26 สิงหาคม 2568 พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว TEA Seiha ระบุข้อความว่า หลังมีกระแสชาวกัมพูชาบอกว่า ข้อมูลสับสน และถูกวิจารณ์ว่ากระทรวงกลาโหมกำลังปิดบังข้อมูล โฆษกกระทรวงกลาโหมได้กำหนดเวลาแถลงข่าววันละ 2 ครั้ง (7.00 น. และ 16.00 น.) เพื่อสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน การประชุม การปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง และข้อมูลทางทหารอื่นๆ

มีคนกลุ่มหนึ่งได้นำการแถลงข่าวของกระทรวงกลาโหมจากมุมมองเดียวมาบิดเบือนเนื้อหาโดยรวม โดยระบุว่า กระทรวงกลาโหมออกอากาศว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนสงบ แต่ประชาชนกลับโพสต์ว่ากำลังปะทะกับทหารไทย เรื่องราวเกี่ยวกับรั้วลวดหนามรุกล้ำดินแดนของประชาชน ทำให้ประชาชนไม่รู้จะเชื่อฝ่ายไหน

โปรดเข้าใจว่า กระทรวงกลาโหมแถลงถึงสถานการณ์ในช่วงเวลา 00.00 น. ถึง 6.00 น. ของแต่ละวัน ซึ่งสถานการณ์สงบ ปรากฏว่า การปะทะระหว่างประชาชนกับทหารไทยเกี่ยวกับเหตุการณ์ลวดหนามเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.20 น. ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จังหวัดบันทายมีชัยและกองกำลังเจ้าหน้าที่ก็พร้อมแก้ไขปัญหา ในวันเดียวกันนั้น เพจกระทรวงกลาโหมก็เผยแพร่รายงานอีก 2 ฉบับทันที

ดังนั้น กระทรวงกลาโหมปกปิดข้อมูลไว้ตรงไหนหรือ?

ถ่ายภาพและวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราจะเห็นแต่ภาพคน แต่ถ้าเราถ่ายภาพอีกมุมมองหนึ่ง เราจะเห็นผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่จังหวัด รวมถึงกองกำลังที่ปกป้องชายแดน ดินแดน และประชาชนที่กำลังประท้วงบนผืนแผ่นดินของตน

ข้าพเจ้าขอแจ้งให้พี่น้องร่วมชาติทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. กองกำลังของเราได้ปกป้องประเทศชาติด้วยความอดทนอย่างที่สุด เพื่อดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง และหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางอาวุธที่จะนำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สิน ญาติพี่น้อง ประชาชน และกองกำลังของเรา

ท่านสังเกตเห็นหรือไม่? กองกำลังของเราไม่ได้มีอาวุธในจุดเกิดเหตุ แต่เรามุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างมีประสิทธิภาพ โปรดเข้าใจความรู้สึกของกองกำลังของเรา ณ ที่เกิดเหตุ และอดทนร่วมกันเพื่อประโยชน์ของชาติโดยรวม

เรายังคงมีการประชุมพิเศษของคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค (RBC) ระหว่างกองทัพภาคที่ 4 ของเราและกองทัพภาคที่ 2 ของประเทศไทย ในวันที่ 27 ส.ค. และการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันที่ 9-10 ก.ย.

ปล. โปรดทราบว่า การปกป้องประเทศชาติและการปกป้องชายแดนไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย และข้อมูลไม่สามารถบิดเบือนได้ ไม่มีผู้นำคนใดใช้ประชาชนของตนเองเป็นโล่กำบัง หรือเบี้ยตัวหนึ่งเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง เหมือนผู้นำทรยศบางคนที่ใช้ชีวิและนอนหลับอย่างสุขสบายในต่างแดน ประชาชนกัมพูชามีความเป็นมืออาชีพ อย่านำประเทศเข้าสู่สงครามเหมือนในอดีต