20 ธ.ค.67 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐฯ เผชิญวิกฤตงบประมาณต้องระงับการทำงานของหน่วยงานรัฐหรือที่เรียกว่า ‘ชัตดาวน์’ อีกครั้ง เนื่องจากไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณใหม่ โดยหากไม่มีทางออกก็จะต้องชัตดาวน์ในวันนี้ (21 ธ.ค.)

ร่างงบประมาณที่เสนอโดยพรรครีพับลิกันและได้รับการสนับสนุนจากว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในการลงมติเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐฯ (19 ธ.ค.) โดยได้รับเสียงสนับสนุนจาก สส. เพียง 174 เสียง คัดค้าน 235 เสียง ทำให้ขณะนี้ รัฐสภาสหรัฐฯ ไร้แผนชัดเจนในการหลีกเลี่ยงวิกฤตงบประมาณต้องระงับการทำงานของหน่วยงานรัฐหรือที่เรียกว่า ‘ชัตดาวน์’ เนื่องจากไม่มีงบประมาณ

วิกฤตครั้งนี้มองกันว่าเริ่มต้นมาจากนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่จะทำหน้าที่ในรัฐบาลใหม่ของทรัมป์ โดยมัสก์ต่อต้านร่างกฎหมายงบประมาณเดิม ทำให้ทรัมป์ต่อต้านไปด้วย ด้านพรรครีพับลิกันของทรัมป์จึงได้เสนอร่างงบประมาณใหม่ขึ้นมาแทน แต่ด้วยเงื่อนไขที่ต่างไปจากเดิมทำให้สภาผู้แทนราษฎรไม่รับรองเช่นกัน จึงเสี่ยงที่จะไม่มีกฎหมายทันเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่หน่วยงานรัฐบาลจะไม่มีงบประมาณใช้ หรือชัตดาวน์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (21 ธ.ค.)

ร่างงบประมาณใหม่ที่ไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐฯ มีเนื้อหาไม่ต่างจากร่างงบประมาณ ที่ทรัมป์และมัสก์ตำหนิว่าอ่อนข้อให้แก่พรรคเดโมแครตมากเกินไป โดยร่างงบประมาณใหม่ได้ขยายเวลาจัดสรรงบประมาณไปจนถึงเดือนมีนาคม 2568 จัดสรรงบบรรเทาภัยพิบัติ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3.46 ล้านล้านบาท) และระงับการใช้เพดานหนี้สาธารณะเป็นเวลา 2 ปี เพื่อให้ทรัมป์สามารถผ่านมาตรการลดภาษีตามที่หาเสียงไว้

ขณะเดียวกัน ร่างงบประมาณใหม่ที่แก้ไขให้เป็นไปตามความต้องการของทรัมป์ แต่ตกไปนี้ แตกต่างจากร่างก่อนที่สำคัญคือ ร่างใหม่จะระงับการจำกัดเพดานหนี้แห่งชาตินาน 2 ปี ผลก็คือ จะทำให้ง่ายขึ้นสำหรับรัฐบาลชุดใหม่ของทรัมป์ ที่จะสามารถผ่านร่างตัดลดภาษีตามที่ทรัมป์ได้สัญญาไว้ตอนหาเสียงได้ แต่จะทำให้หนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก จากระดับปัจจุบันที่สูงมหาศาลอยู่แล้วที่ 36 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (กว่า 1,200 ล้านล้านล้านบาท)

ขณะนี้ยังไม่ยังไม่มีความชัดเจนว่า รัฐสภาจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากการอนุมัติงบประมาณต้องใช้เสียงสนับสนุนจากสภาชุดปัจจุบันที่พรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร พรรคเดโมแครตและสมาชิกวุฒิสภาอิสระคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา แต่หากไม่มีทางออก จะเป็นการชัตดาวน์ช่วงเทศกาลวันหยุดส่งท้ายปีซ้ำสอง จากครั้งแรกเมื่อปี 2561 ที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่างสมัยแรก และจะกระทบต่อการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ก่อนช่วงหยุดยาวคริสต์มาสและปีใหม่ หน่วยงานรัฐบาลกลางบางส่วนที่อาจต้องหยุดทำงานตั้งแต่คืนวันศุกร์ จะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางตั้งแต่การควบคุมชายแดน ไปจนถึงอุทยานแห่งชาติต้องปิดทำการ ข้าราชการรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะไม่ได้รับเงินเดือนกว่า 2 ล้านคน