ยอดสูญเสียเหตุระเบิดท่าเรือ‘อิหร่าน’พุ่ง โต้สื่อนอกปูดข่าวเก็บเชื้อเพลิงขีปนาวุธไม่ถูกวิธี

ยอดสูญเสียเหตุระเบิดท่าเรือ‘อิหร่าน’พุ่ง โต้สื่อนอกปูดข่าวเก็บเชื้อเพลิงขีปนาวุธไม่ถูกวิธี

วันจันทร์ ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2568, 11.17 น.

28 เม.ย. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Death toll from blast at Iran's Bandar Abbas port rises to 40 ระบุว่า เหตุระเบิดที่ท่าเรือชาฮิด ราจี ในเมืองบันดาร์ อับบาสของอิหร่าน เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2568 ตามเวลาท้องถิ่น โดยท่าเรือดังกล่าวเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน ล่าสุดตามรายงานเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2568 โดยสื่อของทางการอิหร่าน ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 40 ราย และยอดผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1,200 ราย

สื่อของรัฐบาลอิหร่านรายงานว่า ยังคงมีเพลิงไหม้ในหลายจุดของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจนถึงคืนวันที่ 27 เม.ย. 2568 โดยเฮลิคอปเตอร์และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงพยายามควบคุมเพลิง เบื้องต้นคาดว่าสารเคมีในท่าเรืออาจเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้เกิดการระเบิด แต่สาเหตุที่แน่ชัดยังไม่ชัดเจน และกระทรวงกลาโหมของอิหร่านปฏิเสธรายงานของสื่อต่างประเทศที่ระบุว่าการระเบิดครั้งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการจัดการเชื้อเพลิงแข็งที่ใช้ผลิตขีปนาวุธไม่ถูกต้อง โดยยืนยันว่าบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีสินค้าทางทหารใดๆ และตอบโต้ว่ารายงานดังกล่าวเป็นปฏิบัติการทางจิตวิทยาของศัตรู


รอยเตอร์ยังอ้างรายงานของสำนักข่าว AP ที่อ้างข้อมูลจากบริษัทรักษาความปลอดภัยของอังกฤษ Ambrey ที่ระบุว่าท่าเรือดังกล่าวได้รับโซเดียมเปอร์คลอเรตในเดือน มี.ค. 2568 ซึ่งใช้เป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนขีปนาวุธพิสัยไกล และหากจัดการไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดการระเบิดได้ ขณะที่ นสพ.Financial Times รายงานเมื่อเดือน ม.ค. 2568 ว่า เรืออิหร่าน 2 ลำที่ขนส่งจากจีนมีโซเดียมเปอร์คลอเรตเพียงพอสำหรับขับเคลื่อนขีปนาวุธพิสัยกลางได้มากถึง 260 ลูก ช่วยให้อิหร่านสามารถเติมสต็อกได้หลังจากที่โจมตีชาติที่เป็นศัตรูสำคัญอย่างอิสราเอลด้วยขีปนาวุธในปี 2567

กลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นเหนือบริเวณที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2568 เศษโลหะบิดเบี้ยวและเศษซากสิ่งของต่างๆ กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณที่เกิดการระเบิด ในช่วงบ่ายของวันดังกล่าว หัวหน้าสภากาชาดอิหร่านแจ้งต่อสื่อของรัฐว่าไฟได้ดับไปแล้วร้อยละ 90 และเจ้าหน้าที่กล่าวว่ากิจกรรมท่าเรือได้กลับมาดำเนินการอีกครั้งในพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากแรงระเบิด

โฆษกองค์กรจัดการวิกฤติของอิหร่าน ระบุเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2568 ว่า เหตุระเบิดน่าจะเกิดขึ้นจากการเก็บสารเคมีอันตรายอย่างไม่ถูกวิธี และทางองค์กรฯ เคยแจ้งเตือนความเสี่ยงไปยังท่าเรือแล้ว อย่างไรก็ตาม ฟาเตเมห์ โมฮาเยรานี (Fatemeh Mohajerani) โฆษกรัฐบาลอิหร่าน ได้ออกมาเตือนว่าอย่าคาดเดาล่วงหน้า โดยการประเมินขั้นสุดท้ายจะถูกเปิดเผยหลังจากการสอบสวน

ความประมาทมักถูกกล่าวโทษว่าเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงหลายครั้งที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและอุตสาหกรรมของอิหร่านในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2568 มาซูด ปีเซชเคียน (Masoud Pezeshkian) ประธานาธิบดีอิหร่าน ซึ่งลงพื้นที่เมืองบันดาร์ อับบาส ได้ตั้งข้อสังเกตว่า จำเป็นต้องเก็บตู้คอนเทนเนอร์ไว้นานถึง 3-4 เดือนจริงหรือ ซึ่งปัจจุบันท่าเรือมีตู้คอนเทนเนอร์วางอยู่มากราว 120,000-140,000 ตู้

ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ร้ายแรงในอิหร่านอยู่หลายครั้ง ไฟไหม้โรงกลั่น การระเบิดของก๊าซในเหมืองถ่านหิน และเหตุการณ์ซ่อมแซมฉุกเฉินที่บันดาร์อับบาส ซึ่งทำให้คนงานเสียชีวิต 1 รายในปี 2566 และในบางเหตุการณ์อิหร่านก็กล่าวหาว่าอิสราเอลอยู่เบื้องหลัง เนื่องจากอิสราเอลได้โจมตีอิหร่านโดยพุ่งเป้าไปที่โครงการนิวเคลียร์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงการโจมตีระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านในปี 2567

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.reuters.com/world/middle-east/death-toll-blast-irans-bandar-abbas-port-rises-25-2025-04-27/

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

https://www.naewna.com/inter/880196 ท่าเรือใหญ่‘อิหร่าน’ระเบิด ดับ18เจ็บอีกกว่า700

043...

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top