15 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ตกลงที่จะขายอาวุธให้กับซาอุดีอาระเบียเป็นมูลค่าเกือบ 142,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กว่า 4.73 ล้านล้านบาท โดยทำเนียบขาวระบุถึงข้อตกลงนี้ว่าเป็นข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงที่ใหญ่ที่สุดที่สหรัฐเคยทำมา 

ทั้งสองประเทศยังได้ลงนามในข้อตกลงที่ครอบคลุมหลากหลายด้านทั้งในด้านพลังงาน ความมั่นคงและเหมืองแร่ ซึ่งเชื่อมโยงกับบริษัทกลาโหมของสหรัฐกว่า 12 แห่ง ตั้งแต่การป้องกันทางอากาศและขีปนาวุธ กองทัพอากาศและอวกาศ ความมั่นคงทางทะเล ไปจนถึงการสื่อสาร ซึ่งอาจจะรวมถึงเครื่องบินขับไล่ล็อกฮีด-เอฟ35 ตามที่แหล่งข่าวของรอยเตอร์ได้เปิดเผยมาก่อนหน้านี้

เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงกล่าวเสริมว่า หากมีการบรรลุข้อตกลงเพิ่มเติมในอีกหลายเดือนข้างหน้า มูลค่าของข้อตกลงกับสหรัฐทั้งหมดอาจสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดยในการเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งนี้ 'โดนัลด์ ทรัมป์' เปรียบมกุฎราชกุมารฯ ว่าเป็น ชายผู้มหัศจรรย์และกล่าวด้วยว่าผมเชื่อว่าเราทั้งคู่ชอบพอกันเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน 'โดนัลด์ ทรัมป์' ตอบรับคำขอของมกุฎราชกุมารฯ โดยประกาศที่การประชุมด้านการลงทุนที่กรุงริยาดว่า จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรกับซีเรีย พร้อมกล่าวเสริมว่า มาตรการดังกล่าวเคยเป็นข้อปฏิบัติสำคัญแต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ประเทศต้องเดินหน้าต่อไป

การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐครั้งสำคัญ ตั้งแต่ปี 1979 สหรัฐกำหนดให้ซีเรียเป็นประเทศที่สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ทำให้สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรกับซีเรียตั้งแต่ปี 2004 และบังคับใช้มาตรการเพิ่มเติมหลังจากที่เกิดสงครามการเมืองขึ้นเมื่อปี 2011 

เมื่อเดือนธันวาคม 2024 กลุ่มต่อต้านนำโดยนายอาเหม็ด อัล-ชารา ประธานาธิบดีซีเรียคนปัจจุบัน สามารถโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดและทำให้สงครามกลางเมืองที่ดำเนินมาอย่างยาวนานนั้นสิ้นสุดลง