เนปาลเดือด! ม็อบหนุนอดีตกษัตริย์ชุมนุมใหญ่ เรียกร้องฟื้นฟูสถาบัน หลังถูกล้มเลิก 17 ปี

29 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตกษัตริย์แห่งเนปาลนับพันคนรวมตัวชุมนุมใหญ่ในกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศเนปาล เรียกร้องให้ฟื้นฟูระบอบกษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ ที่ถูกยกเลิกไปเมื่อ 17 ปีก่อน ท่ามกลางความไม่พอใจต่อรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต่อเนื่องหลายสมัย

ผู้ชุมนุมโบกธงชาติเนปาลและตะโกนว่า “พระราชาของเราสำคัญยิ่งกว่าชีวิต... ขอพระราชากลับมาและช่วยกอบกู้ประเทศ” ขบวนเคลื่อนตัวจากหลายทิศทางเข้าสู่ใจกลางเมือง โดยมีตำรวจปราบจลาจลคอยดูแล แต่ไม่ได้มีการสลายการชุมนุม

ทั้งนี้ ในการชุมนุมลักษณะเดียวกันเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีกหลายราย

เนปาล เคยปกครองด้วยระบอบกษัตริย์มากว่า 239 ปี ก่อนจะถูกโค่นล้มในปี 2008 หลังเกิดการประท้วงนองเลือดหลายสัปดาห์ ปัจจุบันอดีตกษัตริย์เนปาล พระเจ้ายานทรา อายุ 77 ปี ใช้ชีวิตแบบสามัญชนกับครอบครัวในบ้านส่วนตัวที่กรุงกาฐมาณฑุ โดยท่านไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการชุมนุมในครั้งนี้ แต่เคยแสดงความเสียใจต่อเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม

นอกจากการฟื้นฟูสถาบันกษัตริย์ ผู้ชุมนุมยังเรียกร้องให้เนปาลกลับมาเป็นรัฐฮินดูอีกครั้ง หลังจากสถานะนี้ถูกยกเลิกไปพร้อมกับการล้มล้างสถาบันกษัตริย์

นายรเจนทรา ตามัง วัย 35 ปี พ่อค้าข้างถนนในกาฐมาณฑุ กล่าวว่า “รัฐบาลที่ผ่านมาตลอด 17 ปี ไม่สามารถทำตามสัญญาเรื่องการพัฒนา สร้างงาน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้เลย หลายคนสิ้นหวังและต้องหนีไปทำงานต่างประเทศ”

ปัจจุบัน ชาวเนปาลนับล้านคนต้องเดินทางไปทำงานในตะวันออกกลาง, เกาหลีใต้ และมาเลเซีย ส่วนใหญ่ทำงานก่อสร้าง โดยเงินที่พวกเขาส่งกลับบ้านถือเป็นรายได้สำคัญของประเทศ

ด้านผู้สนับสนุนรัฐบาลก็จัดการชุมนุมเล็ก ๆ ใกล้เคียงเพื่อแสดงพลังสนับสนุนระบบสาธารณรัฐที่ใช้แทนสถาบันกษัตริย์ โดยพรรคการเมืองใหญ่ 3 พรรค ที่ครองเกือบ 200 จาก 275 ที่นั่งในสภา ยืนยันว่าระบอบกษัตริย์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ไปแล้ว และไม่สามารถฟื้นฟูได้

ทั้งสามพรรคเคยร่วมรณรงค์ล้มล้างสถาบันกษัตริย์เมื่อปี 2008 และยังยืนกรานความเชื่อมั่นในระบอบสาธารณรัฐไม่เปลี่ยนแปลง

ขณะที่พรรค Rastriya Prajatantra Party ซึ่งผลักดันให้ฟื้นฟูสถาบันกษัตริย์ มีเพียง 13 ที่นั่งในสภา ซึ่งหากต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2015 ที่เปลี่ยนเนปาลเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตย ต้องใช้เสียงถึงสองในสามของสภา หรือ 184 เสียง

กลุ่มผู้สนับสนุนสถาบันกษัตริย์ยืนยันว่า การเคลื่อนไหวจะยังคงเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายในการฟื้นฟูสถาบันกษัตริย์

ขอบคุณข้อมูลจาก : Reuters, CNA