สื่อบรูไนจับตาโครงการ‘แลนด์บริดจ์’ คาดปี’68ไทยเดินหน้าอย่างจริงจัง

สื่อบรูไนจับตาโครงการ‘แลนด์บริดจ์’ คาดปี’68ไทยเดินหน้าอย่างจริงจัง

วันจันทร์ ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 12.05 น.

16 ธ.ค. 2567 นสพ.The Borneo Bulletin ของบรูไน รายงานข่าว Thailand’s landmark land bridge project set to launch in 2025 อ้างคำกล่าวของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ (Suriya Jungrungreangkit) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของไทย ที่ระบุว่า โครงการเชื่อมการขนส่ง 2 ฝั่งทะเล ระหว่างอ่าวไทยกับทะเลอันดามัน ที่เรียกว่า “แลนด์บริดจ์ (Land Bridge)” จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างอย่างมีนัยสำคัญในปี 2568 โดยระยะเริ่มต้นของโครงการ จะมุ่งเน้นไปที่การร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) เพื่อสร้างกรอบทางกฎหมายที่ชัดเจน

ขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคมจะจัดทำเอกสารคำขอเสนอราคา (RFP) เพื่อดึงดูดนักลงทุน ซึ่งจะช่วยปูทางไปสู่การประมูลโครงการเมื่อกฎหมายได้รับการอนุมัติ โดยการพัฒนานี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้แทนรัฐบาลไทยเดินสายโปรโมทไปทั่วโลกอยู่หลายครั้งตลอดทั้งปี 2567 ซึ่งรัฐมนตรีของไทยเปิดเผยว่า ผู้ประกอบการด้านการเดินเรือชั้นนำ รวมถึง Dubai Port World (DP World) บริษัทโลจิสติกส์ยักษ์ใหญ่ในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ได้ประเมินในสถานที่จริงเพื่อสำรวจความเป็นไปได้และศักยภาพของโครงการ


“นักลงทุนจำนวนมากแสดงความสนใจอย่างกระตือรือร้นในช่วงที่ออกไปประชาสัมพันธ์โครงการ โดยขอรายละเอียดเพิ่มเติมและดำเนินการประเมินสถานที่ ผู้มีส่วนได้-ส่วนเสียรายสำคัญจากดูไบ จีน และญี่ปุ่น เป็นกลุ่มที่แสดงความสนใจอย่างมาก” สุริยะ กล่าว

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ร่างกฎหมายระเบียบเศรษฐกิจภาคใต้ และการจัดตั้งสำนักงานเขตพัฒนาพิเศษภาคใต้จะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 ขณะเดียวกัน การออกแบบระบบรถไฟและทางด่วน รวมถึงการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จะแล้วเสร็จ โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะตรวจสอบ EIA เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2568 ซึ่งสอดคล้องกับการออกแบบท่าเรือและการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ซึ่งทั้งสองโครงการมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2567

คาดว่าร่างเอกสาร RFP จะแล้วเสร็จในปี 2568 โดยการคัดเลือกนักลงทุนคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 3 ของปีเดียวกัน หลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว สัญญากับผู้เสนอราคาที่ได้รับการคัดเลือกน่าจะได้รับการลงนามในต้นปี 2569 ระยะก่อสร้างโครงการแลนด์บริดจ์จะดำเนินการเป็น 3 ระยะ โดยระยะที่ 1 จะเริ่มในปี 2569 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2573 ส่วนระยะที่ 2 จะเริ่มในปี 2574 มีกำหนดแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2577 และระยะที่ 3 จะเริ่มก่อสร้างในปี 2578 และจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2579

โครงการนี้มีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 1.001 ล้านล้านบาท โดยจะจัดสรรดังนี้ 1.ท่าเรือ จ.ระนอง  330,810 ล้านบาท 2.ท่าเรือ จ.ชุมพร 305,670 ล้านบาท และ 3.โครงสร้างพื้นฐานเชื่อมต่อ (ถนนแบบทางด่วนและทางรถไฟ) 358,520 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนภายในทางการเงิน (FIRR) สำหรับนักลงทุนคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 8.62 โดยมีระยะเวลาคืนทุนโดยประมาณ 24 ปี

สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรของไทย คาดว่าโครงการสะพานเชื่อมแผ่นดินจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างมาก โครงการมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ภายในประเทศจากการคาดการณ์ปัจจุบันที่ร้อยละ 4 ต่อปี ตามที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดการณ์ไว้ ให้เพิ่มเป็นร้อยละ 5.5 ต่อปี นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวคาดว่าจะสร้างงานได้ประมาณ 280,000 ตำแหน่ง โดย 130,000 ตำแหน่งอยู่ใน จ.ระนอง และ 150,000 ตำแหน่งอยู่ใน จ.ชุมพร

ขอบคุณเรื่องจาก

https://borneobulletin.com.bn/thailands-landmark-land-bridge-project-set-to-launch-in-2025/

 

 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top