝ่ายรัฐบาล และสมาชิกรัฐสภา 18 คนในกลุ่มของเขาได้ลงคะแนนร่วมกับสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านเพื่อยกเลิกกฎอัยการศึกของยูน ทั้งนี้ หากมติสภาออกมาว่าให้ถอดถอน ยูนจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเป็นขั้นสุดท้ายว่าจะให้ยูนพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ โดยระหว่างนั้น ฮัน ดั๊ก-ซู (Han Duck-soo) นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้นำหมายเลข 2 ของประเทศ จะเข้ามารับหน้าที่รักษาการแทนประธานาธิบดี
ลี แจ-เมียง (Lee Jae-myung) หัวหน้าพรรค Democratic Party ซึ่งเป็นพรรคแกนนำฝ่ายค้าน เรียกร้องเช่นกันว่าจะต้องให้ยูนหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยเร็วที่สุด ซึ่งการประกาศกฎอัยการศึกของยุนเป็นการก่อกบฏและรัฐประหารตนเอง ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อภาพลักษณ์ของประเทศและทำลายนโยบายต่างประเทศ โดยอ้างถึงท่าทีของผู้นำจากนานาชาติที่วิพากษ์วิจารณ์และยกเลิกกำหนดการเยือนเกาหลีใต้
ขณะที่ โจ ซอง-แล (Jo Seoung-lae) โฆษกพรรค Democratic Party เปิดเผยว่า พรรคกำลังพิจารณายื่นฟ้อง ชู คยอง-โฮ (Choo Kyung-ho) ประธานสมาชิกรัฐสภาของพรรค People Power Party ซึ่งถูกกล่าวหาว่าพยายามอำนวยความสะดวกในการบังคับใช้กฎอัยการศึกของนายยุน
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ยุนไม่ได้ตอบสนองต่อความคิดเห็นของฮันในทันที เขาไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะตั้งแต่ประกาศทางโทรทัศน์ว่ากฎอัยการศึกของเขาถูกยกเลิก แต่สำนักงานบริหารประธานาธิบดีเปิดเผยเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2567 ว่า ยุนยอมรับข้อเสนอลาออกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คิม ยอง-ฮยุน (Kim Yong-hyun) ซึ่งทั้งพรรคฝ่ายค้านและฮันกล่าวหาว่าเป็นผู้แนะนำการประกาศกฎอัยการศึกต่อยูน
ชิม วู จุง (Shim Woo Jung) อัยการสูงสุดเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า สำนักงานอัยการสูงสุดมีแผนที่จะสอบสวนกรณีฝ่ายค้านยื่นคำร้องกล่าวหายูนกระทำการเป็นกบฏ โดยอ้างว่ายูยพยายามทำรัฐประหารตนเอง แม้ว่าประธานาธิบดีส่วนใหญ่จะได้รับการคุ้มครองจากการถูกดำเนินคดีในระหว่างดำรงตำแหน่ง แต่การคุ้มครองดังกล่าวไม่ได้ขยายไปถึงข้อกล่าวหาเรื่องการกบฏหรือการทรยศชาติ แต่เบื้องต้นยังไม่ชัดเจนในทันทีว่าอัยการมีแผนจะดำเนินการสอบสวนนายยุนอย่างไร ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2567 อัยการมีคำสั่งห้ามคิม อดีต รมว.กลาโหม ออกนอกประเทศ
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.asahi.com/ajw/articles/15539264
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี