เศรษฐกิจจีนในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างโดดเด่นจากหลายปัจจัย ทั้งด้านการบริโภคภายในประเทศ การลงทุนในภาคอุตสาหกรรม การส่งออกที่ยังเติบโต และนโยบายภาครัฐที่เอื้อต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ภาพรวมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าจีนยังคงสามารถรักษาความแข็งแกร่งในระบบเศรษฐกิจของตนเองท่ามกลางบริบทโลกที่ผันผวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การบริโภคในประเทศฟื้นตัว
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนมีบทบาทสำคัญในการปลุกการใช้จ่ายของผู้บริโภคให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะโครงการ “แลกสินค้าเก่าเป็นใหม่” (trade-in program) ที่ขยายวงเงินจาก 150,000 ล้านหยวนเป็น 300,000 ล้านหยวน ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาจับจ่ายใช้สอยในกลุ่มสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเทคโนโลยีใหม่ ๆ จากข้อมูลเดือนเมษายน 2568 ยอดขายปลีก (retail sales) ของจีนเติบโต 5.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และในเดือนมีนาคมก่อนหน้าเติบโตสูงถึง 5.9% สะท้อนให้เห็นว่ากำลังซื้อของประชาชนจีนเริ่มกลับมาอย่างมั่นคง นอกจากนี้ ค่า Core CPI ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานก็ทรงตัวอยู่ที่ +0.5% แสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของอุปสงค์ยังไม่ส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงจนกระทบต่อเสถียรภาพ
การลงทุนภาคอุตสาหกรรมขยายตัว
นโยบายสนับสนุนของรัฐบาล โดยเฉพาะการเร่งลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เซมิคอนดักเตอร์ และพลังงานสะอาด ส่งผลให้ภาคการผลิตของจีนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า กำไรของภาคอุตสาหกรรมระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายน 2568 เพิ่มขึ้น 1.4% และเฉพาะเดือนเมษายนเพียงเดือนเดียวก็เพิ่มขึ้นถึง 3.0% เมื่อเทียบปีต่อปี สะท้อนถึงแรงจูงใจและความเชื่อมั่นของภาคเอกชนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การออกพันธบัตรพิเศษมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านหยวนเพื่อใช้ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศก็ช่วยผลักดันการเติบโตในระยะยาวอีกทางหนึ่ง
การส่งออกยังคงแข็งแกร่ง
แม้จะเผชิญแรงกดดันจากนโยบายกีดกันทางการค้าในบางประเทศ แต่การส่งออกของจีนยังคงแสดงศักยภาพในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนเมษายน 2568 ยอดส่งออกเติบโต 1.9% และมีการรักษาดุลการค้าเกินดุลอย่างแข็งแกร่ง โดยมูลค่าดุลการค้าเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ในระดับสูงถึง 90,000–100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าจีนโดยเฉพาะในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และวัตถุดิบอุตสาหกรรม ยังคงได้รับความนิยมจากตลาดโลก อีกทั้งการควบคุมต้นทุนการผลิตและระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพยังช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกจีน
นโยบายภาครัฐเอื้อต่อการเติบโต
ปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจจีนคือความต่อเนื่องของนโยบายภาครัฐ โดยรัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2568 ไว้ที่ประมาณ 5% พร้อมมาตรการสนับสนุนทั้งด้านการคลังและการเงิน อาทิ การปรับลดอัตราส่วนเงินสำรองธนาคาร (RRR) เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง และการออกพันธบัตรท้องถิ่นเพื่อใช้ลงทุนในโครงการระดับจังหวัด ธนาคารกลางจีน (PBOC) ยังมีท่าทีพร้อมใช้เครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และผลักดันเศรษฐกิจในประเทศให้เติบโตได้ต่อเนื่อง ขณะที่ IMF และ World Bank ต่างประเมินว่าจีนยังมี "พื้นที่เชิงนโยบาย" เพียงพอในการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยไม่กระทบต่อเสถียรภาพในระยะยาว
จากพัฒนาการทางเศรษฐกิจที่ผ่านมา จีนแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวที่ชัดเจนและมีเสถียรภาพ โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากการบริโภคภายในประเทศที่เริ่มกลับมาคึกคัก การขยายตัวของการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม การส่งออกที่ยังคงแข็งแกร่ง และการดำเนินนโยบายภาครัฐที่มีทิศทางชัดเจนและสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาว จีนไม่ได้มุ่งเพียงการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ให้ความสำคัญกับการวางรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งนับเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงต่อระบบเศรษฐกิจโลกโดยรวม
ผู้เขียนเห็นว่าจีนกำลังพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ โดยเน้นความยืดหยุ่น สมดุล และยั่งยืน สามารถรักษาเสถียรภาพได้แม้ท่ามกลางบริบทโลกที่ท้าทาย ความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วของภาครัฐ ประกอบกับศักยภาพของตลาดภายในประเทศที่แข็งแกร่ง กำลังผลักดันให้จีนไม่เพียงแค่ฟื้นตัว แต่ยังเดินหน้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำทางเศรษฐกิจของโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
เรียบเรียงโดย ดร.กฤตติกา เศวตอมรกุล เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร / รองคณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี