4 พฤศจิกายน 2568 สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงประเด็นการเปิดด่านชายแดนกัมพูชา–ไทย หลังมีผู้นำฝ่ายไทยพูดถึงเรื่องนี้หลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา โดยระบุว่า ประเด็นดังกล่าวอาจถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองภายในประเทศไทย

ฮุน เซน ระบุว่า ตั้งแต่ไทยปิดพรมแดนฝ่ายเดียว กัมพูชาไม่เคยร้องขอให้เปิดด่านอีกเลย พร้อมกล่าวอย่างชัดเจนว่า

“หากไทยต้องการปิดพรมแดนต่อไปอีก 100 ปี หรือ 500 ปี นั่นเป็นสิทธิ์ของไทย”

เขาย้ำว่า การปิดพรมแดนดังกล่าวไม่ได้ส่งผลลบต่อกัมพูชา แต่กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้เศรษฐกิจภายในประเทศเติบโต เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมและการผลิตทดแทนสินค้าจากไทย

การพูดซ้ำๆ ของผู้นำไทยเกี่ยวกับการเปิดด่านชายแดน อาจสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนทั้งสองประเทศ และทำให้บางคนเข้าใจผิดว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายร้องขอให้เปิดพรมแดน

พร้อมกันนี้ ฮุน เซน ยังได้กล่าวขอบคุณผู้นำทั้งไทย มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา ที่มีบทบาทสนับสนุนในความพยายามสร้างสันติภาพร่วมกัน โดยเฉพาะการถอนอาวุธหนักจากพื้นที่พิพาทภายใต้การตรวจสอบของทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT)

ท้ายสุด เขาย้ำต่อประชาชนกัมพูชาไม่ให้หลงเชื่อข้อมูลบิดเบือนว่า รัฐบาลของตนกำลังลดตัวลงเพื่อขอความร่วมมือจากไทยในการเปิดด่านอีกครั้ง พร้อมเตือนว่าการปิดพรมแดนอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลกระทบต่อโครงการระดับภูมิภาค เช่น ทางหลวงอาเซียนและทางรถไฟอาเซียน