5 พฤศจิกายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เซอร์ เดวิด เบ็คแฮม อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ วัย 50 ปี ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์อัศวิน (Knighthood) จากพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ณ พระราชวังวินด์เซอร์ ในพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อยกย่องคุณูปการที่เขามีต่อวงการฟุตบอลและสังคมอังกฤษโดยรวม

เซอร์ เดวิด เบ็คแฮม กล่าวว่า ผมภูมิใจอย่างยิ่งทุกคนรู้ว่าผมรักชาติมากแค่ไหน ผมรับประเทศของผม ผมพูดมาตลอดว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ มีความสำคัญกับครอบครัวของผมเพียงใด ผมโชคดีมากที่ได้เดินทางไปทั่วโลก และ ทุกคนอยากพูดคุยกับผม เกี่ยวกับสถาบัน มันทำให้ผมภูมิใจ

ต่อมา  เซอร์ เดวิด เบ็คแฮม ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว "@davidbeckham" ระบุข้อความว่า ผมบรรยายไม่ถูกเลยว่าวันนี้เป็นวันพิเศษสำหรับผมขนาดไหน เด็กชายที่เกิดในลอนดอนตะวันออก ที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์อัศวินจากกษัตริย์ ผมรู้สึกเป็นเกียรติและซาบซึ้งอย่างสุดซึ้งสำหรับเกียรติยศนี้ ผมโชคดีที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศ และผมทำสิ่งนี้ด้วยความภาคภูมิใจเสมอมา... ผมรักราชวงศ์ของเรา และสิ่งที่ราชวงศ์มีความหมายต่อผู้คน ไม่ใช่แค่ในบริเตนใหญ่ แต่ทั่วโลก ผมไม่เคยฝันมาก่อนว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับผม... 

จาก ริดจ์เวย์ โรเวอร์ส ไปจนถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพรสตัน นอร์ธ เอนด์ เรอัล มาดริด แอลเอ แกแล็กซี เอซี มิลาน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และแน่นอน อังกฤษ ทุกสโมสรที่ผมเคยเล่นให้ ผู้จัดการทีม เพื่อนร่วมทีมที่ดีที่สุด และแฟนบอลผู้ภักดีที่ช่วยให้ผมมาถึงจุดนี้... ผมรู้สึกขอบคุณพวกเขาทุกคนจริงๆ

การได้ลงเล่นให้ทีมชาติจะเป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจที่สุดในอาชีพของผมเสมอ...การได้เป็นตัวแทนทีมชาติอังกฤษและกัปตันทีมชาติคือความฝันของผมตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ฟุตบอลมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ผม และยังทำให้ผมได้เดินทางตั้งแต่อายุยังน้อย การเดินทางทำให้ผมได้เห็นปัญหาที่เด็กๆ ทั่วโลกกำลังเผชิญ ผมโชคดีที่ได้ร่วมงานกับองค์กรที่ยอดเยี่ยมอย่าง UNICEF, Royal Foundation และ King’s Foundation ซึ่งสอนให้ผมรู้ว่าการสนับสนุนเด็กๆ เป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้พวกเขาบรรลุศักยภาพ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไป ผมยังภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับกองทัพของเราที่เสียสละเพื่อพวกเราทุกคน

สิ่งที่ผมอยากทำมาตลอดคือการทำให้ครอบครัวภูมิใจ พ่อแม่ปู่ย่าตายายของผมที่คอยอยู่เคียงข้างผมเสมอมา และปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องของการทำงานหนักและความเคารพ ภรรยาคนสวยของผมที่อยู่เคียงข้างผมมาตลอด 28 ปี คอยสนับสนุนผมอย่างสุดหัวใจ และเป็นไหล่ให้ผมร้องไห้ในยามยากลำบาก...ถ้าไม่มีเธอ ผมคงไม่ได้มีชีวิตแบบนี้ ถึงลูกๆ ที่น่ารักของผม ผมภูมิใจในตัวพวกเขามาก และผมรู้ว่าวันนี้เป็นวันที่น่าภาคภูมิใจและเป็นแรงบันดาลใจสำหรับพวกเขาเช่นกัน พวกเขาคือความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต และเป็นแรงบันดาลใจของผมในทุกๆ วัน ผมรักพวกคุณทุกคนมากๆ สุดท้ายนี้ คุณแม่ คุณพ่อ วิกตอเรีย และลูกๆ ของฉัน คุณเชื่อไหมว่า... ฉันรักพวกคุณทุกคนมาก และขอบคุณ ❤️ @theroyalfamily

เซอร์ เดวิด เบ็คแฮม  อดีตกองกลางแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และเรอัลมาดริดลงเล่นให้ทีมชาติ 115 นัด และเป็นกัปตันทีมสิงโตคำรามเป็นเวลา 6 ปี ระหว่างปี 2000 ถึง 2006 เขาลงเล่นฟุตบอลโลก 3 ครั้งให้กับทีมชาติอังกฤษ และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2 ครั้ง

เบ็คแฮม เริ่มต้นจากอคาเดมีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1992 และใช้เวลา 11 ปี เล่นให้กับทีมชุดใหญ่ ก่อนย้ายไป เรอัลมาดริดในปี 2003 ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ หลังจาก 4 ปี ในสเปน เขาย้ายไปร่วมทีม แอลเอ แกแล็กซี ในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ เคยถูกยืมตัวไปเล่นให้กับ เอซี มิลาน 2 ครั้งในช่วงที่เขาอยู่ที่ลอสแอนเจลิส ก่อนที่จะยุติอาชีพการค้าแข้งกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในปี 2013

อิทธิพลของเขา แผ่ขยายไปมากกว่าในสนามฟุตบอล เขามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ลอนดอนคว้าตั๋วไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 2012 

เขาทำงานร่วมกับองค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมยูนิเซฟตั้งแต่ปี 2005 เขาเป็นทูตของมูลนิธิคิงส์ในปี 2024 โดยสนับสนุนโครงการด้านการศึกษาของกษัตริย์ชาร์ลส์ และความพยายามในการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติให้เยาวชนมากขึ้น

เขาเป็นเจ้าของร่วมของซัลฟอร์ด ซิตี้ ทีมในลีกทู ร่วมกับ แกรี่ เนวิลล์ อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และยังเป็นเจ้าของร่วมของอินเตอร์ ไมอามี ทีมในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (MLS) อีกด้วย