​เนปาลเลือกอดีตปธ.ศาลฎีกา นั่งรักษาการนายกรัฐมนตรี

​เนปาลเลือกอดีตปธ.ศาลฎีกา นั่งรักษาการนายกรัฐมนตรี

วันเสาร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

เนปาลเลือกอดีตปธ.ศาลฎีกา

นั่งรักษาการนายกรัฐมนตรี

แหล่งข่าวในกลุ่มผู้ประท้วง “เจน ซี” (Gen Z) ในเนปาลเปิดเผยว่า จะมีการแต่งตั้งนางสุชีลา คาร์กี อดีตประธานศาลฎีกา วัย 73 ปี ให้ดำรงตำแหน่ง “รักษาการนายกรัฐมนตรี” อย่างเป็นทางการ ขณะที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องให้มีการยุบสภาด้วย ทหารสลายการชุมนุมกลุ่มเล็ก ไม่มีความรุนแรงพร้อมยืดเคอร์ฟิวในเมืองหลวง ยอดตายจากการประท้วงเพิ่มเป็น 51ราย

กาฐมาณฑุ (เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอ็นดีทีวี) - แหล่งข่าวในกลุ่มผู้ประท้วง Gen Z เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า นางสุชีลา คาร์กี อดีตประธานศาลฏีกาวัย 73 ปี จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการในวันนี้ ตามข้อเสนอของกลุ่มผู้ประท้วง หลังจากมีการประชุมกันที่ทำเนียบประธานาธิบดีระหว่างประธานาธิบดีกับคาร์กีและผู้บัญชาการกองทัพ โดยมีตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าร่วมด้วย คาดว่าการแต่งตั้งน่าจะมีขึ้นในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น แม้สื่อบางสำนักระบุว่าผู้ประท้วงแต่ละกลุ่มยังมีความเห็นต่างเกี่ยวกับตัวผู้ที่จะเข้ามารับหน้าที่นี้


นอกจากนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมยังเรียกร้องให้มีการยุบสภาด้วย โดยจะไม่ยุบรัฐธรรมนูญแต่ยอมรับว่าอาจจะต้องมีการแก้ไขในบางมาตรา แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่ พร้อมทั้งเอ่ยคำขอถึงทุกคน รวมถึงพรรคการเมืองต่าง ๆ ว่า โปรดอย่าส่งผู้นำคนเดิม ๆ เข้ามา พร้อมยืนยันว่า กลุ่มผู้ประท้วงไม่ได้ต้องการตำแหน่งหรืออำนาจใดๆ ในรัฐบาล เพียงแต่ต้องการให้เกิดการปฏิรูปที่แท้จริง

ด้านประธานาธิบดี รามจันทรา เพาเดล ออกแถลงการณ์ระบุว่ากำลังพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่ยากลำบากภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญเพื่อปกป้องประชาธิปไตย รักษาสันติภาพและความสงบเรียบร้อย โดยขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่าจะต้องมีทางออกในการแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด

ขณะเดียวกัน กองทัพเนปาลประกาศขยายเคอร์ฟิวห้ามออกนอกเคหะสถานยามวิกาลในกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของเนปาลและปริมณฑล ออกไปอีกอย่างน้อย 1 วันในวันศุกร์ แม้ว่าสถานการณ์กำลังกลับคืนสู่ความเป็นปกติ ทหารเนปาลติดอาวุธครบมือสลายผู้ประท้วงกลุ่มเล็กในกรุงกาฐมาณฑุเมื่อวันพฤหัสบดี (11 ก.ย.) โดยไม่เกิดความรุนแรงใด ๆ ผู้ประท้วงซึ่งมีเพียงกลุ่มเล็ก ๆ ยอมสลายตัวแต่โดยดี

ส่วนกรณีนักโทษที่หลบหนีจากเรือนจำทั่วประเทศมากกว่า13,500คน กองกำลังความมั่นคงเนปาลและเจ้าหน้าที่ชายแดนอินเดียระบุว่าตอนนี้จับตัวกลับมาได้แล้วประมาณ250คนเท่านั้น

สถานการณ์ในกรุงกาฐมาณฑุวานนี้เริ่มกลับสู่ภาวะปกติแล้ว โรงเรียนและร้านค้าเริ่มกลับมาเปิดทำการ ทหารยังคงลาดตระเวนตามที่ต่างๆ แต่มีจำนวนลดน้อยลงกว่าวันก่อน ขณะที่ถนนบางสายยังถูกปิด

ด้านโฆษกสนามบินเปิดเผยว่า เที่ยวบินระหว่างประเทศกลับมาให้บริการได้แล้ว นักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่ต้องติดอยู่ภายในท่าอากาศยานนานาชาติตรีภูวันในกรุงกาฐมาณฑุ สามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้วตั้งแต่วันพฤหัสบดี นักท่องเที่ยวอินเดียหลายคนเล่าว่า ยานพาหนะของพวกเขาถูกม็อบวางเพลิงเผา และอินเตอร์เน็ตในกรุงกาฐมาณฑุก็ขัดข้อง ไม่สามารถติดต่อสื่อสารได้

ส่วนกระทรวงสาธารณสุขเนปาลยืนยันยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วง 2 วันเมื่อวันจันทร์และอังคารที่ผ่านมา (8-9 ก.ย.) เพิ่มเป็น 51 ราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 1,300 คน ส่วนใหญ่เกิดจากการยิงกระสุนยางและใช้แก๊สน้ำตาของตำรวจ แต่สื่ออินเดียรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวอินเดีย เสียชีวิตเพราะกระโดดจากอาคารโรงแรมแห่งหนึ่งที่ถูกผู้ประท้วงวางเพลิงเผา

การประท้วงนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นการเคลื่อนไหวของคนเจนซี (Gen Z) เนื่องจากผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นเยาวชนในช่วงวัยรุ่นถึงอายุ 20 ปีต้น ๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลที่ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาทุจริตและส่งเสริมโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับคนรุ่นใหม่อย่างพวกเขา

ชาว Gen Z บางส่วนในกรุงกาฐมาณฑุ ต่างมีความหวังว่าประเทศของตนจะมีอนาคตที่สดใสขึ้น หลังการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ดำเนินมาหลายวัน พวกเขาหวังว่าจะมีผู้นำที่จะสามารถนำพาเนปาลไปในทิศทางที่ถูกต้อง หลายคนบอกว่าเสียใจที่มีการเผาทำลายอาคารที่ทำการรัฐบาลและบุกทำลายทรัพย์สินเสียหายระหว่างการประท้วง แต่ก็เชื่อว่าทั้งหมดจะส่งผลให้เกิดเรื่องที่ดีตามมา

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top