7 ก.ค. 2568 APA News ซึ่งเป็นเว็บไซต์กลางของเครือข่ายสำนักข่าวต่างๆ ในทวีปแอฟริกา รายงานข่าว Uganda: Museveni, 80, gets nod to run for president again ระบุว่า แม้จะมีอายุ 80 ปีแล้ว แต่ล่าสุด โยเวรี มูเซเวนี (Yoweri Museveni) ประธานาธิบดียูกันดา เตรียมจะลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้นำประเทศอีกสมัย หลังจากที่พรรค NRM ซึ่งเป็นพรรคการเมืองต้นสังกัดของเขาลงมติสนับสนุนเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2568  

มูเซเวนี ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่นำกลุ่มกบฏติดอาวุธยึดรัฐสภาได้ในปี 2529 และได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีหลายครั้งตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา  โดยเขายกย่องรัฐบาลภายใต้การนำของตนเองว่าสามารถนำเสถียรภาพทางการเมืองมาสู่ยูกันดาได้ และกล่าวว่าตนคือผู้สมัครที่เหมาะสมสำหรับการก้าวกระโดดของยูกันดาไปสู่ระดับการพัฒนาขั้นต่อไป ซึ่งก็คือการเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง

มูเซเวนีเป็นหนึ่งในกลุ่มประธานาธิบดีสูงอายุของประเทศในทวีปแอฟริกาที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะสละอำนาจแต่อย่างใด คนอื่นๆ ได้แก่ เตโอโดโร โอเบียง งิเอมา (Teodoro Obiang Nguema) วัย 83 ปี ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของอิเควทอเรียลกินีตั้งแต่ปี 2522 , พอล บียา (Paul Biya) วัย 92 ปี ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของแคเมอรูนตั้งแต่ปี 2525 และอลาสซาน อูอัตตารา (Alassane Ouattara) ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีโกตดิวัวร์มาตั้งแต่ปี 2553 ปัจจุบันอายุ 82 ปี ส่วนอีกคนหนึ่งคือ เอ็มเมอร์สัน มนันกากวา (Emmerson Mnangagwa) วัย 82 ปี ประธานาธิบดีซิมบับเว

การเลือกตังประธานาธิบดีของยูกันดา ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในเดือน ม.ค. 2569 ซึ่งคาดว่า มูเซเวนี ยังคงต้องต่อสู้กับคู่แข่งรายเดิม คือ โรเบิร์ต คยากูลานยี (Robert Kyagulanyi) หรือชื่อในวงการดนตรีคือ โบบิ ไวน์ (Bobi Wine) อดีตศิลปินเพลงที่ผันตัวมาเล่นการเมือง ซึ่งพ่ายแพ้มูเซเวนีในการเลือกตั้งครั้งก่อน อย่างไรก็ตาม มูเซเวนี ถูกวิพาก์วิจารณ์ว่าใช้อำนาจกำจัดคู่แข่งทางการเมืองของเขา อาทิ คิซซา เบซิกเย (Kizza Besigye) อดีตแพทย์ประจำตัวของมูเซเวนี ซึ่่งต่อมาได้ประกาศเป็นคู่แข่งของเขา ถูกควบคุมตัวมาตั้งแต่เดือน พ.ย. 2567 ในข้อกล่าวหาว่าเป็นกบฏ

สำนักข่าว BBC ของอังกฤษ รายงานข่าว Uganda's 80-year-old president in bid to extend 40-year rule ระบุว่า นักวิจารณ์มูเซเวนีกล่าวว่าเขาปกครองประเทศด้วยกำปั้นเหล็กตั้งแต่ยึดอำนาจในฐานะผู้นำกบฏในปี 2529 และชนะการเลือกตั้งทุกครั้งนับตั้งแต่นั้นมา อีกทั้งมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญถึง 2 ครั้ง เพื่อยกเลิกข้อจำกัดเรื่องอายุและวาระการดำรงตำแหน่งเพื่อให้เขาสามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้

ในเดือน เม.ย. 2568 โรเบิร์ต คยากูลานยี หรือ โบบิ ไวน์ ให้สัมภาษณ์กับ BBC ระบุว่า ตนจะลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดียูกันดา ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปในเดือน ม.ค. 2569 หากพรรค NUP ต้นสังกัดลงมติลงเป็นตัวแทนของพรรค แต่ก็ยอมรับว่า การทำหน้าที่ฝ่ายค้านไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะถูกแรงกดดันจากฝ่ายรัฐบาลในการหาเรื่องปราบปรามซึ่งไม่ต่างอะไรกับการถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ก่อการร้าย    

การเลือกตั้งผู้นำยูกันดาครั้งก่อนเมื่อปี 2564 ไวน์ พ่ายแพ้ มูเซเวนี ด้วยคะแนนร้อยละ 35 ต่อ 59 ในการออกเสียงที่เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาการทุจริตและการปราบปรามฝ่ายค้าน อาทิ กรณีของ คิซซา เบซิกเย ที่ถูกจับกุมคุมขังในข้อหากบฏเมื่อเดือน พ.ย. 2567 ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธและชี้ว่าเป็นการดำเนินคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ขณะที่ในการปราศรัยเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2568 หลังจากที่พรรค NRM รับรองให้มูเซเวนีลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดียูกันดาอีกสมัย มูเซเวนี กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือยูกันดาจะต้องไม่พลาดโอกาสในประวัติศาสตร์เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เมื่อยุโรปเปลี่ยนแปลง ในขณะที่แอฟริกาซบเซาและต้องตกเป็นทาส

“ผมต้องการให้ยูกันดาก้าวกระโดดในเชิงคุณภาพ และกลายเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง ขนาดประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชียที่มีทรัพยากรธรรมชาติน้อยกว่ายังทำได้ เราก็ต้องทำได้” มูเซเวนี กล่าว    

ขอบคุณเรื่องจาก

https://apanews.net/uganda-museveni-80-gets-nod-to-run-for-president-again/

https://www.bbc.com/news/articles/cm2ml8lzzrno

043...