ทรัมป์ย้ายสถานที่สาบานตน

วอชิงตัน - โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของตนเองว่า พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของเขาในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.) จะถูกจัดขึ้นภายในอาคารรัฐสภาแทนที่จะจัดกลางแจ้ง เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นรุนแรง อุณหภูมิอาจลดลงถึงระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เขาไม่อยากเห็นใครได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ด้วยเหตุนี้ เขาจึงสั่งให้มีการกล่าวคำปราศรัยในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง นอกเหนือจากการสวดมนต์และสุนทรพจน์อื่น ๆ ภายในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ โดยครั้งสุดท้ายที่พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกย้ายเข้าไปในอาคารรัฐสภา เพราะอากาศหนาวเย็น ต้องย้อนกลับไปถึงการเข้ารับตำแหน่งครั้งที่สองของอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน จากพรรครีพับลิกัน เมื่อปี 2528 ส่วนผู้สนับสนุนของทรัมป์ สามารถชมพิธีดังกล่าวได้จากจอภาพภายใน Capital One Arena ซึ่งเป็นสนามกีฬาในตัวเมืองวอชิงตัน ซึ่งจุคนได้ 20,000 คน ด้านรองประธานาธิบดี หาน เจิ้ง ในฐานะผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ ถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ชิ้นส่วนจรวดสตาร์ชิปตกเป็นลูกไฟ

ฮุสตัน - จรวดสตาร์ชิป (Starship) ของสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ซึ่งทดสอบบรรทุกดาวเทียมจำลองครั้งแรกโดยไม่มีลูกเรือ ระเบิดแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในอวกาศไม่กี่นาทีหลังจากทะยานขึ้นจากรัฐเท็กซัสในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (16 ม.ค.) ส่งผลให้เที่ยวบินโดยสารเหนืออ่าวเม็กซิโกต้องเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงเศษซากที่ตกลงมา โดยในคลิปวิดีโอของผู้เห็นเหตุการณ์ แสดงให้เห็นลูกไฟเป็นทางยาวพุ่งข้ามท้องฟ้าเหนือหมู่เกาะเติกส์และเคคอส และทิ้งร่องรอยควันไว้ ด้านเว็บไซต์ FlightRadar24 ซึ่งติดตามเที่ยวบินโดยสาร ระบุว่า เที่ยวบินพาณิชย์หลายสิบเที่ยว เปลี่ยนเส้นทางการบินไปยังสนามบินอื่น หรือเปลี่ยนเส้นทางบิน เพื่อหลีกเลี่ยงเศษซากที่อาจเกิดขึ้น เที่ยวบินที่ออกจากสนามบินในไมอามี และฟอร์ตลอเดอร์เดล รัฐฟลอริดา ล่าช้าประมาณ 45 นาที ด้านสำนักงานการบินพลเรือนกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ควบคุมกิจกรรมการปล่อยบินเอกชน ระบุว่า ได้ชะลอความเร็วและเปลี่ยนเส้นทางเครื่องบินไปรอบ ๆ บริเวณที่เศษซากยานอวกาศกำลังร่วงหล่นเป็นเวลาสั้น ๆ แต่ตอนนี้ได้กลับมาดำเนินการตามปกติแล้ว

พบขนนก-เลือด ใน 2 เครื่องยนต์เจจูแอร์

โซล - ความคืบหน้าเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ที่ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ไปยังเมืองมูอัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ก่อนจะประสบเหตุพุ่งชนขอบสนามบินเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมปีที่แล้ว จนเกิดระเบิดไฟท่วม คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือราว 179 ชีวิต ล่าสุด มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนพบว่ามีขนนก และเลือด ติดอยู่ที่เครื่องยนต์ทั้ง 2 ของเครื่องบินลำดังกล่าว ขณะที่การตรวจสอบคลิปวิดีโอต่าง ๆ ก็ระบุว่ามีเหตุนกบินชนเครื่องยนต์จริง อย่างไรก็ตาม กล่องดำทั้ง 2 กล่องของเครื่องบิน หยุดการบันทึกในช่วงเวลา 4 นาทีก่อนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้การสอบสวนนี้ยิ่งยากมากขึ้น อดีตรัฐมนตรีคมนาคมเกาหลีใต้เผยว่า ข้อมูลกล่องดำที่หายไปนั้น น่าจะเกิดจากที่ไฟถูกตัด รวมถึงไฟสำรองด้วย ซึ่งนับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก อีกทั้งการที่นกบินชนเครื่องยนต์ทั้ง 2 พร้อมกัน นับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมาก แต่ก็เคยมีนักบินที่นำเครื่องบินจากเหตุดังกล่าวลงจอดได้โดยไม่เกิดความสูญเสียเช่นกัน รวมถึงเหตุปาฏิหาริย์แม่น้ำฮัดสัน (Miracle on the Hudson) ในสหรัฐฯ เมื่อปี 2009  และเครื่องบินที่ลงจอดในทุ่งข้าวโพที่รัสเซีย เมื่อปี 2019