24 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐฯ แจ้งต่อที่ประชุมยูเอ็นว่า จะใช้มาตรการลงโทษอย่างเต็มที่ต่อไป เพื่อไม่ให้ผู้นำเวเนซุเอลาสามารถสนับสนุนแก๊งค้ายาเสพติดและแก๊งอาชญากร ขณะที่รัสเซียเตือนว่า ประเทศลาตินอเมริกาอื่นๆ อาจจะเป็นเป้าหมายต่อไปของสหรัฐฯ

        คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) จัดการประชุมเมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.) ตามที่เวเนซุเอลาร้องขอหลังจากถูกสหรัฐยึดเรือน้ำมันและปิดกั้นน่านน้ำ

        นายไมค์ วอลซ์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรสหรัฐประจำสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า สหรัฐฯ จะใช้มาตรการลงโทษอย่างเต็มที่ต่อไป เพื่อไม่ให้นายนิโกลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลาสามารถสนับสนุนแก๊งค้ายาเสพติดและแก๊งอาชญากรที่เป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดต่อสหรัฐฯ และประเทศเพื่อนบ้าน

ขณะที่นายวาซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรรัสเซียประจำยูเอ็นกล่าวเตือนว่า การแทรกแซงเช่นนี้จะเป็นแม่แบบให้สหรัฐใช้กำลังกับประเทศลาตินอเมริกาในอนาคต เช่นเดียวกับ นายซุน เหล่ย รองผู้แทนถาวรจีนประจำยูเอ็นที่เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติปฏิบัติการโดยทันทีและไม่ยกระดับความตึงเครียด

       ด้านนายซามูเอล มอนกาดา เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรเวเนซุเอลาประจำยูเอ็นกล่าวว่า เวเนซุเอลาขอชี้แจงให้ที่ประชุมทราบอย่างชัดเจนอีกครั้งว่า ไม่มีสงครามหรือความขัดแย้งทางอาวุธในทะเลแคริบเบียน แต่รัฐบาลสหรัฐฯ กลับหาทางสร้างความชอบธรรมให้แก่การกระทำของตนเองด้วยการอ้างกติกาสงคราม

ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ยูเอ็นเอสซี เปิดการประชุมเรื่องสถานการณ์ในเวเนซุเอลา หลังจากเปิดการประชุมครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม ครั้งนั้นสหรัฐฯ อ้างว่ากระทำการด้วยความชอบธรรม เนื่องจากเป็นไปตามมาตรา 51 ของกฎบัตรยูเอ็นที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องแจ้งยูเอ็นเอสซีทันทีที่ได้ดำเนินการป้องกันตนเองจากการถูกโจมตีด้วยอาวุธ