พบวัตถุสงสัย‘โบอิ้ง’

จมมหาสมุทรอินเดีย

ออสซี่เร่งตรวจสอบ

‘ตาลิบัน’ปัดไฮแจ๊ก

ความคืบหน้าการค้นหาเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777-200 เที่ยวบิน MH 370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่หายสาบสูญไป ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ผู้จัดการสำนักงานความปลอดภัยทางทะเลของออสเตรเลีย (เอเอ็มเอสเอ) แถลงว่า ออสเตรเลียได้ส่งเครื่องบิน 4 ลำ และเรือ 2 ลำ ไปยังตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากเมืองเพิร์ธของออสเตรเลียไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 2,500 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่ดาวเทียมพบวัตถุต้องสงสัยขนาดใหญ่ประมาณ 24 ม. แต่ยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าสิ่งที่พบเห็นเป็นอะไร อย่างไรก็ดี บริเวณดังกล่าวมีความลึกมากและทัศนวิสัยไม่ดีอาจเป็นอุปสรรคต่อการค้นหา แม้ว่าสภาพอากาศไม่เป็นปัญหาก็ตาม

นายกรัฐมนตรีโทนี แอบบอตต์ ของออสเตรเลีย กล่าวว่า ภาพถ่ายดาวเทียมพบวัตถุ 2 อย่าง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ที่สูญหายไป และเครื่องบินกองทัพอากาศได้มุ่งหน้าไปยังพื้นที่เพื่อค้นหาวัตถุแล้ว และจัดส่งเครื่องบินเพิ่มเติมอีก 3 ลำ เพื่อดำเนินการค้นหาอย่างเข้มข้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ภารกิจการค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของวัตถุดังกล่าวอาจยากลำบากมาก และอาจเป็นไปได้ว่า วัตถุเหล่านั้นไม่เกี่ยวกับเที่ยวบิน MH370 เลย

สำนักข่าวรอยเตอร์สันนิษฐานว่า ขนาดของวัตถุที่ดาวเทียมพบในมหาสมุทรอินเดีย มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นส่วนปีกของเครื่องบิน โดย วัตถุชิ้นที่ใหญ่กว่ามีความยาว 24 ม. สอดคล้องกับส่วนประกอบอย่างน้อย 1 อย่างของเครื่องโบอิง 777-200 ER โดยอาจเป็นส่วนของปีกเครื่องบินซึ่งมีความยาวประมาณ 27 เมตร นอกจากนี้การที่วัตถุมีขนาดใหญ่บ่งชี้ว่า หากเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินที่หายไปจริงๆ ก็แสดงว่าเครื่องบินตกน้ำในสภาพที่ส่วนประกอบยังสมบูรณ์

ขณะที่อาจารย์ด้านสมุทรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลียให้ทัศนะว่า เครื่องบินน่าจะตกลงน้ำห่างจากจุดที่พบวัตถุไปทางตะวันตกราว 300-400 กม. อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะค้นหาจุดไหนก็เป็นจุดที่มีน้ำลึก พื้นที่ค้นหาขณะนี้ครอบคลุมริมขอบมหาสมุทรที่เรียกว่าที่ราบเนเชอรัลลิสต์ มีความลึก 3,500 ม. กว้าง 250 กม. ยาว 400 กม. ขณะที่น่านน้ำรอบที่ราบนี้ลึกถึง 5,000 ม.

ขณะเดียวกันเว็บไซต์เดลิเมล์ของอังกฤษเผยแพร่ภาพวัตถุต้องสงสัยที่จมอยู่ใต้บริเวณช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นช่องแคบระหว่างแหลมมลายูกับเกาะสุมาตรา อยู่บริเวณทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไทย โดยวัตถุดังกล่าวมีลักษณะเหมือนเครื่องบินที่นอนตะแคงอยู่ใต้พื้นน้ำ โดยระบุว่า ภาพนี้ได้มาจากบรรดาผู้ใช้อินเตอร์เน็ตบนเว็บไซต์เรดดิท เว็บไซต์แบ่งปันข่าวชื่อดัง ที่ระดมกันใช้ดาวเทียมตรวจสอบบริเวณต่างๆ

นอกจากนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เรือขนส่งน้ำมันของกรีซที่แล่นผ่านบริเวณดังกล่าวได้วิทยุรายงานขึ้นมายังเจ้าหน้าที่ช่องแคบว่า พบเห็นกระเป๋าเดินทางลอยน้ำอยู่บริเวณช่องแคบมะละกา ขณะที่ชาวบ้านหลายคนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งของประเทศมาเลเซียเปิดเผยว่า พวกเขาเห็นแสงสว่างลอยต่ำอยู่เหนือพื้นน้ำบริเวณทะเลจีนใต้ และได้ยินเสียงเหมือนเสียงเครื่องยนต์

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ(เอฟบีไอ) เข้าให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของมาเลเซีย ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องฝึกบินจำลอง (Flight Simulator) ของนายซาฮารี อาห์หมัด ชาห์ กัปตันเที่ยวบิน MH 370 แล้ว หลังจากพบว่า บันทึกข้อมูลการฝึกในเครื่องบางส่วนถูกลบออกตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ขณะที่นายไฮชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกลาโหมและรักษาการรัฐมนตรีคมนาคมแห่งมาเลเซีย บอกว่า กัปตันยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าเขามีความผิดจริง ข้อมูลที่ถูกลบไปนั้น อาจลบเพื่อให้หน่วยความจำว่างก็ได้

ทั้งนี้ การหายไปอย่างลึกลับของเที่ยวบินดังกล่าว ก่อให้เกิดข้อสันนิษฐานต่างๆ นานา รวมถึงข่าวลือที่ว่าเครื่องบินอาจไปลงจอดในพื้นที่ซึ่งควบคุมโดยกลุ่มตอลิบาน ตามแนวชายแดนของปากีสถานติดกับอัฟกานิสถาน ซึ่งในเรื่องนี้ ทาง ซาไบฮุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกของตอลิบานในอัฟกานิสถาน ออกมายืนยันว่า ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง พวกเขาไม่มีข้อมูลใดๆ เพราะมันเป็นประเด็นภายนอก เหตุเกิดนอกอัฟกานิสถาน และแม้แต่ประเทศต่างๆ ที่มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัย ก็ยังไม่รู้เลยว่าเครื่องบินอยู่ที่ไหน ขณะที่แหล่งข่าวตอลิบานในปากีสถาน ซึ่งไม่ประสงค์เผยชื่อ กล่าวเสริมว่า “ถ้ามีโอกาส เราก็ปรารถนาจี้เครื่องบินสักลำเช่นกัน”