15 ก.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว In reversal, Trump arms Ukraine and threatens sanctions on countries that buy Russian oil ระบุว่า ในการเปิดเผยเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2568 โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นอกจากรับปากจะจัดหาอาวุธใหม่สำหรับยูเครนแล้ว ยังขู่รัสเซียด้วยว่าจะตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าในอัตรา 100% หากภายใน 50 วันไม่ยอมยุติการสู้รบกับยูเครน
ในการแถลงข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ ภายในทำเนียบขาว ร่วมกับ มาร์ค รูตต์ (Mark Rutte) เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ทรัมป์กล่าวว่ายุทโธปกรณ์มูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งรวมถึง “แพทริออต (Patriot)” ระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศ หนึ่งในอาวุธเลื่องชื่อของสหรัฐฯ จะถูกส่งมอบให้กับยูเครนผ่านทาง NATO โดยที่ NATO จะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ขณะที่เลขาธิการ NATO กล่าวว่า เยอรมนี ฟินแลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์ อังกฤษ เนเธอร์แลนด์และแคนาดา ต่างต้องการมีส่วนร่วมในการสนับสนุนยูเครน
ในงานเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ยังแสดงความผิดหวังต่อ วลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดีรัสเซีย ทั้งนี้ หากทรัมป์ขู่ว่าจะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรรองต่อรัสเซียจริง จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนโยบายคว่ำบาตรของชาติตะวันตก โดยฝ่ายนิติบัญญัติจากพรรคการเมืองใหญ่ทั้ง 2 พรรคในสหรัฐฯ กำลังผลักดันร่างกฎหมายที่จะอนุมัติมาตรการดังกล่าว โดยมุ่งเป้าไปที่ประเทศอื่นๆ ที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากยกทัพบุกยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. 2565 สงครามระหว่าง 2 ประเทศได้ยืดเยื้อยาวนานมากว่า 3 ปี โดยกลุ่มประเทศโลกตะวันตกได้ตัดความสัมพันธ์ทางการเงินส่วนใหญ่กับรัสเซีย แต่ยังไม่ดำเนินการใดๆ ที่จะจำกัดรัสเซียจากการขายน้ำมันให้กับแหล่งอื่นของโลก ซึ่งทำให้รัสเซียยังคงสร้างรายได้หลายแสนล้านเหรียญสหรัฐจากการขนส่งน้ำมันไปยังผู้ซื้อ เช่น จีนและอินเดีย
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว อธิบายเพิ่มเติมว่า ทรัมป์กำลังหมายถึงภาษีนำเข้าสินค้าจากรัสเซียในอัตรา 100% รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรขั้นที่สองต่อประเทศอื่นๆ ที่ซื้อสินค้าส่งออกจากรัสเซีย ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) สหรัฐฯ 85 คนจากทั้งหมด 100 คน ร่วมสนับสนุนร่างกฎหมายที่จะให้ทรัมป์มีอำนาจในการกำหนดภาษีนำเข้าสูงถึง 500% ต่อประเทศใดๆ ที่ให้ความช่วยเหลือรัสเซีย แต่ประธานสภาจากพรรครีพับลิกันกำลังรอให้ทรัมป์อนุมัติการลงมติ
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ที่กรุงเคียฟของยูเครน ผู้คนต่างยินดีกับการประกาศดังกล่าว แต่บางคนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับเจตนาของทรัมป์ แต่การขู่คว่ำบาตรของทรัมป์ที่มาพร้อมกับระยะเวลาผ่อนผัน 50 วัน กลับเป็นมาตรการที่นักลงทุนในรัสเซียให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เนื่องจากค่าเงินรูเบิลฟื้นตัวจากการขาดทุนก่อนหน้านี้ และตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น
อาร์ตยอม นิโคลาเยฟ (Artyom Nikolayev) นักวิเคราะห์จากบริษัทข้อมูลทางการเงิน Invest Era ในรัสเซีย มองว่า ทรัมป์ไม่ได้ดำเนินการไปไกลเท่าที่ตลาดรัสเซียกังวล กล่าวคือ ผู้นำสหรัฐฯ ทำผลงานต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เพราะให้เวลาถึง 50 วัน ซึ่งในระหว่างนั้นผู้นำรัสเซียสามารถหาข้อสรุปและขยายระยะเวลาการเจรจาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ทรัมป์ยังชอบที่จะเลื่อนและขยายกำหนดเวลาดังกล่าวออกไปด้วย
ขณะที่ อันโตนิโอ กูเตร์เรส (Antonio Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ให้ความเห็นต่อท่าทีล่าสุดของทรัมป์ ว่า จำเป็นต้องมีการหยุดยิงทันทีเพื่อปูทางไปสู่การแก้ปัญหาทางการเมือง และสิ่งใดก็ตามที่สามารถนำไปสู่เป้าหมายเหล่านี้ได้ แน่นอนว่าจะมีความสำคัญหากดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า นับตั้งแต่กลับเข้าทำเนียบขาวในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 พร้อมสัญญาว่าจะยุติสงครามโดยเร็ว ทรัมป์ได้พยายามสร้างความสัมพันธ์อันดีกับรัสเซีย โดยได้พูดคุยกับปูตินหลายครั้ง รัฐบาลสหรัฐญ ภายใต้การนำของทรัมป์ได้ถอยห่างจากนโยบายที่สนับสนุนยูเครน เช่น การผลักดันให้เป็นสมาชิกนาโต และเรียกร้องให้รัสเซียถอนทัพออกจากดินแดนทั้งหมดของยูเครน
อย่างไรก็ตาม ผู้นำรัสเซียยังไม่ยอมรับข้อเสนอของทรัมป์เกี่ยวกับการหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ซึ่งได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็วจากฝ่ายยูเครน และในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมารัสเซียใช้โดรนหลายร้อยลำโจมตีเมืองต่างๆ ของยูเครน ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงท่าทีของตนเกิดจากความไม่พอใจในตัวปูติน ซึ่งพูดถึงสันติภาพแต่ยังคงเดินหน้าโจมตีเมืองยูเครนต่อไป โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้เปรยว่า สหรัฐฯ ถูกปูตินโยนเรื่องไร้สาระเข้ามามากเกินไป
“ผมไม่อยากบอกว่าเขาเป็นมือสังหาร แต่เขาเป็นคนแข็งแกร่ง จริงๆ แล้วเราตกลงกันได้ประมาณ 4 ครั้ง แล้วข้อตกลงก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะระเบิดจะถูกทิ้งในคืนนั้น และคุณก็จะบอกว่าเราไม่มีข้อตกลงใดๆ” ทรัมป์ กล่าว
จีน ชาฮีน (Jeanne Shaheen) สว. สหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ซึ่งอยู่ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภา กล่าวว่าการประกาศของทรัมป์นั้นเป็นไปในทางบวก แต่ล่าช้าเกินไป และทรัมป์จำเป็นต้องให้คำมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครนอย่างต่อเนื่องในระยะยาว หากต้องการให้ปูตินเจรจาและยุติสงคราม
อีกด้านหนึ่ง เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2568 โวโลดิมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskyy) ประธานาธิบดียูเครน ได้หารือกับ คีธ เคลล็อกก์ (Keith Kellogg) ทูตพิเศษสหรัฐฯ ประจำยูเครน โดยผู้นำยูเครนเปิดเผยภายหลังว่า มีการพูดคุยกันในประเด็นเส้นทางสู่สันติภาพและสิ่งที่ทั้ง 2 ชาติสามารถทำได้ในทางปฏิบัติร่วมกันเพื่อนำสันติภาพมาสู่ยูเครนให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการเสริมสร้างระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน การผลิตร่วมกัน และการจัดซื้ออาวุธป้องกันประเทศโดยร่วมมือกับยุโรป
เซเลนสกี ยังกล่าวด้วยว่า ตนจะแต่งตั้ง ยูเลีย สวีรีเดนโก (Yulia Svyrydenko) รองนายกรัฐมนตรียูเครน ขึ้นมาทำหน้าที่นายกฯ แทน เดนิส ชมีฮาล (Denys Shmyhal) ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน ซึ่ง สวีรีเดนโก เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีบทบาทสำคัญในการเจรจาระหว่างยูเครนกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับข้อตกลงด้านแร่ธาตุ อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาด้วย
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี