โฆษกรัฐบาลแถลง เลขาฯสมช.-รองผบ.ตร.กลับถึงไทยแล้วเช้าวันอาทิตย์ พร้อมส่งคลิปสรุปชาวอุยกูร์กลับมาตุภูมิเรียบร้อย เตรียมรายงานนายกฯ ด้าน “รมว.ยุติธรรม” หารือมอบมท.4 นำสื่อมวลชนร่วมกลับไปตรวจสอบชีวิตความเป็นอยู่ของ 40 อุยกูร์หลังจากนี้อีก 30วัน ด้านครม. เลื่อนประชุมเป็นจันทร์นี้ คาด “ภูมิธรรม”รายงานผลส่งอุยกรู์กลับซินเจียงให้นายกฯ-ครม.รับทราบ ด้านสถานทูตจีนประจำประเทศไทย โพสต์คำให้สัมภาษณ์ของโฆษกสถานทูตจีมตอบคำถามสื่อ4ประเด็นยันว่าชาวอุยกูร์ ไม่ใช่ผู้ลี้ภัย และยังอ้างว่ามีประเทศใหญ่ขัดขวางทำให้ส่งกลับไม่ได้ จนถูกกักขังในไทยกว่า10ปีย้ำไทย-จีนมีอำนาจอธิปไตยดำเนินการร่วมกันโดยยึดกฎหมาย-หลักสากล-สิทธิมนุษยชน
เมื่อวันที่ 2มีนาคมนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช. ) และพลตำรวจเอกไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางกลับถึงกรุงเทพมหานครเมื่อช่วงเช้ามืดวันเดียวกันนี้ โดยคณะทำงานจะสรุปรายละเอียดผลการดำเนินงานรายงานนายกรัฐมนตรีทราบต่อไป ขณะที่เช้านี้ คณะทำงานในภารกิจ “11ปีที่เป็นไปได้ในการกลับสู่บ้านเกิด” (11 Year Mission possible ) ได้จัดทำคลิปวิดีโอความยาว 1.52 นาที เพื่อให้เห็นถึงขั้นตอนและวิธีในการทำงาน และผลของการส่งชาวอุยกูร์กลับสู่บ้านเกิดอย่างปลอดภัย
ส่งมท.4นำสื่อไปจีนสังเกตการณ์
นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้หารือคณะทำงานฯ จะกำหนดวันและเวลาในการเดินทางไปประเทศจีน มลฑลซินเจียง เพื่อติดตามตรวจสอบถึงสภาพความเป็นอยู่ของชาวอุยกรู์ ที่ไทยส่งกลับบ้านเกิดตามที่รัฐบาลจีนได้ให้พันธสัญญาไว้กับไทยภายในเวลา 15 -30 วันนับจากนี้ โดยพ.ต.อ.ทวีเสนอเพิ่มเติม มอบหมายเบื้องต้นให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ (มท.4)และตนไปร่วมกันพิจารณาถึงกำหนดการเดินทางไปจีนและขอให้ประสานงาน เพื่อให้นำสื่อมวลชนของไทยร่วมสังเกตการณ์ด้วย
รายงานผลส่งอุยกูร์ในครม.จันทร์นี้
นายจิรายุกล่าวต่อว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งการเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี จากเดิมวันอังคารที่ 4 มีนาคม มาเป็นวันจันทร์ที่ 3 มีนาคม เวลา 9.00 น. โดยมีวาระสำคัญต่างๆ เช่น ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 26 มีนาคม 2562 และ 15 ธันวาคม 2552 เกี่ยวกับระบบบริหารจัดการนมโรงเรียน การขออนุมัติโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลอย่างยั่งยืน การขอรับสนับสนุนงบประมาณกลาง สำหรับโครงการจัดหาชุดเครื่องผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 (น้ำแข็งแห้ง) ประจำปีงบประมาณ 2568 และการขอจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับดำเนินโครงการ MahaSongkran World Water Festival 2025 และคาดว่า จะมีการรายงานกรณีส่งชาวจีนถึงมณฑลซินเจียงอุยกูร์ โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รมว.ยุติธรรม และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์รมว.ต่างประเทศ ในที่ประชุมครม.ด้วย
ไม่ใช่ผู้ลี้ภัย!2ปท.ร่วมส่งกลับตามกม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยโพสต์ข้อความการตอบคำถามของโฆษกสถานทูตจีนประจำประเทศไทยเกี่ยวกับการส่งตัวอุยกูร์กลับประเทศจีน รายละเอียดโดยสรุป ดังนี้คำถามที่หนึ่งกรณีมีประเทศและองค์กรระหว่างประเทศบางแห่งแถลงกรณีไทยส่งตัวชาวจีนที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย40 คนกลับจีน เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและอนุสัญญาระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องนั้น ทางการจีนเห็นว่า การส่งตัวผู้ลักลอบอพยพและเข้าเมืองผิดกฎหมายกลับประเทศตามกฎหมายถือเป็นการบังคับใช้กฎหมายปกติของประเทศที่มีอำนาจอธิปไตย ชาวจีนที่ถูกส่งตัวกลับครั้งนี้เป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองไทยผิดกฎหมาย (ไม่ใช่ผู้ลี้ภัย) ตามคำขอของรัฐบาลจีน รัฐบาลไทยส่งพวกเขากลับประเทศจีนตามกฎหมาย ถือเป็นความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายระหว่างจีนและไทยในการปราบปรามผู้ลักลอบอพยพและเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งมีหลักฐานที่เพียงพอตามกฎหมายระหว่างประเทศและสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติระหว่างประเทศ
ตอกปท.ใหญ่แทรกแซงอธิปไตย
“ประเทศใหญ่บางประเทศกดดันองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ให้กล่าวหาความร่วมมือตามปกติในการปราบปรามผู้ลักลอบอพยพและเข้าเมืองผิดกฎหมายของรัฐบาลจีนและไทย ขณะที่ตัวเขาเองก็ได้ส่งผู้ลักลอบอพยพโดยผิดกฎหมายกลับประเทศมากกว่า 270,000 คนในปีงบประมาณ 2567 นี่เป็นการใช้มาตรฐานสองต่อและการกลั่นแกล้งทั่วไป เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของรัฐที่มีอำนาจอธิปไตยอย่างร้ายแรง และเป็นการปล่อยให้เกิดกิจกรรมทางอาชญากรรมข้ามชาติ การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและละเมิดอนุสัญญาต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง”
พร้อมดูแล40อุยกูร์คุ้มครองสิทธิเต็มที่
คำถามที่สอง ประเทศบางแห่งและบุคคลบางคนอ้างผู้ที่เกี่ยวข้องจะถูกทรมานและละเมิดสิทธิมนุษยชนหลังถูกส่งตัวกลับจีน สถานการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร สถานทูตจีนชี้แจงว่า จีนเป็นประเทศปกครองด้วยกฎหมายและยึดมั่นหลักการให้ความสำคัญเท่าเทียมกันในการปราบปรามอาชญากรรมและปกป้องสิทธิมนุษยชนตามกฎหมาย ในฐานะประเทศที่ลงนามในอนุสัญญาต่อต้านการทรมานประเทศแรกๆ จีนปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญานี้ด้วยความตั้งใจ และมีกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนด้านการบังคับใช้กฎหมายและความยุติธรรมทางตุลาการ จีนมีกลไกทำงานที่เข้มงวดครอบคลุม รวมถึงการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพเต็มที่ แม้ผู้ฝ่าฝืนกฎหมายและก่ออาชญากรรม สิทธิตามกฎหมายของพวกเขาก็ได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่
“ชาวจีนที่ถูกส่งตัวกลับครั้งนี้ลักลอบเข้าเมืองไทยผิดกฎหมาย เนื่องจากถูกขัดขวางจากประเทศใหญ่บางประเทศและกลุ่มกำลังระหว่างประเทศที่ต่อต้านจีน จึงไม่สามารถส่งตัวกลับจีนได้ทันเวลาตามหลักปฏิบัติสากล พวกเขาถูกกักขังอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี และสิทธิทางกฎหมายของพวกเขาได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ครั้งนี้รัฐบาลจีนและไทยได้ส่งตัวกลับประเทศตามกฎหมาย หลังจากบุคคลเหล่านี้ถูกส่งตัวกลับประเทศและปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว รัฐบาลจีนได้จัดการให้บุคคลเหล่านี้กลับบ้านและรวมตัวกับครอบครัว ถือเป็นการปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ดีที่สุด รัฐบาลท้องถิ่นจะทำงานร่วมกับครอบครัวของพวกเขาเพื่อช่วยหางานให้ทำพัฒนาทักษะวิชาชีพตามความต้องการช่วยให้เอาชนะความยากลำบากที่เกิดจากการถูกคุมขังในไทยมานานกว่า 10 ปี และกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วที่สุด
ซินเจียงปัจจุบันไร้ก่อการร้าย-ศก.พัฒนา
ประเด็นที่สามปัจจุบันมีคำพูดเกี่ยวกับซินเจียงในสากล คุณสามารถแนะนำสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องได้หรือไม่สถานทูตจีนฯชี้แจงว่า รัฐบาลจีนและรัฐบาลเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ร่วมมือและนำชาวชนเผ่าของท้องถิ่นพยายามต่อสู้กับกลุ่มกำลังก่อการร้ายที่รุนแรงและรักษาความปลอดภัยเสถียรภาพอย่างยาวนาน โดยบรรลุผลที่โดดเด่นนับตั้งแต่ปลายปี 2559 ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายรุนแรงในซินเจียงอีกเลย ปัจจุบันการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของซินเจียงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ชนเผ่าต่างๆอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และประชาชนใช้ชีวิตและทำงานด้วยความสงบสุข
“ประเทศบางแห่งและกลุ่มกำลังต่อต้านจีนระหว่างประเทศเพิกเฉยต่อความจริงอันสวยงามในซินเจียง สร้างและเผยแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับซินเจียง บิดเบือนและใส่ร้ายโดยเจตนา รวมทั้งกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างรุนแรงต่อบริษัทและผลิตภัณฑ์ของซินเจียง จุดประสงค์ของพวกเขาคือทำลายเสถียรภาพของซินเจียงและยับยั้งการพัฒนาของจีนภายใต้ข้ออ้างของสิทธิมนุษยชนและศาสนา สิ่งที่พวกเขาทำเป็นการก้าวร้าวชาวจีนและเป็นการล้อเลียนโลก และพวกเขากำลังถูกด่าว่าและต่อต้านจากผู้คนทั่วโลก”
พร้อมให้ไทยกลับไปติดตาม40อุยกูร์
ประเด็นคำถามที่สี่ ครั้งนี้รัฐบาลไทยส่งเจ้าหน้าที่เป็นสักขีพยานการเดินทางกลับบ้านของบุคคลที่ถูกส่งตัวกลับจีน ต่อไปจีนจะอนุญาตให้ไทยไปเยี่ยมบุคคลที่ถูกส่งตัวกลับเพื่อติดตามชีวิตความเป็นอยู่หรือไม่ สถานทูตจีนฯยืนยันว่า ฝ่ายจีนยินดีเชิญเจ้าหน้าที่ไทยเดินทางไปติดตามสถานการณ์ในอนาคตตามความต้องการของฝ่ายไทย เป็นสักขีพยานในชีวิตความเป็นอยู่ที่เป็นจริง และประตูของซินเจียงเปิดกว้างตลอดเวลา เราขอต้อนรับบุคคลจากทุกประเทศที่ไม่มีอคติมาเยี่ยมชม เพื่อสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติ ความสงบสุขของสังคม ความเจริญรุ่งเรืองของเศรษฐกิจ ความสามัคคีระหว่างชนเผ่าเสรีภาพทางศาสนาในซินเจียง รวมถึงการพัฒนาที่ยั่งยืนและความเป็นอยู่ที่มีความสุขของประชาชนซินเจียง
‘ทูตนอกแถว’ยันไม่มีปท.ที่3รับอุยกูร์
ขณะที่นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คว่า ขอชี้แจงเรื่องอุยกูร์ต่ออีกสักนิด ที่มีคนออกมาบอกว่ามีประเทศที่สามยินดีรับชาวอุยกูร์ที่เหลือกลับไปนั้น ตนยืนยันว่าไม่มีจริงเหตุผลง่ายๆคือปกติถ้ามีประเทศที่สามยินดีรับไปอย่างจริงจัง ประเทศเหล่านี้ต้องมีหนังสือแจ้งยืนยันความประสงค์เป็นทางการต่อรัฐบาลไทย ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ หรือผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทยประเทศนั้นๆ แต่ในความจริงไม่มี อย่างไรก็ตาม อาจเป็นไปได้ที่มีบางประเทศเคยแสดงความประสงค์โดยเฉพาะเมื่อ 11 ปี ที่แล้ว ซึ่งก็ได้ส่งตัวชาวอุยกูร์บางส่วนไปแล้ว แต่หลังจากนั้นมาถึงปัจจุบัน สำหรับชาวอุยกูร์ที่ยังตกค้าง ไม่มีประเทศใดมีหนังสือแสดงความจำนงเป็นทางการมาเลยนอกจากจีน
นายรัศม์กล่าวต่อว่า ในแง่หนึ่งก็เข้าใจได้ เพราะการรับตัวไปประเทศที่สามนั้นไม่ได้ทำง่ายๆ หลายประเทศต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนไว้ ไม่อยากเป็นศัตรูกับจีน และต่อให้ระดับประเทศมหาอำนาจอื่น เขาก็มีเรื่องการเมืองในประเทศ การรับผู้ลี้ภัยเพิ่มเป็นเรื่องอ่อนไหว ที่ไม่ช่วยในการสร้างคะแนนความนิยม
จึงไม่มีประเทศไหนอยากทำจริงและขอย้ำว่าเรื่องนี้เป็นการดำเนินการระดับรัฐบาลต่อรัฐบาลเท่านั้น ที่ต้องตกลงกัน การไปติดต่อผ่านองค์การระหว่างประเทศ หรือเป็นนักการเมืองที่ขณะนั้นยังไม่ได้เป็นรัฐบาล หรือ NGO กลุ่มใดก็ไม่ได้ ต้องเป็นระดับรัฐบาลต่อรัฐบาลเท่านั้น ขอชี้แจงมาเพิ่มเติมตามนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี