26 มิ.ย. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Trump's budget plan shifts wealth from young to old, analysts say ระบุว่า บรรดานักวิเคราะห์ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ชี้มาตรการลดหย่อนภาษีชุดใหญ่ของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จากพรรครีพับลิกัน จะส่งผ่านความมั่งคั่งจากชาวอเมริกันรุ่นใหม่ไปสู่คนรุ่นเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะมีทั้งการลดหย่อนภาษีสำหรับพ่อแม่ ทารกแรกเกิด นักเรียนโรงเรียนเอกชน และชาวอเมริกันรุ่นใหม่อื่นๆ แต่ประโยชน์เหล่านั้นจะน้อยกว่าเงินหลายล้านล้านเหรียญสหรัฐที่เพิ่มเข้ามาในหนี้สาธารณะ 36.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอาจผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ตกต่ำลงในระยะยาว และทำให้คนรุ่นใหม่ต้องแบกรับภาระภาษีและค่าจำนองที่สูงขึ้น อาทิ เคนท์ สเม็ทเทอร์ส์ (Kent Smetters) ผู้อำนวยการ Penn Wharton Budget Model กล่าวว่า ภาระจะถูกผลักให้ชาวอเมริกันรุ่นถัดไปรับแทน
องค์กรวิจัยที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดพบว่า หากร่างกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ ผู้ที่มีอายุ 40 ปีที่มีรายได้ใกล้เคียงกับรายได้เฉลี่ยจะสูญเสียรายได้ 7,500 เหรียญสหรัฐตลอดช่วงชีวิต ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่มีอายุ 70 ปีที่มีรายได้เท่ากันจะมีฐานะร่ำรวยขึ้น 17,500 เหรียญสหรัฐ ซึ่งมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดความแตกต่างนี้ เช่น แรงงานที่อายุน้อยกว่า ซึ่งโดยปกติจะมีรายได้น้อยกว่า จะไม่ได้รับประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีเงินได้ของร่างกฎหมายนี้มากนักเมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่ในช่วงปีที่มีรายได้สูงสุด
นอกจากนี้ แรงงานเหล่านี้ยังเสี่ยงต่อการถูกตัดเงินช่วยเหลือนักศึกษาและโครงการสุขภาพ Medicaid ซึ่งครอบคลุมการคลอดบุตรในโรงพยาบาล 4 ใน 10 ครั้งในสหรัฐฯ โดย เจสสิกา รีเดิล (Jessica Riedl) จากสถาบันแมนฮัตตัน ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมองของฝ่ายอนุรักษ์นิยม กล่าวว่า ในระยะสั้น ผลประโยชน์จะเอียงไปทางผู้มีรายได้สูงขึ้น ซึ่งมักจะเป็นตัวบ่งบอกอายุได้ดี
แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเพิ่มหนี้สาธารณะเป็น 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งน่าจะทำให้ดอกเบี้ยสูงขึ้นในปีต่อๆ ไป และรัฐบาลจะต้องจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อการชำระหนี้มากกว่าจุดประสงค์อื่นๆ โดย จอห์น ริกโก (John Ricco) จากห้องปฏิบัติการงบประมาณเยล กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่ามีการถ่ายโอนระหว่างรุ่น โดยพบว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะเพิ่มต้นทุนจำนองบ้านต่อปีเป็น 4,000 เหรียญสหรัฐในปี 2598 ซึ่งเป็นปีที่เด็กแรกเกิดในปัจจุบันจะมีอายุครบ 30 ปี
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า บรรดาสมาชิกรัฐสภาจากพรรครีพับลิกัน เชื่อว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรและอยู่ระหว่างการพิจารณาในวุฒิสภาในขณะนี้ จะช่วยเหลือชาวอเมริกันที่อายุน้อยกว่าโดยทำให้เมดิเคดมีความยั่งยืนมากขึ้น และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและการประกอบการ ซึ่งจะช่วยให้คนอายุน้อยกว่าเข้าสู่ตลาดแรงงานได้ ร่างกฎหมายดังกล่าวยังเป็นไปตามคำมั่นสัญญาในการหาเสียงของทรัมป์ โดยการกำหนดการลดหย่อนภาษีใหม่สำหรับรายได้ที่ได้รับทิปและค่าล่วงเวลา ซึ่งพรรครีพับลิกันมองว่าอาจช่วยเหลือคนงานอายุน้อยที่ทำงานและทำงานแบบรายชั่วโมงได้
อนึ่ง ร่างกฎหมายดังกล่าวจะตั้งบัญชีออมทรัพย์สำหรับทารกแรกเกิดจำนวน 1,000 เหรียญสหรัฐ และขยายการลดหย่อนภาษีบุตร แม้ว่ารายละเอียดจะแตกต่างกันไปตามร่างกฎหมายฉบับของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ขณะที่ สตีฟ สกาลิส (Steve Scalise) สมาขิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรครีพับลิกัน กล่าวภายหลังที่ร่างกฎหมายผ่านเมื่อเดือน พ.ค. 2568 ว่า กฎหมายนี้จะเพิ่มรายได้สุทธิของครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยและมีบุตร 2 คน จาก 4,000 เป็น 5,000 เหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม การคำนวณดังกล่าวไม่ได้คำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นที่ครอบครัวที่มีรายได้น้อยและปานกลางจำนวนมากจะต้องจ่ายสำหรับค่ารักษาพยาบาล เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา และค่าอาหาร เนื่องมาจากการปรับลดค่าใช้จ่ายในพื้นที่เหล่านี้ ด้านสำนักงานงบประมาณรัฐสภาและนักวิเคราะห์ภายนอกรายอื่นๆ พบว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะมีน้ำหนักมากกว่าเงินออมที่ครัวเรือนเหล่านั้นอาจได้รับจากการลดหย่อนภาษี ขณะที่เครดิตภาษีบุตรและการลดหย่อนภาษีอื่นๆ ที่กำหนดไว้ก็จะไม่สามารถใช้ได้อย่างเต็มที่สำหรับครอบครัวที่มีรายได้น้อยเช่นกัน ซึ่งรูปแบบดังกล่าวเป็นจริงสำหรับชาวอเมริกันที่ยากจนทุกวัย
เบรนแดน ดุ๊ก ( Brendan Duke) จากศูนย์งบประมาณและลำดับความสำคัญของนโยบายฝ่ายซ้าย กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวรวมถึงการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ซึ่งทรัมป์สัญญาไว้ระหว่างการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว แต่หลายคนไม่จ่ายภาษีเงินได้เพียงพอที่จะมีสิทธิ์ได้รับการลดหย่อนดังกล่าว การลดหย่อนภาษีนี้จึงไม่ได้ช่วยอะไรผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยเลย
อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุเหล่านั้นได้รับประโยชน์จากคำมั่นสัญญาอีกประการหนึ่งในการรณรงค์หาเสียงของทรัมป์ เนื่องจากร่างกฎหมายดังกล่าวช่วยให้ Medicare ซึ่งเป็นแผนสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ และ Social Security (ประกันสังคม) ซึ่งเป็นโครงการบำนาญของสหรัฐฯ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเหมือนกับ Medicaid ซึ่ง Medicare และ Social Security กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องจากประชากรมีอายุมากขึ้น ทำให้การใช้จ่ายของรัฐบาลอื่นๆ น้อยลง และคาดว่าจะขาดเงินทุนในปี 2576
ถึงกระนั้น ไม่ว่าจะเป็นทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน หรือคู่แข่งทางการเมืองอย่างบรรดาคนในพรรคเดโมแครต ต่างก็ให้คำมั่นว่าจะปกป้องโครงการที่ได้รับความนิยมทางการเมืองทั้งสองโครงการจากการปรับโครงสร้างใหม่ ซึ่งจะทำให้คนรุ่นหลังไปต้องเผชิญกับปัญหานี้ โดย รีเดิล กล่าวว่า นักการเมืองไม่ว่าจะอยู่พรรคใดก็ล้วนมีส่วนร่วมในการโจรกรรมข้ามรุ่นกันมานานแล้ว
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี