5 มี.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Exclusive: Canada and US offered Uyghurs in Thailand asylum before deportation to China, sources say อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ระบุว่า ก่อนหน้าที่ชาวอุยกูร์ 48 คนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในประเทศไทยนาน 10 ปี จะถูกส่งกลับประเทศจีนไปอย่างลับๆ เมื่อช่วงสิ้นเดือน ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา แคนาดาและสหรัฐอเมริกาเคยเสนอว่าจะรับคนเหล่านี้ไปเป็นผู้ลี้ภัย แต่ทางการไทยกลับไม่ดำเนินการใดๆ เพราะเกรงว่าจะทำให้ทางการจีนไม่พอใจ
ประเทศไทยได้ออกมาปกป้องการเนรเทศดังกล่าว โดยระบุว่าประเทศไทยได้ดำเนินการตามกฎหมายและพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชน แม้จะมีการเรียกร้องจากผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติก็ตาม ทั้งนี้ กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่าจีนละเมิดสิทธิของชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอิสลามประมาณ 10 ล้านคน ในเขตปกครองตนเองซินเจียง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนอย่างกว้างขวาง แต่จีนปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น
ในวันที่ 3 มี.ค. 2568 ภูมิธรรม เวชยชัย (Phumtham Wechayachai) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย กล่าวว่า ไม่มีประเทศใดเสนออย่างเป็นรูปธรรมเพื่อจัดสรรที่อยู่ใหม่ให้กับชาวอุยกูร์ 48 คน ทั้งที่รอเป็นเวลานานกว่า 10 ปี และตนก็ได้พูดคุยกับประเทศใหญ่ๆ หลายชาติ แต่ไม่เคยมีใครที่ให้คำตอบอย่างแน่ชัด
รายงานของรอยเตอร์ อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ในกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่ระบุว่า สหรัฐฯ ร่วมมือกับไทยมาหลายปีเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ รวมถึงการเสนอให้ชาวอุยกูร์ไปอยู่อาศัยในประเทศอื่นอย่างต่อเนื่องและซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งรวมถึงการให้มาอยู่ในสหรัฐฯ ขณะที่แคนาดาเสนอให้ลี้ภัยแก่ชาวอุยกูร์ที่ถูกควบคุมตัว ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว 4 ราย ซึ่งรวมถึงนักการทูตและผู้ที่ทราบโดยตรง รวมถึงออสเตรเลีย ที่มีแหล่งข่าว 2 ราย ยืนยันว่าได้ประสานไปที่ประเทศไทยเช่นกัน แต่ข้อเสนอเหล่านี้ ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่าไทยไม่รับไปเพราะเกรงจะเกิดความขัดแย้งกับจีนนั้น ไม่เคยมีการรายงานมาก่อน แหล่งข่าวทั้งหมดนี้ไม่ขอเปิดเผยชื่อ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ในเบื้องต้น ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ได้สอบถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศของไทย แต่ยังไม่ได้รับคำชี้แจง ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของจีน ชี้แจงว่า การส่งตัวกลับประเทศนั้นดำเนินการตามกฎหมายจีน ไทย และกฎหมายระหว่างประเทศ ผู้ที่ถูกส่งตัวกลับเป็นชาวจีนที่เป็นผู้อพยพผิดกฎหมาย สิทธิอันชอบธรรมของผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่
โฆษกกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองของแคนาดา กล่าวว่า จะไม่แสดงความคิดเห็นในแต่ละกรณี ขณะที่กระทรวงต่างประเทศและการค้าออสเตรเลียอ้างถึงแถลงการณ์ของเพนนี หว่อง (Penny Wong) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของออสเตรเลีย ซึ่งกล่าวเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2568 ว่า ออสเตรเลียไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการตัดสินใจของไทย ทั้งนี้ นอกจากชาวอุยกูร์ 40 คนที่ถูกเนรเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังมีอีก 5 คนที่อยู่ในเรือนจำของไทยเนื่องจากคดีอาญาที่ยังคงดำเนินอยู่ ตามที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุ เบื้องต้นสำนักข่าวรอยเตอร์ยังไม่สามารถยืนยันที่อยู่ของผู้ต้องหาอีก 3 คนได้
รอยเตอร์ยังอ้างการเปิดเผยของ พิศาล มาณวพัฒน์ (Pisan Manawapat) อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำแคนาดาและสหรัฐอเมริกา และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่กล่าวว่า มีอย่างน้อย 3 ประเทศที่ติดต่อไทยเพื่อเสนอให้ชาวอุยกูร์ตั้งถิ่นฐานใหม่ แต่ปฏิเสธที่จะบอกว่ามีประเทศใดบ้าง แต่ด้วยความที่ไม่อยากทำให้จีนไม่พอใจ จึงไม่ได้ตัดสินใจในระดับการเมืองในการดำเนินการนี้
รายงานข่าวทิ้งท้ายว่า รองนายกฯ ภูมิธรรม กล่าวว่า ไทยตัดสินใจเนรเทศกลุ่มผู้ลี้ภัยดังกล่าวกลับจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากจีนให้คำมั่นว่า เจ้าหน้าที่ของไทยจะได้รับอนุญาตให้ติดตามความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ในประเทศหลังจากที่พวกเขาเดินทางกลับ ขณะทีที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติกล่าวว่า กลุ่มผู้ลี้ภัยดังกล่าวอาจเสี่ยงต่อการถูกทรมาน การปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม และอันตรายที่ไม่สามารถแก้ไขได้หากถูกส่งตัวกลับจีน และการเนรเทศคนเหล่านี้ได้รับการประณามอย่างกว้างขวาง
หลังจากถูกเนรเทศ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ออกแถลงการณ์ระบุว่า ว่า ทางการไทยปฏิเสธการเข้าถึงกลุ่มผู้ลี้ภัยดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งมีแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า การที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติไม่สามารถเข้าถึงชาวอุยกูร์ได้ ทำให้คนเหล่านั้นไม่สามารถดำเนินการในฐานะผู้ขอลี้ภัย การอพยพที่อาจจะเกิดขึ้นจึงต้องหยุดชะงัก และทำให้ต้องติดอยู่ในสถานกักขัง
ขอบคุณภาพจากสถานทูตจีนประจำประเทศไทย
ขอบคุณเรื่องจาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
https://www.naewna.com/inter/865608 สถานทูตจีน เปิดภาพชาวอุยกูร์ 40 คน ถึงบ้านแล้ว ครอบครัวต้อนรับอบอุ่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี