วันจันทร์ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2568
วันที่ 27 ตุลาคม 2568 เว็บไซต์ วารสารการเงินธนาคาร: Money & Banking Magazine รายงานว่า จากข้อมูลของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) 10 ประเทศผู้ผลิตแร่หายากมากที่สุดในโลกประจำปี พ.ศ. 2567 ได้แก่
1. จีน
จีนยังคงเป็นผู้นำของโลกในอุตสาหกรรมแร่หายาก โดยเฉพาะแร่ชนิดเบา เช่น นีโอไดเมียมและเพรซีโอดิเมียม ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแม่เหล็กถาวร ปีที่แล้ว จีนมีผลผลิตสูงถึง 270,000 เมตริกตัน โดยบริษัทที่เป็นผู้เล่นหลักคือบริษัท China Northern Rare Earth High-Tech ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการเหมืองขนาดใหญ่ Bayan Obo ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน
2. สหรัฐอเมริกา
แร่หายากในสหรัฐอเมริกามาจากเหมืองเพียงแห่งเดียวคือ Mountain Pass ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท MP Materials โดยผลิตนีโอไดเมียมและเพรซีโอดิเมียมออกไซด์ (NdPr) สำหรับแม่เหล็กถาวรชนิด NdFeB โดยปีที่แล้ว มีผลผลิต 45,000 เมตริกตัน
3. เมียนมา
ปีที่แล้ว เมียนมามีผลผลิต 31,000 เมตริกตัน ลดลงกว่า 27% จากปีก่อนหน้า แต่ยังคงสูงกว่าปี พ.ศ. 2565 ถึง 158% เหมืองส่วนใหญ่ดำเนินการโดยกลุ่มชาติพันธุ์และกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ ซึ่งขาดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม การสกัดแร่ของพวกเขาส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อแม่น้ำและระบบนิเวศในพื้นที่ โดยจีนพึ่งพาเมียนมาสำหรับแร่หายากมากถึง 70% โดยเฉพาะแร่หายากชนิดหนักอย่างดิสโพรเซียมและเทอร์เบียม
4. ออสเตรเลีย
ออสเตรเลียเป็นผู้ผลิตแร่หายากรายใหญ่นอกประเทศจีน โดยมีเหมือง Mount Weld ของบริษัท Lynas Rare Earths เป็นผู้นำหลัก โดยปีที่แล้ว สามารถผลิตได้ 13,000 เมตริกตัน และภายในปีนี้ตั้งเป้าการผลิต 12,000 ตัน ขณะเดียวกัน รัฐบาลออสเตรเลียก็กำลังลงทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์เพื่อเร่งรัดการพัฒนาโครงการเหมืองแร่และโรงถลุงแห่งใหม่
5. ไนจีเรีย
เมื่อปีที่แล้ว ไนจิเรียมีผลผลิตแร่หายาก 13,000 เมตริกตัน ประเทศนี้ถือเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดแร่หายากโลก ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 80% จากปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลฝรั่งเศสเพื่อร่วมกันพัฒนาเหมืองแร่และอุตสาหกรรมแร่หายาก
6. ไทย
ข้อมูลจาก USGS ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว ไทยน่าจะมีผลผลิตเกือบ 13,000 เมตริกตัน เพิ่มขึ้น 261% จากปี พ.ศ. 2566 และสูงกว่าระดับในปี พ.ศ. 2561 ถึง 13 เท่า แม้ข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมแร่หายากของไทยจะมีไม่มากนัก แต่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าแร่หายากรายใหญ่ของจีน โรงงานสำคัญคือ Neo Magnequench ในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Neo Performance Materials (แคนาดา) ที่ผลิตวัสดุแม่เหล็กแร่หายากสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
7. อินเดีย
อินเดียมีผลผลิต 2,900 เมตริกตัน เท่ากับปีก่อนหน้า แม้จะมีศักยภาพสูงจากแหล่งแร่ชายฝั่ง อินเดียได้เข้าร่วม “หุ้นส่วนความมั่นคงด้านแร่ธาตุ (MSP)” ที่เสนอโดยสหรัฐฯ เพื่อพัฒนาห่วงโซ่อุปทานแร่หายาก
8. รัสเซีย
รัสเซียมีผลผลิตคงที่มาหลายปีที่ 2,600 เมตริกตัน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลตั้งเป้าที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการผลิตทั่วโลกจาก 1.3% เป็น 10% ภายในปี พ.ศ. 2573 ผ่านโครงการเหมือง Tomtor ที่กำลังพัฒนา แต่โครงการดังกล่าวมีความล่าช้าและเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์โดยตรงจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
9. มาดากัสการ์
มาดากัสการ์มีผลผลิต 2,000 เมตริกตัน ซึ่งกำลังลดลงอย่างต่อเนื่องจากการต่อต้านของชุมชนในพื้นที่เหมือง โดยเฉพาะในคาบสมุทร Ampasindava ซึ่งเป็นแหล่งแร่หายากที่สำคัญของโลก
10. เวียดนาม
เวียดนามมีผลผลิต คาดว่าอยู่ที่ 300 เมตริกตัน ลดลง 75% จากปี พ.ศ. 2565 แม้จะมีปริมาณสำรองมากเป็นอันดับ 6 ของโลก แต่เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตในเหมืองแร่เมื่อปี พ.ศ. 2566 ทำให้แผนการพัฒนาแร่หายากต้องหยุดชะงักลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี