Forbes ประกาศให้ บียอนเซ่ โนวส์ ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีพันล้านอย่างเป็นทางการ

Forbes ประกาศให้ บียอนเซ่ โนวส์ ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีพันล้านอย่างเป็นทางการ

วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 15.21 น.

30 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) นิตยสารที่เสนอข่าวสารด้านธุรกิจ การเงิน และไลฟ์สไตล์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้ออกมาประกาศให้ 'บียอนเซ่ โนวส์' นักร้อง-นักแต่งเพลงชื่อดังก้องโลก วัย 44 ปี เป็นมหาเศรษฐีพันล้าน (billionaire) อย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้เธอเป็นศิลปินเพลงรายที่ 5 ที่ได้ก้าวเข้าสู่ทำเนียบกลุ่มบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

นิตยสารฟอร์บส์ รายงานว่า ซูเปอร์สตาร์ชาวอเมริกันรายนี้ได้เข้าร่วมกลุ่มศิลปินระดับอีลิทที่มีทรัพย์สินแตะระดับ 10 หลัก หรือ พันล้าน (หน่วยดอลลาร์) ซึ่งรวมถึง เทย์เลอร์ สวิฟต์ , ริฮันนา, บรูซ สปริงส์ทีน และ เจย์-ซี สามีของเธอ ซึ่งนิตยสารทางธุรกิจฉบับนี้ระบุว่า เขามีทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์  เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา 'ฟอร์บส์' เคยประเมินมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ 'บียอนเซ่' ไว้ที่ 800 ล้านดอลลาร์และคาดการณ์ว่าเธอจะก้าวข้ามขีดจำกัดสู่การเป็นเศรษฐีพันล้านเป็นครั้งแรก หลังจากประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี


ทัวร์คอนเสิร์ต Renaissance World Tour ในปี 2566 ของเธอทำรายได้รวมไปเกือบ 600 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เธอกลายเป็นหนึ่งในไอคอนของวงการเพลงป็อปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเคียงคู่กับ เทย์เลอร์ สวิฟต์

'บียอนเซ่' ได้อำนวยการสร้างภาพยนตร์บันทึกการแสดงคอนเสิร์ตดังกล่าว ซึ่งเป็นทัวร์เดี่ยวครั้งแรกของเธอในรอบ 7 ปี และจัดจำหน่ายโดยตรงผ่านข้อตกลงกับเครือโรงภาพยนตร์ AMC ซึ่งทำให้เธอได้รับส่วนแบ่งเกือบครึ่งหนึ่งจากรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่มีมูลค่า 44 ล้านดอลลาร์

อัลบั้ม Cowboy Carter ในปี 2567 ของ'บียอนเซ่' ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองและให้ความสำคัญกับรากเหง้าของคนผิวสีในดนตรีคันทรี ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์และคว้ารางวัลอัลบั้มแห่งปี จากงานประกาศรางวัลแกรมมี (Grammy Awards) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่บียอนเซ่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ หลังเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงมาแล้วถึง 4 ครั้ง

'ฟอร์บส์' ประเมินว่าทัวร์ Cowboy Carter ในปี 2567 ซึ่งมีการปรากฏตัวของแขกรับเชิญอย่าง เจย์-ซี  ลูกสองในสามคนของพวกเขา รวมถึงเพื่อนร่วมวงเดสทินีส์ไชลด์ (Destiny's Child) สามารถกวาดรายได้จากการจำหน่ายบัตรไปได้รวมกว่า 400 ล้านดอลลาร์ และอีก 50 ล้านดอลลาร์จากการจำหน่ายสินค้าหน้างานคอนเสิร์ต ถึงแม้ว่าทัวร์ครั้งนี้จะทำลายสถิติยอดจำหน่ายบัตรที่สนามทอตแนมฮอตสเปอร์ในลอนดอน และที่สตาดเดอฟร็องส์ในปารีส แต่มันก็ประสบปัญหาการขายบัตรที่ล่าช้า จนผู้จัดต้องตัดสินใจลดราคาบัตรบางส่วนเพื่อหวังให้มีผู้ชมเต็มทุกที่นั่ง

อย่างไรก็ตาม ทัวร์นี้มีราคาบัตรระดับพรีเมียมที่สูงที่สุดในบรรดาศิลปินที่มาเยือนสหราชอาณาจักรในปี 2568 โดยมีราคาสูงถึง 950 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยราว 40,500 บาท ในขณะที่บัตรที่ถูกที่สุดมีราคา 71 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยราว 3,000 บาท

การแสดงโชว์ช่วงพักครึ่งเวลาพิเศษสำหรับการถ่ายทอดสดเกม NFL ในวันคริสต์มาสครั้งแรกของ Netflix ทำรายได้ให้บียอนเซ่ประมาณ 50 ล้านดอลลาร์ และมีรายได้อีก 10 ล้านดอลลาร์จากการเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาชุดใหญ่ของแบรนด์ Levi's ด้วย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top