20 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ตั้งข้อหา มาโลน แลม (Malone Lam) วัย 20 ปี สัญชาติสิงคโปร์ ในคดีหัวหน้าขบวนการอาชญากรรมที่มีสมาชิกถึง 13 คน ซึ่งถูกกล่าวหาว่าขโมยสกุลเงินดิจิทัล (cryptocurrency) มูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์

แลมเคยถูกตั้งข้อหาก่อนหน้านี้จากการขโมย Bitcoin จำนวนกว่า 4,100 เหรียญ จากเหยื่อเพียงรายเดียวในวอชิงตัน ดี.ซี. คิดเป็นมูลค่ากว่า 230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8,300 ล้านบาท)

จากคำฟ้องล่าสุด อัยการกลางของสหรัฐฯ กล่าวหาว่า แลมได้ร่วมมือกับผู้ต้องหารายอื่นอีก 12 คน วางแผนล่อลวงเหยื่อผ่านแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ โดยขโมยเงินจากกระเป๋าเงินคริปโต แปลงเป็นดอลลาร์สหรัฐ และฟอกเงินด้วยวิธีการต่าง ๆ

หนึ่งในวิธีที่ถูกเปิดเผยคือ การซุกเงินสดไว้ในตุ๊กตา “Squishmallow” (ตุ๊กตายัดนุ่น) แล้วส่งข้ามรัฐให้สมาชิกในแก๊ง

เงินที่ได้จากการขโมยคริปโตถูกนำไปใช้ในชีวิตฟุ่มเฟือย โดยเอกสารของอัยการระบุว่า แลมใช้เงินสูงถึง 500,000 ดอลลาร์ต่อคืน (ประมาณ 18.4 ล้านบาท) ในการเที่ยวไนท์คลับ

นอกจากนี้ ยังซื้อรถยนต์หรูอย่างน้อย 28 คัน บางคันมีมูลค่าสูงถึง 3.8 ล้านดอลลาร์ (ราว 137 ล้านบาท) พร้อมเสื้อผ้าแบรนด์เนมหลายหมื่นดอลลาร์ และเช่าบ้านหรูในย่านไฮเอนด์ของลอสแอนเจลิส, แฮมป์ตันส์ และไมอามี

แม้จะถูกจับเมื่อเดือนกันยายน 2567 และมีกำหนดเข้าสู่การพิจารณาคดีในเดือนตุลาคม 2568 แต่อัยการระบุว่า แลมยังคงสั่งการขบวนการจากในเรือนจำ โดยติดต่อกับสมาชิกแก๊งเพื่อส่งคำสั่ง และให้ซื้อของหรูส่งให้แฟนสาวที่ไมอามี

ในคดีเดียวกัน ยังมีรายงานว่า ขบวนการนี้เคยก่อเหตุลักทรัพย์ถึงบ้านเหยื่อ โดยหนึ่งในผู้ต้องหาบุกบ้านในรัฐนิวเม็กซิโกเพื่อขโมยอุปกรณ์เก็บคริปโต

ผู้ต้องหาทั้งหมด รวมถึงแลม ถูกตั้งข้อหาภายใต้กฎหมาย RICO (Racketeer Influenced and Corrupt Organizations Act) ซึ่งใช้จัดการกับองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่

ทนายความของแลม ระบุว่า เขาพร้อมเข้าสู่การพิจารณาคดีต่อหน้าคณะลูกขุนในเดือนตุลาคมนี้

หากถูกตัดสินว่ามีความผิด แลมอาจต้องรับโทษจำคุก มากกว่า 20 ปี ปรับสูงสุด 250,000 ดอลลาร์ (ราว 9.2 ล้านบาท) หรืออาจมากถึง 2 เท่าของเงินที่ได้จากการฉ้อโกง

คดีนี้กลายเป็นที่จับตามองของสื่อทั่วโลก เพราะสะท้อนให้เห็นการเชื่อมโยงระหว่างโลกไซเบอร์และอาชญากรรมข้ามชาติในยุคคริปโต

ขอบคุณข้อมูลจาก : CNA