จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ

เพื่อมุ่งส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ แก่นักเรียนระดับอาชีวศึกษา  ทีโอเอ พาคณาจารย์  พร้อมนักเรียน  13  ชีวิต จาก  7 สถาบันที่ผ่านการคัดเลือก ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิค เพชรบุรี, วิทยาลัยเทคนิค ตราด, วิทยาลัยเทคนิค สุพรรณบุรี, วิทยาลัยเทคนิค บุรีรัมย์, วิทยาลัยเทคนิค นครสวรรค์, วิทยาลัยเทคนิค นครนายก, วิทยาลัยเทคนิค ฉะเชิงเทรา    บินลัดฟ้าเพื่อศึกษาดูงาน ที่โรงงาน ทีโอเอ เมืองบินห์เยือง และ มหาวิทยาลัยแห่งชาติเวียดนาม คณะวิศวกรรมศาสตร์ ณ ประเทศเวียดนาม

จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมมือกับหน่วยงานสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ จัดกิจกรรมโครงการพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา โดยเป็นบันทึกความร่วมมือ หรือ MOUที่มุ่งเน้นส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาบุคลากรในสถานศึกษา อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการสร้างแรงงานในสายวิชาชีพระยะยาว ซึ่งได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาสังกัดอาชีวศึกษา ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร และได้จัดให้มีการแข่งขันทักษะงานสี 14 สถาบันนำร่องระดับหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)  

ทั้งนี้ นักเรียนอาชีวะจาก 7 สถาบันที่ผ่านการคัดเลือกจากการแข่งขันดังกล่าว คือ วิทยาลัยเทคนิค เพชรบุรี, วิทยาลัยเทคนิค ตราด, วิทยาลัยเทคนิค สุพรรณบุรี, วิทยาลัยเทคนิค บุรีรัมย์, วิทยาลัยเทคนิค นครสวรรค์, วิทยาลัยเทคนิค นครนายก, วิทยาลัยเทคนิค ฉะเชิงเทรา   จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ มีโอกาสไปเดินทางไปเรียนรู้การทำงานในทุกกระบวนการที่ โรงงานทีโอเอ และ มหาวิทยาลัยแห่งชาติเวียดนาม คณะวิศวกรรมศาสตร์ ประเทศเวียดนาม เพื่อเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ และเสริมสร้างทักษะที่พร้อมพัฒนาคุณภาพของบุคลากรในสาขาอาชีพนี้  และเพื่อก้าวสู่การแข่งขันระดับนานาชาติ ในตลาดการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากมีการเปิดเขตการค้าเสรีในอนาคตอันใกล้นี้” 

                นอกจากนั้น กิจกรรมดังกล่าวยังสอดคล้องกับภารกิจของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ที่มุ่งยกระดับฝีมือแรงงาน เพื่อรองรับความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้าง และตกแต่งที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องเร่งพัฒนาความรู้ความชำนาญให้กับช่างสีของไทย เพื่ออวดศักยภาพด้านทักษะ ความคิดสร้างสรรค์และคุณภาพชิ้นงาน รวมทั้งก้าวให้ทันเทคโนโลยีใหม่ๆ   นอกจากการเข้าเยี่ยมชมภายในโรงงาน บริษัท ทีโอเอ แล้ว ยังมีโอกาสได้เข้าชมสถานที่สำคัญของนครโฮจิมินห์ มากมาย อาทิ โบสถ์นอร์ทเทรอดาม ที่ทำการไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดและสวยที่สุดของประเทศเวียดนาม อนุสาวรีย์ท่านประธานาธิบดีโฮจิมินห์ พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) ตึก BITEXCO Financial Tower (ไบเทกซ์โกไฟแนนเชียลทาวเวอร์) ตลาดเบนถัน เป็นต้น  

ด้าน อ.สันติ สวนพลาย หัวหน้าแผนกวิชาการก่อสร้าง  วิทยาลัยเทคนิคตราด เผยว่า การศึกษาดูงานภายในโรงานทีโอเอ ในประเทศเวียดนาม มีระบบและมาตรฐานเหมือนกับบ้านเรา มีการแบ่งแผนกของผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน ถึงแม้ขนาดและโครงสร้างจะเล็กกว่าบ้านเราก็ตาม ส่วนการดูงานที่มหาวิทยาลัยต้องยอมรับในเรื่องการศึกษาของเขาที่ไม่ปิดกั้น คือนักศึกษาอยากเรียนสาขาไหนก็ได้เรียน  แม้จะเรียนแค่ปวช. ปวส. แล้วออกไปทำงาน ก็ยังสามารถกลับมาเรียนต่อในระดับปริญญาตรีได้อีก ส่วนด้านการเรียนการสอนคล้ายๆ กับบ้านเรา แต่เขาจะจริงจังกว่าเรา ของเราเด็กห่วงเรื่องเทคโนโลยี และหนักไปกับการเล่นมือถือ เฟสบุ๊คมากกเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะประเทศเพื่อนบ้านของเราไม่ใช่แค่เวียดนาม เขามีความตื่นตัว และมีความกระตือรือร้นที่จะศึกษาหาความรู้ ถ้าวันนี้เราไม่ตื่นตัว เราก็จะสู้กับเขาไม่ได้ เขาจะเป็นนายเราหมด เพราะฉะนั้นอยากให้นักเรียน นักศึกษาในทุกระดับชั้นเริ่มตื่นตัว และพัฒนาในเรื่องการศึกษามากยิ่งขึ้น เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่กำลังจะมาถึง

                ส่วน  อ.สุพจน์ อินทร์สุข หัวหน้าแผนกช่างก่อสร้าง และโยธา วิทยาลัยเทคนิคสุพรรณบุรี เผยว่า การได้ศึกษาดูงานต่างถิ่นในครั้งนี้  ถือเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆ ทั้งคณะอาจารย์ และนักศึกษาทุกคน อย่างที่โรงงานทีโอเอ เป็นโรงงานที่ขนาดเล็กกว่าประเทศไทย แต่คุณภาพเท่ากันตามมาตรฐาน ระบบการจัดการ ระบบความปลอดภัย โครงสร้างต่างๆ เหมือนกับประเทศไทยเลย ส่วนการดูงานที่มหาวิทยาลัยมีความแตกต่างอยู่ที่ระบบ คือเรียนในระบบที่ว่าเน้นความต้องการของโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก อุตสาหกรรมต้องการอะไร มหาวิทยาลัยก็จะผลิตให้ตรงกับความต้องการของเขา ส่วนหลักสูตรเป็นหลักสูตรตามโรงงาน ซึ่งไม่เหมือนกับของเราที่เป็นหลักสูตรตามมหาลัย ตรงนี้เป็นข้อแตกต่างที่ตนมองว่าเขาพัฒนาได้เร็วกว่า เพราะเขาได้ผลิตคนงานโดยตรง ซึ่งไม่ต้องผ่านการฝึกอะไรใหม่เลย เรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดด และเป็นมหาวิทยาลัยที่ผลิตวิศวะในสาขาต่างๆ ที่น่าจับตามอง

                ขณะที่น้องอาชีวะทั้ง 7 สถาบัน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ตื่นเต้นและชื่นชมในระบบการทำงานของโรงงานทีโอเอ เนื่องจากเด็กๆ ทุกคนไม่เคยศึกษาดูงานที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน  น้องๆ บางคนถึงกับทึ่งในความอลังการ และวิธีการทำงานของพี่ๆ พนักงานทุกคน ส่วนน้องๆ บางคนก็อยากจะเข้าเรียนในหลักสูตรของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติเวียดนาม  เนื่องจากเขาการันตีมาว่า 80% ของเด็กที่นี่ หลังจากเรียนจบเพียง 3 เดือนก็มีงานทำเลย และโดยรวมไม่มีนักศึกษาคนไหนที่ตกงานเลย ซึ่งจุดเด่นของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม และเป็นมหาวิทยาลัยที่ส่งเสริมวิศวกรโดยตรงนั่นเอง

ณาจารย์ และน้องๆ อาชีวะศึกษาดูงานที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติเวียดนาม

อ.สันติ สวนพลาย

อ.สุพจน์ อินทร์สุข