วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ต่างประเทศ
ศาลเบรกคำสั่ง‘ทรัมป์’ไล่ชาวเวเนซูเอลากลับประเทศ หากสงสัยเป็นสมาชิกแก๊งอาชญากรรม

ศาลเบรกคำสั่ง‘ทรัมป์’ไล่ชาวเวเนซูเอลากลับประเทศ หากสงสัยเป็นสมาชิกแก๊งอาชญากรรม

วันจันทร์ ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2568, 14.52 น.
Tag : เนรเทศ เวเนซูเอลา แก๊ง ทรัมป์ ศาลสั่ง สหรัฐอเมริกา
  •  

17 มี.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Judge temporarily blocks Trump's use of wartime powers to target Venezuelan gang members ระบุว่า ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา ระงับคำสั่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2568 ภายหลังจากที่ทรัมป์อาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยบุคคลต่างด้าวที่เป็นศัตรูของรัฐ 2341 (Alien Enemies Act 1798) เนรเทศชาวเวเนซูเอลาที่ถูกสงสัยว่าเป็นสมาชิกแก๊ง Tren de Aragua

โดยทรัมป์อ้างว่า สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับการรุกรานจากองค์กรอาชญากรที่เชื่อมโยงกับการลักพาตัว การกรรโชกทรัพย์ อาชญากรรมที่ก่อขึ้นอย่างเป็นขบวนการ และการรับจ้างสังหารบุคคล ขณะที่ เจมส์ โบสเบิร์ก (James Boasberg) ผู้พิพากษาที่ใช้อำนาจศาลระงับคำสั่งของทรัมป์ไว้เป็นเวลา 14 วัน อธิบายว่า กฎหมายว่าด้วยบุคคลต่างด้าวที่เป็นศัตรูของรัฐ นิยามของคำว่า “การรุกราน (Invasion)” หรือการบุกรุกเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศใดๆ และเทียบเท่ากับสงคราม


ทรัมป์ระบุว่าสมาชิกแก๊งดังกล่าว ทำสงครามนอกกฎหมายและดำเนินการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ กฎหมายว่าด้วยบุคคลต่างด้าวที่เป็นศัตรูของรัฐ ซึ่งใช้เฉพาะในช่วงสงครามเท่านั้น อาจช่วยให้ประธานาธิบดีสามารถหลีกเลี่ยงสิทธิตามกระบวนการยุติธรรมของผู้อพยพที่ถูกจัดประเภทว่าเป็นภัยคุกคาม และส่งตัวคนเหล่านั้นกลับประเทศได้อย่างรวดเร็ว

บรรยากาศที่ศาลในวันที่ 15 มี.ค. 2568 ก่อนศาลจะสั่งระงับคำสั่งของทรัมป์ ลี เกเลิร์นท์ (Lee Gelernt) ทนายความจากสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (ACLU) กล่าวว่า คำสั่งนี้ของทรัมป์ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เหมือนกับอีกหลายเรื่องที่ทรัมป์เคยทำ ซึ่งสหรัฐฯ อยู่ในสถานการณ์อันตรายมากเมื่อรัฐบาลจะพยายามนำอำนาจในสถานการณ์ศึกสงคราม มาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการย้ายถิ่นฐาน หรือวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ใช่ทางทหาร

แพม บอนดิ (Pam Bondi) อัยการสูงสุดสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์โจมตีผู้พิพากษาโบสเบิร์กว่าสนับสนุนผู้ก่อการร้ายกลุ่ม Tren de Aragua มากกว่าความปลอดภัยของชาวอเมริกัน และย้ำว่าคำสั่งที่ผู้พิพากษาออกมานั้นเพิกเฉยต่ออำนาจที่เป็นที่ยอมรับเกี่ยวกับอำนาจของประธานาธิบดี และทำให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายตกอยู่ในความเสี่ยง

ตามคำสั่งของทรัมป์ พลเมืองเวเนซุเอลาอายุ 14 ปีขึ้นไปที่ถูกระบุว่าเป็นสมาชิกขององค์กรอาชญากรรม ซึ่งอาศัยงอยู่ในสหรัฐฯ โดยไม่ได้รับสัญชาติหรือได้รับอนุญาตให้เป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรตามกฎหมาย อาจถูกจับกุม ควบคุมตัวและเนรเทศได้ ทั้งนี้ กฎหมายว่าด้วยบุคคลต่างด้าวที่เป็นศัตรูของรัฐ เคยถูกใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยสหรัฐฯ สร้างค่ายกักกันประชากรที่มีเชื้อสายเยอรมนี อิตาลีและญี่ปุ่น ซึ่งเป็น 3 ประเทศฝ่ายอักษะ คู่สงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรที่มีสหรัฐฯ ร่วมอยู่ด้วย

กลุ่มสิทธิมนุษยชนและนักการเมืองบางส่วนในพรรคเดโมแครต วิพากษ์วิจารณ์แนวคิดในการฟื้นกฎหมายนี้ขึ้นมาเพื่อจุดชนวนให้เกิดการเนรเทศจำนวนมาก ขณะที่ในเดือน ก.พ. 2568 ทรัมป์ได้ประกาศให้แก๊ง Tren de Aragua องค์กรอาชญากรรมจากเวเนซูเอลา แก๊ง Sinaloa ซึ่งเป็นขบวนการค้ายาเสพติดจากเม็กซิโก และแก๊งอื่นๆ อีก 6 กลุ่ม เป็นองค์กรก่อการร้ายระดับโลก  ตามคำสั่งของทรัมป์เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2568 ยังระบุด้วยว่า แก๊ง Tren de Aragua มีส่วนร่วมและยังคงมีส่วนร่วมในการอพยพเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายจำนวนมากเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการทำร้ายพลเมืองสหรัฐฯ

ทรัมป์ได้ใช้ภัยคุกคามจากกลุ่มอาชญากรเป็นประเด็นหลักในสุนทรพจน์หาเสียง ซึ่งเป็นหลักฐานว่าทรัมป์เรียกการก่ออาชญากรรมของผู้อพยพว่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การศึกษามากมายแสดงให้เห็นว่าผู้อพยพไม่ได้ก่ออาชญากรรมในอัตราที่สูงกว่าชาวอเมริกันในท้องถิ่น ซึ่งกลุ่มสนับสนุนการย้ายถิ่นฐานและพรรคเดโมแครตวิจารณ์การตัดสินใจของผู้นำสหรัฐฯ

เลทิเทีย เจมส์ (Letitia James) อัยการสูงสุดของรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า การอ้างถึงกฎหมายว่าด้วยบุคคลต่างด้าวที่เป็นศัตรูของรัฐ ซึ่งเป็นอำนาจพิเศษในช่วงสงครามที่มีประวัติน่าละอาย เพื่อกักขังและเนรเทศผู้อพยพโดยพลการ ถือเป็นการเหยียดหยาม อันตราย และอยุติธรรมอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับ วิลเลียม วาสเกซ (William Vasquez) ทนายความด้านการย้ายถิ่นฐานในรัฐนอร์ทแคโรไลนา โพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีการใช้กฎหมายนี้กับผู้อพยพจากประเทศที่สหรัฐฯ ไม่ได้ทำสงครามด้วย

ผู้พิพากษาโบสเบิร์กยังได้สั่งระงับไม่ให้รัฐบาลสหรัฐฯ เนรเทศชาวเวเนซูเอลา 5 รายเป็นการชั่วคราว หลังจากกลุ่มไม่แสวงหากำไร 2 กลุ่มฟ้องร้อง โดยระบุว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นเพียงอำนาจที่บังคับใช้ในช่วงสงคราม และใช้ได้เฉพาะกับการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการทำสงครามเท่านั้น

ศาลได้มีคำสั่งระงับชั่วคราว โดยห้ามรัฐบาลเนรเทศชาวเวเนซูอาลาดังกล่าวออกไปเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งACLU กล่าวว่าชาวเวเนซุเอลากำลังขอสถานะผู้ลี้ภัย และถูกระบุตัวตนผิดพลาดว่าเป็นสมาชิกแก๊ง ด้านทำเนียบขาวไม่ได้ตอบรับคำขอแสดงความคิดเห็นในทันที แต่เอกสารของศาลแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลได้อุทธรณ์คำสั่งระงับชั่วคราวฉบับแรกของผู้พิพากษา

ทรัมป์ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน หวนคืนสู่การเป็นผู้นำสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ในวันที่ 20 ก.พ. 2568 โดยให้คำมั่นว่าจะเนรเทศผู้อพยพหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย แต่การเนรเทศครั้งแรกของเขานั้นล่าช้ากว่าโจ ไบเดน (Joe Biden) อดีตประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ซึ่งเผชิญกับการอพยพที่ผิดกฎหมายในระดับสูง และเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองจำนวนมากในช่วงไม่นานมานี้อย่างรวดเร็ว

ทรัมป์ได้ดำเนินการต่างๆ เพื่อยกระดับการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง โดยส่งทหารเพิ่มเติมไปที่ชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก และแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางใหม่เพื่อช่วยติดตามผู้กระทำความผิดฐานตรวจคนเข้าเมือง

แต่รัฐบาลของเขาต้องเผชิญกับการสนับสนุนที่จำกัดของศาลตรวจคนเข้าเมืองสถานที่กักขัง

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.reuters.com/legal/us-judge-blocks-some-deportations-after-lawsuit-cites-fears-wartime-law-2025-03-15/

043...

 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ทั่วโลกจับตา! \'สหรัฐฯ\'วางแผนเจรจาการค้า\'จีน\'สัปดาห์นี้ ลั่นกำแพงภาษีไม่เพิ่มกว่านี้แล้ว ทั่วโลกจับตา! 'สหรัฐฯ'วางแผนเจรจาการค้า'จีน'สัปดาห์นี้ ลั่นกำแพงภาษีไม่เพิ่มกว่านี้แล้ว
  • ปิดดีล! ‘สหรัฐฯ-อังกฤษ’บรรลุข้อตกลงสำคัญด้านการค้า ปิดดีล! ‘สหรัฐฯ-อังกฤษ’บรรลุข้อตกลงสำคัญด้านการค้า
  • ‘เดนมาร์ก’จ่อเรียกทูตมะกันชี้แจง หลังสื่อรายงาน‘สหรัฐฯ’สั่งหน่วยข่าวกรองสอดแนม‘กรีนแลนด์’ ‘เดนมาร์ก’จ่อเรียกทูตมะกันชี้แจง หลังสื่อรายงาน‘สหรัฐฯ’สั่งหน่วยข่าวกรองสอดแนม‘กรีนแลนด์’
  • ชาวมะกันรอลุ้น! ‘ทรัมป์’จ่อออกคำสั่งคุมราคายาในสัปดาห์หน้า ชาวมะกันรอลุ้น! ‘ทรัมป์’จ่อออกคำสั่งคุมราคายาในสัปดาห์หน้า
  • สหภาพประชาชน‘สหรัฐฯ’คว่ำบาตร‘แอมะซอน’ปมลดนโยบาย‘DEI’ สหภาพประชาชน‘สหรัฐฯ’คว่ำบาตร‘แอมะซอน’ปมลดนโยบาย‘DEI’
  • ‘จีน’เตรียมหารือ‘สหรัฐฯ’คลี่คลาย‘ศึกกำแพงภาษี’ ย้ำจุดยืนเจรจาบนความเท่าเทียม ‘จีน’เตรียมหารือ‘สหรัฐฯ’คลี่คลาย‘ศึกกำแพงภาษี’ ย้ำจุดยืนเจรจาบนความเท่าเทียม
  •  

Breaking News

'ไพศาล'ชี้แพทย์ 3 รายเอื้อรักษา 'ทักษิณ' เสี่ยงคดี 157 ละเมิดอำนาจศาล

เซ็กซี่ขยี้ใจ! 'จันจิ จันจิรา'อวดหุ่นสวยแซ่บในชุดบิกินีริมหาด

เปิดเนื้อหาฉบับเต็ม! 'กกต.-DSI'ออกหมายเรียก 53 สว. แจงคดีฮั้ว

มท. ชี้ DSI สอบ สว. ต้องมีหลักฐานชัดเจน ย้ำเดินหมากคุ้มครองสิทธิประชาชน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved