ผลเจรจา‘ไทย-เขมร’บรรลุข้อตกลง

หยุดยิงไม่มีเงื่อนไข

มีผลหลังเที่ยงคืน28ก.ค.

ถกผู้นำทหาร2ฝ่าย29ก.ค.

นัดประชุมJBC4สิงหาคม

‘อันวาร์’สวมบทห้ามทัพ

แนวโน้มศึกชายแดน“ไทย-เขมร”คลี่คลาย ภายหลัง “ภูมิธรรม-ฮุน มาเนต”แถลงข้อตกลง หยุดยิงทันทีหลังเที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฎาคม ก่อนให้ผู้บัญชาการทหารของทั้งสองฝ่ายหารือกันในเช้าวันที่ 29 กรกฎาคม และประชุมผ่านกลไก JBC ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ นายกฯมาเลเซียรับบทห้ามทัพ โดยมีจีน-สหรัฐร่วมสังเกตการณ์ เชื่อศึกชายแดนไทย-เขมรคลี่คลาย

สถานการณ์ชายแดนไทยกับกัมพูชายั งมีการปะทะกันยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ระหว่างที่รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนาย อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียนให้เดินทางไปร่วมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันนี้ 28 กรกฎาคม 2568 ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเข้าหารือ เวลา15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นนั้น

วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เวลา10.30น.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ในฐานะกรรมการ ศบ.ทก.ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว

“จีน-สหรัฐ”ร่วมสังเกตุการณ์

โดยนายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางว่า วันนี้จะพบกันในเวลาประมาณ 15.00 น. จะมีการคุยกับนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเป็นการยกระดับการคุยในระดับผู้นำประเทศในระดับนายกรัฐมนตรี โดยมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นโฮส มีผู้เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์2 ประเทศคือสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยประเด็นที่คุยอันดับแรกคือจะให้มีการหยุดยิง ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่ไม่อยากให้กระทบกับชีวิตของพลเรือน และในรายละเอียดจะเป็นการคุยกันในระดับทวิภาคี ซึ่งได้เสนอไปแล้วว่าอยากคุย กัน ระหว่าง 2 ประเทศ โดยจะเป็นการคุยกันทั้งทีมในหลายๆเรื่องที่จะทำให้เกิดการยุติการสู้รบ และเป็นภัยต่อพลเมืองไทยเป็นเรื่องหลัก หัวใจสำคัญ คือ เรายึดมั่นในอธิปไตย ของประเทศ

ส่วนกรณีที่บอกว่าจะไปคุยกันในเรื่องการใช้แผนที่ 1:200,000 นั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ยังไม่คุยกันในเรื่องนี้เลย และขณะนี้ เราก็ยึดตามที่คิดว่าเราได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งก็จะต้องพูดคุยกัน 2ฝ่ายก่อน โดยอาจจะมีห้องเล็กได้คุยกัน

ส่วนที่ผ่านมากัมพูชาไม่ปฏิบัติตามจะไว้ใจได้อย่างไรนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่าขณะนี้อยู่ระหว่างรอการหยุดยิงเพื่อเจรจา ไม่ได้หมายความว่าหยุดยิงแล้วทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิม เพราะได้บอกแล้วว่าเรายึดมั่นในหลักอธิปไตยของประเทศ และชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก และเป็นหัวใจสำคัญที่เราต้องพิจารณา หากมีอะไรเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการผูกพันระยะยาวหรือเป็นปัญหาสำคัญของประเทศจะนำเข้ามาหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่เรายึดและถ้าเป็นการเฉพาะหน้าทั้ง 5 คน ที่ร่วมเดินทางไปก็จะพิจารณาอย่างเหมาะสม โดยปัจจัยสำคัญยังยืนยันภายใต้เอกราชอธิปไตยของประเทศ และยึดมั่นในผลประโยชน์ และชีวิตทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งริเริ่มในการดำเนินการเป็นขั้นแรก

ไม่เชื่อน้ำลายฝ่ายกัมพูชา

นายภูมิธรรมกล่าวอีว่า ทั้งนี้ได้บอกไว้แล้วว่าเราไม่เชื่อมั่นในกัมพูชา โดยสิ่งที่ทำมาทั้งหมด เป็นการสะท้อนว่าเราไม่เชื่อในความจริงใจและจริงจังที่จะจัดจัดการแก้ไขปัญหา ดังนั้น รายละเอียดต่างๆที่จะเกิดขึ้นก็ต้องแสดงตรงนี้ให้เราเห็นซึ่งก็ต้องดูว่าเป็นอย่างไร

ความจริงเขาได้เสนอความเห็นกับทางมาเลเซีย จีน และสหรัฐอเมริกา เป็นการริเริ่มจาก เขา แต่สิ่งที่เรายังคาดแคลงใจก็คือยังมีการบุกเข้ามาดำเนินการทุกอย่างที่เป็นปัญหา ในขณะเดียวกันก็จะขอยุติ ให้เกิดการหยุดยิง จึงได้บอกกับทุกคนไปว่า ทั้งหมดที่เสนอเป็นเรื่องที่เรารับอยู่แล้ว ตั้งแต่ต้นและพยายามเดินแนวนี้อยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือเขาไม่เคยรับสนองเรื่องนี้เลย ดังนั้นการที่จะมารับสนองเรื่องนี้ ขอยืนยันว่าเราไม่ใช่คนที่มีปัญหาและโลกรู้ดีว่า สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นจากความพยายาม การตั้งใจทำของเขา และสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทำโดยไม่ได้อยู่กับร่องกับรอย ตามที่เรา ประณามไปอย่างรุนแรง

ซัดเขมรไม่อยู่กับร่องกับรอย

เมื่อถามว่ามีประเทศจีนจะเข้าร่วมด้วยนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ความจริงทางกัมพูชา ได้เสนอความเห็นกับทางมาเลเซีย จีนและสหรัฐอเมริกา เป็นการริเริ่มจากเขาที่จะเจรจา แต่สิ่งที่เรายังคลางแคลงใจ ก็คือมีการบุกเข้ามาดำเนินการทุกอย่างที่เป็นปัญหา ขณะเดียวกันก็จะขอยุติการหยุดยิง

“เรื่องที่เสนอมาเป็นสิ่งที่เรารับไว้อยู่แล้วตั้งแต่ต้นและพยายามเดินแนวนี้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเขาไม่เคยรับสนองเรื่องนี้เลย เราไม่ได้เป็นคนที่มีปัญหาโลกรู้ดีว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นจากความพยายามและความตั้งใจทำของเขาและสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทำโดย ไม่อยู่กับร่องกับรอยเหมือนอย่างที่เราประณามไปอย่างรุนแรง สิ่งที่เขาเริ่มต้นไม่ได้อยู่ในกติกากฎหมายระหว่างประเทศเลย การยิงเข้ามาในโรงพยาบาลเขาไม่ทำกันในโลกนี้” นายภูมิธรรมกล่าว

นายภูมิธรรม ยังกล่าวว่า สิ่งที่เราทำให้โลกเห็นคือเราอยู่ในกฎหมาย โลกรับรู้รัฐมนตรีต่างประเทศ ขณะที่อยู่ที่นิวยอร์กก็ได้พูดกับตัวแทนเลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งทั้งหมดมีความเข้าใจ จะเห็นว่าสิ่งที่พลเอกฮุน มาเนต เสนอเข้าไปในที่ประชุมระหว่างประเทศไม่ได้รับการสนใจประเด็นไม่ได้เข้าสู่การประชุม ทั่วโลกเขาเข้าใจ แต่จุดยืนของประชาคมโลก เห็นว่าอย่าให้การสู้รบที่กระทบพลเรือนยุติก่อน เราเชื่อว่าโลกเข้าใจเราและยืนอยู่ข้างเรา เพราะเรายืนอยู่ข้างความเป็นธรรม สิ่งที่เกิดขึ้นจากกัมพูชาคือการละเมิดข้อตกลงและกฎหมายระหว่างประเทศ

“แต่ทุกคนอยากเห็นความสงบสุข แล้วไม่อยากเห็นความรุนแรงที่กระทบกับชีวิตพลเมือง การยื่นมือเข้ามาช่วยไม่ว่าจะจีน สหรัฐอเมริกามาเลเซีย ทุกคนพูดประเด็นเดียวกันว่าไม่อยากเห็นสงคราม ไม่อยากเห็นการกระทำที่รุนแรงเกินไปกว่านี้ และเราอยากให้เห็นว่าพลเรือนไทยที่ถูกกระทำเป็นตัวอย่างเพื่อเรียกร้องให้เขาได้เห็นว่าเป็นสิ่งที่กัมพูชากระทำอย่างมิชอบ ไม่ถูกต้องเพราะฉะนั้นการเจรจาวันนี้ อยู่บนฐานที่จะทำให้พลเรือนทุกฝ่ายเกิดความปลอดภัย และไม่ให้รุกล้ำเข้ามาในดินแดนแต่ละฝ่าย ซึ่งเราไม่ได้รุกล้ำ สิ่งที่รุกล้ำคือเขา”นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่าต่างฝ่ายก็ต่างยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนเปิดก่อนเรามีหลักฐานทางเอกสารที่จะไปยืนยันได้ว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายเปิดยิงก่อนหรือไม่ เพราะหลายประเทศเองก็ออกมาการันตีว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายเปิด นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราได้เตรียมการไว้ทั้งหมด ซึ่งทั้งหมดที่พูดไปมันเป็นเพียงการคาดการณ์ยังไงก็ต้องรอให้เจรจา และต้องดูว่าข้อเสนอทั้งหมดว่าจะเป็นอย่างไร

ยึดมั่นอธิปไตยของไทย

โดยทีมเราขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนได้ว่า เราไปด้วยการพยายามยึดมั่นในประโยชน์ของประเทศ เอกราชของประเทศ อธิปไตยของประเทศ และประชาชนไทยเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งการไปครั้งนี้ได้มีการปรึกษากับกองทัพด้วย และได้รับข้อเสนอจากกองทัพด้วย และเราจะนำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไปร่วมเจรจา ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ตนคนเดียว และไม่ใช่เพียงแค่รัฐบาล แต่เป็นทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ที่เขากำลังอยู่ในภาวะกำลังสู้อยู่ในสงครามก็ประสานติดต่อกันตลอด และก็ได้รับเงื่อนไขด้วยว่ากองทัพมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง ส่วนต่าง ๆ มีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง และรับเงื่อนไขเหล่านั้นไปเจรจาทั้งหมด ซึ่งก็ต้องรอผลการเจรจา

นอกจากนี้ กรณีที่ประชาชนชาวกัมพูชาในต่างประเทศที่มีการประท้วงเดินขบวนนั้นจะมีผลต่อความน่าเชื่อถือของไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเองคิดว่าคงได้แค่นี้ ขอรอผลจากการเจรจาก่อน เพราะสิ่งที่กำลังพูดขณะนี้เป็นการคาดการณ์ และเรายังไม่รู้ว่าที่ไปเจอจริงๆ จะเป็นอย่างไร และการพูดไปทั้งหมดนั้นก็อาจจะไม่ใช่ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น

“ฮุน มาเนต”หวังหยุดยิงทันที

เวลา 10.30น. ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แล้ว เพื่อเจรจาหารือยุติเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ก่อนหน้านี้ ฮุน มาเนต าโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...28 ก.ค.2025 นำคณะตัวแทนกัมพูชาไปประชุมพิเศษที่กัวลาลัมเปอร์ โดยมาเลเซีย สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพเป็นผู้จัด และตัวแทนชาวจีนเข้าร่วม วัตถุประสงค์ของการประชุมคือการบรรลุการหยุดยิงทันที ซึ่งนายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศกัมพูชา และประเทศไทย เห็นด้วยในการปฏิบัติตามแนวคิดเบื้องต้นของประธานาธิบดี H.E. Donald Trump

ตนขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ที่ให้ความร่วมมือในการประสานงานการประชุมครั้งนี้

ตนจะนำตัวแทนกัมพูชาเข้าร่วมการประชุมพิเศษในกัวลาลัมเปอร์โดยมาเลเซียซึ่งจัดโดยสหรัฐอเมริกา และมีการมีส่วนร่วมของจีน วัตถุประสงค์ของการประชุมครั้งนี้คือเพื่อให้บรรลุการหยุดยิงในทันทีซึ่งได้รับการริเริ่มโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์และเห็นด้วยกับทั้งสองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาและ ประเทศไทย ตนอยากจะขอบคุณนายกรัฐมนตรี Anwar Ibrahim สำหรับความคิดริเริ่มและการประสานงานในการจัดการและเป็นเจ้าภาพการประชุมพิเศษนี้

สหรัฐเชื่อสันติภาพเกิดแน่น

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Rubio says US officials are in Malaysia to help in Cambodia-Thailand talks ระบุว่า ในขณะที่ตัวแทนรัฐบาลไทยและกัมพูชา เดินทางไปมาเลเซียเพื่อร่วมเจรจาหยุดยิง มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาบอกว่า มีเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่อยู่ในมาเลเซีย พร้อมช่วยเหลือให้เกิดสันติภาพขึ้น

อย่างไรก็ตามกองกำลังชายแดนของทั้งสองฝ่ายได้รับการเสริมกำลังท่ามกลางวิกฤติทางการทูตที่ลุกลามอย่างหนัก ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลผสมที่เปราะบางของไทยสุ่มเสี่ยงแตกสลาย

กระนั้นก็ตามเชื่อว่า ทั้งไทยและกัมพูชาต้องการยุติความขัดแย้ง หลังจากที่ตนได้กล่าวกับผู้นำของทั้ง 2 ประเทศว่า สหรัฐฯ จะไม่ทำข้อตกลงการค้า เว้นแต่ว่าทั้งไทยและกัมพูชาจะหยุดสู้รบ

จีนย้ำเพื่อนบ้านกันทั้งนั้น

สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานข่าว continue playing constructive role in promoting ceasefire between Cambodia, Thailand: spokesperson ระบุว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2568 ว่า จีนจะรักษาจุดยืนที่ยุติธรรมและเป็นกลาง และจะยังคงติดต่อสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับกัมพูชาและไทย อำนวยความสะดวกในการเจรจาสันติภาพอย่างแข็งขัน และมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์เพื่อการหยุดยิง

หลังจากความพยายามระหว่างประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกในการเจรจา กัมพูชาและไทยได้แสดงความเต็มใจที่จะยุติการสู้รบ แม้ว่าการปะทะกันยังคงดำเนินต่อไปตามแนวชายแดนระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งเมื่อถูกถามถึงจุดยืนของจีนเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า กัมพูชาและไทยเป็นและจะเป็นเพื่อนบ้านของกันและกันตลอดไป และทั้ง 2 ประเทศก็เป็นทั้งมิตรและเพื่อนบ้านของจีน

“การรักษาความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมถึงการจัดการความแตกต่างอย่างเหมาะสม จะเป็นประโยชน์ต่อผลประโยชน์พื้นฐานและผลประโยชน์ระยะยาวของทั้งสองประเทศ รวมถึงสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค ทั้งนี้ จีนรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นกับทั้ง 2 ฝ่าย” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าว

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ยังกล่าวด้วยว่า จีนหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ หวงแหนสันติภาพและความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ใช้ความสงบและความยับยั้งชั่งใจ บรรลุการหยุดยิงโดยเร็วที่สุด และยุติความขัดแย้งโดยสันติผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ เพื่อฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดนโดยเร็ว ซึ่งทั้งกัมพูชาและไทยเป็นสมาชิกสำคัญของกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และอาเซียนได้ทำงานอย่างเข้มข้นมาหลายวันเพื่อให้เกิดการหยุดยิงระหว่างทั้งสองฝ่าย จีนชื่นชมความพยายามนี้และยินดีกับความพยายามทุกประการที่จะนำไปสู่การลดระดับความตึงเครียด

‘บิ๊กป้อม’ เชื่อมั่นทหารไทยเข้มแข็ง

ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในฐานะอดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและอดีตผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า เป็นเรื่องที่ 2 ประเทศต้องเจรจากันเพื่อให้สงบศึกโดยเร็ว กองทัพทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว เขาเอาชีวิตแลกกับอธิปไตย รักษาประเทศชาติ ทหารถูกฝึกมาเป็นอย่างดี ซึ่งที่เป็นห่วงคือประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต้องมาเสียชีวิต ได้ให้กำลังใจและส่งของไปให้ประชาชนแล้ว จะทำอย่างไรได้ เพราะเหตุเกิดจากคนสองคน สองตระกูลจะต้องรับผิดชอบต่อการสูญเสียครั้งนี้

เมื่อถามว่า รัฐบาลต้องเข้มข้นกว่านี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า รัฐบาลอ่อนแอ ถ้ารัฐบาลไม่อ่อนแอ ประเทศชาติไม่เป็นอย่างนี้ ไม่เสียหายมากขนาดนี้ รัฐบาลต้องเข้มแข็ง

“ผมอยู่มาไม่เห็นมีอะไรเลย ทหารไม่อ่อนแอ ต้องมีอาวุธที่พร้อม ถ้าเราไม่พร้อมก็ลำบาก”พล.อ.ประวิตรกล่าว

"หมอวรงค์" ไม่ไว้ใจ “ภูมิธรรม”

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก ระบุว่า... #ไม่ไว้ใจนายภูมิธรรม ผมแปลกใจมาก ที่นายภูมิธรรมจะบินไปเจรจากับฮุนมาเน็ตที่มาเลเซีย ด้วยตนเอง โดยเฉพาะเพื่อให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง แม้จะมีผู้แทนจีนและอเมริการ่วมด้วย

ผมพยายามอ่านการสู้รบ ในหลายประเทศ แม้แต่ยูเครนกับรัสเซีย ถ้าจะต้องมีการเจรจา ผมยังไม่เห็นผู้นำบินไปเจรจาเอง ส่วนใหญ่มักส่งผู้แทนที่มีอำนาจไปเจรจา สอบถาม chat gpt ก็ให้ข้อมูลว่า โดยทั่วไปแล้ว การเจรจาหยุดยิง (ceasefire negotiation) ผู้นำประเทศมักไม่ไปเอง แต่จะมอบหมายให้ผู้แทนที่มีอำนาจเต็ม (Full Powers) เป็นผู้เจรจาแทน

ยิ่งภาพลักษณ์นายภูมิธรรม ไม่ใช่บุคคลที่จะมาปกป้องผลประโยชน์ชาติ แต่เป็นทาสรับใช้ ทำให้ผมยิ่งไม่ไว้วางใจนายภูมิธรรม เกรงว่าเมื่อเราต้องรบแล้ว หยุดยิงแล้วสถานการณ์กลับไปเหมือนเดิม

สิ่งที่ต้องถามนายภูมิธรรม ทำไมไม่ส่งผู้แทนไปเจรจา จนได้เงื่อนที่ฝ่ายไทยเราพอใจ นายภูมิธรรมค่อยเป็นลงนามทีหลัง การที่ตัวผู้นำเป็นผู้เจรจาเองตั้งแต่แรก มันดูแล้วเหมือนเล่นปาหี่ ขอเตือนนายภูมิธรรม ในเมื่อรบแล้ว ประเทศสูญเสียทรัพย์สิน ชีวิตทหาร พลเรือน ตลอดจนที่อยู่อาศัย ถ้าหยุดยิงแล้ว ทุกอย่างกลับไปเหมือนเดิม จะถือว่านายภูมิธรรมคือพวกขายชาติอีกคน

เจรจาเป็นเรื่องของรัฐบาล

พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับ กอ.รมน. กรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังออกรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง

เมื่อถามว่าในการประชุมระหว่าง ผู้นำกัมพูชา และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีของไทย ถ้ามีการหยุดยิงในทางปฏิบัติจะสามารถหยุดได้ทันที หรือต้องมีอะไรหรือไม่ พลตรี วันชนะ กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถคาดเดาผลการเจรจาได้ มันเกินกว่าการตัดสินใจ หรือการปฎิบัติเป็นของกองทัพ แต่เป็นเรื่องของผู้นำประเทศ หรือ รัฐต่อรัฐ ในการเจรจา ส่วนการให้หยุดยิงหรือให้ระงับกำลังต่างๆ ตนคิดว่าเราก็พร้อมจะปฎิบัติทุกอย่างตามที่ฝ่ายรัฐบาลสั่งการ

“ถ้าผลของการเจรจาออกมาอย่างไรก็พร้อมปฎิบัติตามนั้น แต่ตอนนี้กองทัพขอสงวนสิทธิ์ในการป้องกันตัวเอง หมายความว่าถ้าจริงใจต่อกัน หยุดยิง 2 ฝ่าย ก็จบไป แต่ถ้าปากบอกว่าหยุดยิง แต่การปฎิบัติจริงยังคงยิงอยู่ นั่นก็หมายความว่าเราก็ไม่โกงเหมือนกัน ยิงมายิงกลับ ขอสงวนสิทธิ์ในการปกป้องตัวเอง”

ภูมิธรรม-ฮุนมาเน็ตแถลงข่าว

การประชุมพิเศษระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาเริ่มขึ้นที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย เมื่อช่วงบ่ายเพื่อแสวงหาข้อตกลงหยุดยิงและยุติการปะทะในพื้นที่ชายแดนที่มีข้อพิพาท การประชุมนี้จัดขึ้นโดยมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม

หลังแล้วเสร็จการประชุม นายภูมิธรรม เวชชชัย รักษาการนายกฯและนายฮุน มาเน็ต นายกฯกัมพูชา พร้อมนายกฯมาเลเซียน ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม ร่วมแถลงข่าว

โดยอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซียได้เริ่มกล่าวแถลงผลการหารือระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเริ่มต้นจากการแสดง “ความซาบซึ้งและความกตัญญูอย่างสุดซึ้ง” ต่อผู้นำไทยและกัมพูชา

หยุดยิงทันทีไม่มีเงื่อนไข

อันวาร์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ได้ “แสดงจุดยืนและความเต็มใจที่จะหยุดยิงโดยทันที”

อันวาร์กล่าวว่า ไทยและกัมพูชาจะมี “การหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข” โดยจะมีผลตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น เขากล่าวว่า “นี่เป็นก้าวแรกที่สำคัญยิ่งสู่การลดความตึงเครียดและการฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง”

ด้านนายกรัฐมนตรีฮุน มาเน ของกัมพูชา กล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยเรียกการเจรจาครั้งนี้ว่าเป็น “การประชุมที่ดีมาก” และกล่าวว่าเขาหวังว่าจะยุติการสู้รบ “โดยทันที” เขาตั้งข้อสังเกตว่า มีผู้พลัดถิ่นจากทั้งสองฝ่ายของความขัดแย้งแล้ว 300,000 คน ผู้นำกัมพูชายังขอบคุณนายอันวาร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และรัฐบาลจีนที่มีส่วนร่วมในการไกล่เกลี่ย เขายังขอบคุณนายภูมิธรรม สำหรับการมีส่วนร่วมอย่าง “สร้างสรรค์” ในการเจรจา

เจรจาผู้นำทหาร/เจบีซี

นายอันวาร์กล่าวว่า เช้าวันรุ่งขึ้น 29 กรกฎาคม หลังจากการหยุดยิงมีผลบังคับใช้ ผู้บัญชาการทหารของทั้งสองฝ่ายจะจัด “การประชุมอย่างไม่เป็นทางการ” ในเวลา 07.00 น. ของวันอังคาร 29 ก.ค. หลังจากนั้นจะมีการประชุมผู้ช่วยทูตฝ่ายกลาโหม นำโดยประธานอาเซียนในวันที่ 4 สิงหาคม

ฮุน มาเนต กล่าวว่าเขามั่นใจว่าผลลัพธ์จากการเจรจาจะ “เปิดโอกาสมากมายให้ประชาชนหลายแสนคนทั้งสองฝ่ายได้กลับคืนสู่ภาวะปกติ” เขาเสริมว่าถึงเวลาแล้วที่จะ “เริ่มสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นระหว่างกัมพูชาและไทยให้กลับมาเข้มแข็งขึ้น”

รักษาการนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม เวชยชัย ได้กล่าวสั้นๆ ต่อนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เขากล่าวว่าการหยุดยิงนี้ประเทศของเขาได้เจรจา “ด้วยความสุจริตใจ” และประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะสร้างสันติภาพ