วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
1 พฤศจิกายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากที่ตำรวจสิงคโปร์ยึดทรัพย์สินกว่า 150 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ที่เชื่อมโยงกับ ปรินซ์โฮลดิง กรุ๊ป (ปรินซ์กรุ๊ป) เครือข่ายบริษัทข้ามชาติที่ถูกกล่าวหาว่าดำเนินธุรกิจสแกมเมอร์ที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชา ทรัพย์สินประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ 6 รายการ บัญชีธนาคาร บัญชีหลักทรัพย์ รวมถึงเงินสดที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายและ 'เฉิน จื้อ' ชายชาวจีนที่ถือสัญชาติอังกฤษและกัมพูชาผู้ก่อตั้งปรินซ์กรุ๊ป
ตำรวจสิงคโปร์ ระบุว่า การสืบสวนกรณีที่พัวพันกับ 'เฉิน จื้อ' และผู้ร่วมเครือข่ายเริ่มตั้งแต่ปี 2567 หลังได้รับข่าวกรองจากสำนักงานรายงานธุรกรรมน่าสงสัย โดยออกหมายจับชาวมาเลเซีย 7 คนและชาวสิงคโปร์ 27 คนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรที่ถูกกล่าวหาว่าหลอกลวงเหยื่อหลายร้อยคนและทำให้สูญเสียเงินมากกว่า 41 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 1,328 ล้านบาท
ด้านธนาคารกลางสิงคโปร์ แถลงการณ์ว่า ทำงานร่วมกับตำรวจเพื่อติดตามคดีที่เกี่ยวข้องกับปรินซ์กรุ๊ปซึ่งสถาบันการเงินต่างๆ ได้ยื่นรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัยตั้งแต่เนิ่นๆ และบัญชีที่น่าสงสัยจำนวนหนึ่งถูกปิดไปแล้ว สิ่งนี้ช่วยป้องกันไม่ให้มีเงินจำนวนมากถูกเก็บไว้ในภาคการเงินของเรา
ขณะเดียวกันตำรวจมาเลเซียได้เริ่มปฏิบัติการล่าตัวพลเมืองทั้ง 7 คนที่ถูกขึ้นบัญชีดำ โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามขยายขอบเขตระดับภูมิภาคเพื่อทลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดนที่ทางการสิงคโปร์ระบุตัวได้และมีการประกาศแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทั่วประเทศให้ติดตามจับกุมตัวบุคคลเหล่านี้ทั่วประเทศ รวมถึงในสิงคโปร์ด้วย
ผู้อำนวยการกรมสอบสวนคดีอาญา สำนักงานตำรวจมาเลเซีย กล่าวว่า ตำรวจเริ่มดำเนินการติดตามและจับกุมผู้ต้องสงสัยชาวมาเลเซียทั้งเจ็ดคนถูกขึ้นบัญชีดำเพื่อจับกุมและสอบสวน
เรียบเรียงจาก : straitstimes
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี