ซูนดาปาร์คลุกเป็นไฟ KNUชี้กองทัพเผด็จการจงใจถล่มไม่เลือก คนไทย-พม่าบาดเจ็บทั้งสองฝั่ง

ซูนดาปาร์คลุกเป็นไฟ KNUชี้กองทัพเผด็จการจงใจถล่มไม่เลือก คนไทย-พม่าบาดเจ็บทั้งสองฝั่ง

วันเสาร์ ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 19.19 น.

6 ธันวาคม 2025 สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) ได้แถลงการณ์ เกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงที่รุนแรงอย่างยิ่งในบริเวณซูนดาปาร์ค (Shunda Park) และพื้นที่โดยรอบ ซึ่งระบุว่าจากข้อมูลสถานการณ์ความมั่นคงล่าสุดที่ได้รับในเช้าวันนี้ (6 ธันวาคม) พบว่า กระสุนปืนใหญ่ขนาด 60 มม. จำนวน 2 นัด ที่ถูกยิงมาจากกองกำลังภายใต้สังกัดกองพันที่ 2 ของกองทัพเผด็จการ ได้ตกลงสู่บริเวณภายใน Shunda Park(แหล่งสแกมที่ KNU ยึดจากกองกำลังกะเหรี่ยง DKBA) โดยตรง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 

KNU ระบุว่าสถานการณ์ความมั่นคงในบริเวณซูนดาปาร์ค ( Shunda Park) และพื้นที่รอบๆ หมู่บ้านมินละปาน ได้ทวีความรุนแรงจนอยู่ในระดับที่น่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับประชาชนทั้งสองฝั่งไทย–พม่า KNU ขอประกาศว่า ได้มอบอำนาจให้กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army–KNLA)  ดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อป้องกันและดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะประชาชนภายใน Shunda Park รวมถึงประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดนไทย–พม่า ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบรุนแรงจากการสู้รบที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น 


ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะโดยไม่จำเป็นกับผู้ที่ยังคงอยู่ในเขต Shunda Park และเพื่อมิให้ประชาชนต้องได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น การตัดสินใจดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบของผู้นำฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร โดยพิจารณาจากหลักมนุษยธรรมและความจำเป็นด้านความมั่นคงในพื้นที่เป็นสำคัญ สถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ Shunda Park และมินละปานที่กำลังเลวร้ายอย่างรวดเร็ว 

KNU ระบุว่า เวลา 09:25 น. วันเดียวกันนี้ กระสุนปืนใหญ่ขนาด 60 มม. จำนวน 2 นัด ที่ถูกยิงโดยกองกำลังภายใต้สังกัดกองพันที่ 22 ของกองทัพเผด็จการ ได้ตกลงในบริเวณภายใน Shunda Park ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงเจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ที่เป็นพลเรือนบางส่วนด้วย ผู้บังคับหน่วยภาคพื้นของ KNLA ระบุว่า นี่เป็นการโจมตีโดยเจตนาต่อพื้นที่ Shunda Park ของกองทัพเผด็จการ 

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม  เวลา 11:45 น. กองทัพพม่าได้ยิงปืนใหญ่ใส่พื้นที่มินละปานอย่างน้อย 7 นัด โดยกระสุน 3 นัดตกข้ามแม่น้ำเมยเข้ามาฝั่งไทยจนมีประชาชนไทยได้รับบาดเจ็บ ตามที่สื่อไทยรายงาน อีก 4 นัดตกบริเวณตลิ่งแม่น้ำเมยฝั่งเมียนมา และเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา บ้านเรือนของชาวบ้านฝั่งไทยจำนวน 9 หลังได้รับความเสียหาย จากเศษกระสุนปืนและสะเก็ดระเบิดที่ปลิวข้ามมาจากการสู้รบบริเวณใกล้มินลาปาน จากสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้น ทางการไทยจึงได้สั่งปิดโรงเรียนบางแห่ง และประกาศปิดด่านชายแดนไทย–เมียนมาที่แม่สอดเป็นเวลา 7 วัน ขณะที่ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านในมินลาปานฝั่งเมียนมาจำเป็นต้องอพยพออกจากบ้านไปยังค่ายผู้ลี้ภัย 

“ก่อนหน้านี้ ในวันที่ 21 พฤศจิกายน หลังจาก KNU ยึดพื้นที่ Shunda Park ได้ กองทัพเผด็จการได้โจมตีทางอากาศอย่างน้อย 3 ครั้ง และยิงปืนใหญ่ไม่เลือกเป้าหมาย เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน กระสุนปืนใหญ่ขนาด 120 มม. 1 นัดตกในพื้นที่ค่ายหลอกลวงออนไลน์ และอีก 3 นัดตกใกล้จุดพักชั่วคราวของผู้หลบหนีจาก Shunda Park บริเวณริมแม่น้ำเมย แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ สถานการณ์ภายใน Shunda Park ที่ควบคุมได้ยากขึ้นอย่างต่อเนื่อง”แถลงการณ์ของ KNU ระบุ 

KNU ระบุว่าผู้ที่ยังคงเหลืออยู่ภายใน Shunda Park ได้ก่อกวนโดยการเผาไฟตามจุดต่างๆ ตลอดทั้งวัน ทำให้พื้นที่ภายในค่ายอยู่ในสภาพวุ่นวาย เดิมทีบุคคลเหล่านี้ปฏิเสธแผนของ KNU ที่จะประสานส่งตัวกลับประเทศต้นทางผ่านหน่วยงานไทย และปฏิเสธที่จะออกจากพื้นที่ แต่ขณะนี้เริ่มเรียกร้องให้อนุญาตให้ออกไปด้วยตนเอง หรือให้ไปยังค่ายหลอกลวงอื่นๆ ตามที่พวกเขาประสงค์ โดยใช้วิธีการกดดันหลายรูปแบบ ซึ่งอาจเป็นเพราะสถานการณ์ความมั่นคงที่เลวร้ายลง และความหวาดกลัวต่อการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หลายคนได้หลบหนีออกจากค่ายในตอนกลางคืนโดยการปีนกำแพงออกไป การตอบสนองที่ล่าช้าของนานาชาติกรณีการจัดการผู้ต้องสงสัยคงค้างภายใน Shunda Park 

KNU ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานนานาชาติ เพื่อให้มีการส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและความมั่นคงมารับตัวผู้ต้องสงสัยที่ยังคงเหลืออยู่ภายในพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการในระดับนี้เกินขีดความสามารถของ KNU แล้ว หากไม่มีการตอบสนองร่วมมือจากนานาชาติอย่างทันท่วงที ข้อสงสัยและพยานหลักฐานต่างๆ อาจไม่สามารถนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้อีกในอนาคต ความคืบหน้าในการช่วยเหลือผู้หลบหนีจากค่ายหลอกลวง การยุติกิจกรรมหลอกลวงออนไลน์ และการรวบรวมพยานหลักฐาน แถลงการณ์ระบุ

KNU ระบุว่าเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม มีผู้ประสงค์ออกจาก Shunda Park เพิ่มอีก 25 คน ซึ่งถูกนำตัวอย่างปลอดภัยถึงริมแม่น้ำเมย ทำให้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา KNU สามารถอพยพผู้คนจากทั้งหมด 3,582 คน ได้ถึง 2,665 คน(เหลือ 917 คน) คิดเป็นเกือบ 75% โดยในจำนวนนี้ 2,460 คนได้รับการส่งตัวอย่างปลอดภัยเข้าประเทศไทยผ่านการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ชาวต่างชาติอีก 202 คนยังคงรออยู่ริมแม่น้ำเมย โดย KNU ได้จัดอาหารประจำวันให้ทุกคน KNU ยังได้รื้อถอนและเก็บอุปกรณ์ IT ทั้งหมดที่พบในพื้นที่ ทำให้กิจกรรมหลอกลวงออนไลน์ทั้งหมดภายใน Shunda Park หยุดลงโดยสมบูรณ์ พยานหลักฐานทั้งหมดได้รับการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่แล้ว เพื่อเตรียมสำหรับการตรวจสอบเพิ่มเติมในอนาคต 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top