ด่วน! โจ ไบเดน วัย 82 ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากขั้นรุนแรง แพร่กระจายถึงกระดูกแล้ว
19 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าว CNN รายงานว่า สำนักงานส่วนตัวของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ (18 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ) โดยระบุว่า โจ ไบเดน วัย 82 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากชนิดรุนแรง และพบว่ามีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งไปยังกระดูกแล้ว
แถลงการณ์ระบุว่า “เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไบเดนเข้ารับการตรวจหลังมีอาการปัสสาวะผิดปกติเพิ่มขึ้น และแพทย์ตรวจพบก้อนเนื้องอกบริเวณต่อมลูกหมาก กระทั่งวันศุกร์ เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก Gleason score 9 (Grade Group 5) ซึ่งจัดว่าอยู่ในกลุ่มมะเร็งที่มีความรุนแรงสูง และมีการลุกลามไปถึงกระดูก”
แม้จะเป็นมะเร็งชนิดที่รุนแรง แต่ข่าวดีคือ มะเร็งของไบเดนยังคงตอบสนองต่อการรักษาด้วยฮอร์โมน ซึ่งทำให้สามารถควบคุมโรคได้ในระดับหนึ่ง ขณะนี้ครอบครัวของเขากำลังหารือกับทีมแพทย์เพื่อเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
ถึงแม้ว่าไบเดนจะพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ปัญหาสุขภาพของเขายังคงเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะหลังจากการดีเบตกับโดนัลด์ ทรัมป์ในปี 2024 ที่หลายฝ่ายมองว่า ไบเดนมีภาวะความจำเสื่อมและประสิทธิภาพลดลง
หนังสือ New book ที่เขียนโดยนักข่าวจาก CNN และ Axios เปิดเผยข้อมูลเบื้องลึกว่า ทีมงานของไบเดนเคยกังวลว่าเขาอาจต้องใช้รถเข็นหากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย รวมถึงเหตุการณ์ที่เขาจำ จอร์จ คลูนีย์ ดาราฮอลลีวูดชื่อดังไม่ได้ ในงานระดมทุนเมื่อปี 2024 ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สะท้อนถึงปัญหาสุขภาพที่อาจเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจถอนตัวจากการเลือกตั้งในปีเดียวกัน
แม้กระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับภาวะสุขภาพจะยังคงมีอยู่ แต่ไบเดนได้ปรากฏตัวในรายการ The View พร้อมภรรยาเมื่อไม่นานนี้ เพื่อยืนยันว่าเขาไม่มีภาวะเสื่อมถอยทางสมอง
ประธานาธิบดีทรัมป์ โพสต์ผ่าน Truth Social ว่า “เมลาเนียและผมรู้สึกเสียใจที่ได้ทราบข่าวเกี่ยวกับการวินิจฉัยทางการแพทย์ล่าสุดของโจ ไบเดน เราขอส่งกำลังใจอย่างที่สุดไปยังจิลล์และครอบครัว และขออวยพรให้โจฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จในการรักษา”
ขณะที่ กมลา แฮร์ริส อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็เขียนผ่าน X ว่า “โจเป็นนักสู้ และฉันมั่นใจว่าเขาจะผ่านมันไปได้ด้วยความเข้มแข็งแบบที่เขาเคยแสดงให้เห็นมาตลอดชีวิต”
ดร.เดวีส์กล่าวว่า แม้มะเร็งจะลุกลามไปถึงกระดูก ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่แพทย์ย้ำว่ายังมีทางเลือกในการรักษาที่ทันสมัย ทั้งการใช้ฮอร์โมนบำบัด เคมีบำบัด และการฉายรังสี ที่สามารถช่วยยืดอายุผู้ป่วยและคงคุณภาพชีวิตไว้ได้
บทบาทของไบเดนในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง
เรื่องโรคมะเร็งเป็นเรื่องที่ฝังใจสำหรับไบเดน หลังจากสูญเสียลูกชาย “โบ ไบเดน” ไปด้วยโรคมะเร็งสมองในปี 2015
ในสมัยดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ไบเดนได้รับมอบหมายจากบารัก โอบามา ให้เป็นหัวหน้าทีมโครงการ “Cancer Moonshot” เพื่อเร่งรัดการพัฒนานวัตกรรมด้านการรักษาโรคมะเร็ง
ต่อมาในปี 2022 ไบเดนได้ฟื้นโครงการนี้อีกครั้ง โดยตั้งเป้าลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งลง 50% ภายใน 25 ปีข้างหน้า พร้อมทุ่มงบประมาณวิจัยกว่า 150 ล้านดอลลาร์
โอบามาและฮิลลารี คลินตัน ต่างร่วมส่งกำลังใจ โดยอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามาเขียนผ่าน X ว่า “ไม่มีใครทุ่มเทเพื่อค้นหาวิธีรักษาโรคมะเร็งมากไปกว่าโจ และผมมั่นใจว่าเขาจะต่อสู้กับโรคนี้ด้วยความเข้มแข็งและศักดิ์ศรีที่สะท้อนตัวตนอันชัดเจนของเขา”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี