วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
26 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มูลนิธิอนุรักษ์ช้างแอร์อวาตา (Airavata Elephant Foundation) ออกแถลงการณ์ประณามกองทัพไทย อ้างว่าปฏิบัติการทางทหารของไทยในพื้นที่ชายแดน ทำให้สัตว์ป่าหายากล้มตาย และสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อระบบนิเวศในจังหวัดพระวิหาร ทางตอนเหนือของประเทศ ทั้งๆที่ไม่มีหลักฐาน
เว็บไซต์พนมเปญโพสต์ รายงานอ้างคำกล่าวของ เนธ พักตรา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศกัมพูชา และประธานกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิแอร์อวาตา ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ว่าการโจมตีของกองทัพไทยซึ่งรวมถึงการทิ้งระเบิดทางอากาศ การยิงปืนใหญ่ และการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ขั้นสูง ไม่เพียงคร่าชีวิตมนุษย์ แต่ยังทำลายสัตว์ป่าและพื้นที่อนุรักษ์อย่างร้ายแรง
นายเนธ พักตรา ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิแอร์อวาตา หรือที่รู้จักในชื่อ สมาคมอนุรักษ์ช้าง (Elephant Conservation Association – ECA) กล่าวประณามการกระทำของทหารไทยว่าเป็นการโจมตีธรรมชาติอย่างจงใจ และเรียกร้องให้นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั่วโลกออกมาแสดงจุดยืนและร่วมกันประณามการทำลายสัตว์ป่าเหล่านี้
การใช้อาวุธขั้นสูงและควันพิษที่แพร่กระจายเข้าสู่พื้นที่ป่า จนทำให้สัตว์ป่าล้มตาย ถือเป็น อาชญากรรมต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ โดยอ้างว่ามี ช้างป่าเพศเมียและลูกช้างแรกเกิด ที่ล้มจากสะเก็ดระเบิดของกองทัพไทย ภายในป่าเขตจังหวัดพระวิหาร
คำกล่าวของเขาเป็นไปในทิศทางเดียวกับคำแถลงล่าสุดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม เอ็ง โสพัลเลท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมกัมพูชา ซึ่งก่อนหน้านี้ระบุว่า การกระทำของกองทัพไทยเข้าข่าย ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นอาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อม ระหว่างที่ไปบรรยายหัวข้อ "ภาวะผู้นำและธรรมาภิบาลด้านสิ่งแวดล้อมในกัมพูชา" ที่ราชบัณฑิตยสถานกัมพูชา โดยเขากล่าวอ้างว่า การรุกล้ำดังกล่าวสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และละเมิดสิทธิมนุษยชน
รายงานข่าวของพนมเปญโพสต์ อ้างว่า กระทรวงสิ่งแวดล้อมกัมพูชาได้จัดตั้ง ทีมติดตามตรวจสอบ 14 ทีม รวมเจ้าหน้าที่ 60 คนเพื่อตรวจสอบมลพิษด้านอากาศ น้ำ และดิน บริเวณแนวชายแดนกัมพูชา–ไทยทั้งภายในและภายนอกศูนย์อพยพ พร้อมเก็บตัวอย่างส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและชุมชนท้องถิ่นรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พบช้างป่าเพศเมียและลูกช้างแรกเกิด ล้มในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พระโรกา–เฉ็บ จังหวัดพระวิหาร โดยระบุว่าช้างทั้งสองตัวถูกพบในลำธาร โอสกาจ โดยแม่ช้างมีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดอย่างรุนแรง และมีหลักฐานว่ามีการแท้งลูกก่อนตาย ซึ่งทางการกัมพูชาโยนความผิดว่าเกิดจากการยิงปืนใหญ่หรือการโจมตีทางอากาศของกองทัพไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี