3 กรกฎาคม 2568 จากกรณีที่ 'ประเทศญี่ปุ่น' เกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องบริเวณนอกชายฝั่งหมู่เกาะโทคาระ จังหวัดคาโกชิมะ ประเทศญี่ปุ่น โดยช่วงเวลา 04.32 น. ตามเวลาท้องถิ่น เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.1 แมกนิจูด ที่เกาะอาคุเซกิ หมู่บ้านโทชิมะ จังหวัดคาโกชิมะ  สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไป 16 กิโลเมตร จากนั้นวานนี้เมื่อช่วง 09.06 - 09.14 น. ตามเวลาท้องถิ่น ยังเกิดแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรง 4 หรือระดับที่ผู้คนส่วนใหญ่สามารถรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน โดยมีขนาด 4.4, 3.5 และ 4.2 แมกนิจูด ซึ่งพบว่าตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น 'จังหวัดคาโกชิมะ'ประสบภัยแผ่นดินไหวหลายครั้ง  พบแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรง 1 ขึ้นไปสะสมแล้วถึง 877 ครั้ง

ความคืบหน้าล่าสุด สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า 'ญี่ปุ่น' ยังคงเกิดแผ่นดินไหวในทะเลนอกชายฝั่งหมู่เกาะโทคาระ จังหวัดคาโกชิมะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ โดยเกิดต่อเนื่องเป็นวันที่ 13 แล้ว ซึ่งวันนี้ (3 มิ.ย.68) ช่วง 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นแล้วทั้งหมด 1,001 ครั้ง จากในจำนวนแผ่นดินไหวมากกว่า 1,000 ครั้ง มีอยู่ 3 ครั้งที่ระดับความรุนแรงอยู่ที่ 5- ตามมาตรวัดญี่ปุ่น ซึ่งเป็นระดับที่ประชาชนไม่สามารถทรงตัวได้ และสิ่งของบนชั้นวางอาจร่วงลงมาเป็นอันตราย แผ่นดินไหวทั้ง 3 ครั้งที่รุนแรงระดับ 5- นั้น มีขนาดเฉลี่ย 5.0-5.5 แมกนิจูด 

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น จำเป็นต้องออกมาแถลงข่าวฉุกเฉิน เรียกร้องให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือแผ่นดินไหวระดับ 5 ตามมาตราความรุนแรงของแผ่นดินไหวของญี่ปุ่น โดยประชาชนต้อง 'เตรียมพร้อมอพยพทุกเมื่อ' ซึ่งก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าแผ่นดินไหวจะสิ้นสุดลงเมื่อใด คุณเอบิตะ อายาทากะ หัวหน้าฝ่ายติดตามแผ่นดินไหวและสึนามิ กล่าวในการแถลงข่าวว่า เราควรเตรียมพร้อมสำหรับแผ่นดินไหวขนาดเดียวกันในอนาคต 

นายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ กล่าวว่า ประเทศ เทศบาล บริษัทเอกชน และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ต้องร่วมมือกัน เพื่อช่วยชีวิตประชาชนให้ได้มากที่สุด แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ที่อาจเกิดขึ้นบริเวณ 'ร่องลึกนันไค' ซึ่งอาจส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึงเกือบ 300,000 ราย และก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ทางด้าน ผศ.ยากิฮาระ ฮิโรชิ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว มหาวิทยาลัยคาโกชิมะ ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับแผ่นดินไหวในหมู่เกาะโทคาระ กล่าวว่า ทางด้านตะวันออกของหมู่เกาะ แผ่นเปลือกโลกฟิลิปปินส์ด้านมหาสมุทรกำลังจมลงไปใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเซียด้านแผ่นดิน ในขณะที่ทางด้านตะวันตก กำลังมีแรงแผ่กระจายจากร่องลึกโอกินาวา ซึ่งแรงและการจมลงทำให้เกิดความเครียดสะสมในรอยเลื่อนโดยรอบ ซึ่งทำให้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยขึ้น ครั้งนี้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวมีแนวโน้มจะค่อยๆ แผ่ขยายออกไปด้านนอก และมีความเป็นไปได้ที่น้ำหรือของเหลวอื่นๆ จะลอยขึ้นมาจากใต้พื้นทะเล ทำให้รอยเลื่อนเคลื่อนตัวมากขึ้น ที่หลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่ร่องลึกนันไคนั้น ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ เพราะศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ไกลออกไป