“นักวิจัย” อาจไม่ใช่อาชีพในฝันของเด็กไทยสักเท่าไร อาจจะเป็นด้วยความเข้าใจว่างานวิจัยคือ งานเก็บข้อมูล แต่ในความเป็นจริงแล้วงานวิจัยคือ พื้นฐานที่นำไปสู่การพัฒนาที่ก่อให้เกิดสิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ส่งผลให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเราทุกคน จากผลการรวบรวมตัวเลขของหน่วยงานด้านสถิติ กระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับอาชีพที่ดีที่สุดในปี 2013 ปรากฏว่า 5 อันดับแรกได้แก่ นักคณิตศาสตร์ประกันภัย วิศวกรชีววิทยา วิศวกรซอฟแวร์ นักโสตศาสตร์วิทยา และนักวางแผนทางการเงิน ซึ่งอาชีพเหล่านี้ล้วนแต่ต้องมีองค์ความรู้ของงานวิจัยเป็นพื้นฐาน “นักวิจัย” จึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจและเป็นที่ต้องการของตลาดโลกมากขึ้น

แต่หากยังเกิดข้อกังขาว่าเป็นนักวิจัยจะรุ่งหรือไม่ บี มาย เกสท์ จะพาไปรู้จักกับ ดร.สุวดี ก้องพารากุล นักวิจัยหญิงไทยที่ประสบความสำเร็จบนเวทีโลก จากการนำผลงานวิจัยและประดิษฐ์ “แผ่นยางทำความสะอาดน้ำมันแบบใช้ซ้ำ” ไปคว้ารางวัลเหรียญทอง กลุ่มงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน จากงาน “42^nd Internatioanl Exhibition of Inventions of Geneva” ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เมื่อเร็วๆ นี้ ถึงแนวคิด แรงบันดาลใจ ในการสร้างงานวิจัยที่ไม่ธรรมดาชิ้นนี้

ดร.สุวดี ก้องพารากุล ปัจจุบันเป็น อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสร์ ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งผลงาน “แผ่นยางทำความสะอาดน้ำมันแบบใช้ซ้ำ” ว่า ปัจจุบันมีเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลในท้องทะเล หรือเหตุการณ์รถบรรทุกน้ำมันประสบอุบัติเหตุจนน้ำมันซึ่งเป็นเชื้อเพลิงนองบนพื้นผิวถนนอยู่เป็นประจำ ซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรต่างๆ มากมาย อีกทั้งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากปัญหาเหล่าเองในฐานะนักเคมีจึงทำให้เธอมีความคิดว่าจะทำอย่างไรให้การเก็บกวาดน้ำมันหรือสารเคมีสามารถทำได้สะอาดหมดจนในเวลาอันรวดเร็ว และเป็นวัสดุที่ง่ายต่อการใช้งานในทุกสถานการณ์เมื่อมีเหตุการณ์น้ำมันหรือสารเคมีรั่วไหล

“สิ่งประดิษฐ์นี้ได้คิดค้นเพื่อพัฒนาตัวดูดซับน้ำมัน ซึ่งปกติใช้เพียงครั้งเดียวและนำไปกำจัดทิ้งโดยการเผา แต่แผ่นยางนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการทำความสะอาดน้ำมันหรือการรั่วไหลของสารเคมีบนพื้นผิวหรือในแหล่งน้ำ โดยแผ่นยางสามารถดูดซับของไหลจากปิโตรเลียมรวมทั้งตัวทำละลายเคมี และของเหลวที่ไม่ละลายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถดูดซับน้ำมันปิโตรเลียมได้มากกว่า 18 เท่า ภายในระยะเวลา 1-2 นาที และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากกว่า 30 ครั้ง

ซึ่งแผ่นยางนี้ ผลิตจากพอลิเมอร์ (Polymer) ธรรมชาติ มีลักษณะคล้ายโฟม เพราะฉะนั้นเวลาถูกดูดซับอย่างอิ่มตัวแล้วยกขึ้น น้ำมันจะไม่ไหลออกมาจากตัวแผ่นวัสดุ เราเลยดีไซน์ให้มันกักเก็บน้ำมันได้ด้วย บวกกับนำกลับมาใช้ใหม่ได้ แต่ตอนนี้มีข้อจำกัดคือ ถ้าเป็นน้ำมันพืช จะดูดซับได้ค่อนข้างช้า ส่วนพวกน้ำมันปิโตรเลียม ดีเซล แก๊สโซฮอลล์ จะดูดซับได้ดีมาก”

แต่กว่าจะเป็นผลงานสิ่งประดิษฐ์ที่ไปคว้ารางวัลในเวทีระดับโลก ดร.สุวดี ยอมรับว่า ต้องผ่านการวิจัยและพัฒนา แก้ไขอยู่หลายครั้งเพื่อให้ผลงานนั้นมีประสิทธิภาพและสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง

“การทำวิจัยแน่นอนมันไม่ได้ 100% ตั้งแต่ตอนแรก มีหกล้มคลุกคลานบ้าง กว่าจะเตรียมอุปกรณ์ บางทีเตรียมแล้วสารตกตะกอน หรือพอจะทำแล้วโฟมไม่ขึ้น ก็ต้องมีการแก้ปัญหา หลายคนอาจจะมองปัญหาคืออุปสรรค์แต่สำหรับตัวเองมันคือความสุข เพราะทุกครั้งที่เกิดปัญหาให้เราแก้เราก็จะได้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ทุกงานที่ทำจึงทำด้วยความสุขตลอดเวลา ท้ายที่สุดเมื่องานที่เราทำมีคนเห็นคนคุณค่าในสิ่งที่เราตั้งใจทำและมันสามารถนำไปใช้ได้จริงก็ยิ่งมีความสุข ส่วนการได้รับรางวัลก็เป็นผลพลอยได้ ก็รู้สึกภูมิใจมาก”

นักวิจัยหญิงผลงานระดับโลกวัย 33 ปี คนนี้ ยอมรับว่า กว่าจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางของการเป็น “นักวิจัย”  ยากพอๆ กับการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ เพราะกว่าจะมีคนยอมรับ ไม่ใช่เรื่องง่าย การมีจิตใจที่เข้มแข็ง ไม่ย้อท้อต่ออุปสรรค์ สิ่งสำคัญคือ “ความเข้าใจ” จากคนรอบข้าง

“งานวิจัยเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เราเกิดความอิสระ เราอยากคิด อยากลองทำอะไร และทำเพราะอยากรู้ มันทำให้เรามีความสุขกับสิ่งที่เราทำ พอได้ผลออกมาก็ดีใจว่าสิ่งที่เราคิดมันเป็นจริง แต่ถามว่าทุกข์ไหม  ลำบากไหม ต้องบอกว่าไม่มีความทุกข์ระหว่างทำ แต่ลำบากเพราะมันต้องผ่านขั้นตอนเยอะ ต้องใช้เงิน และใช้เวลา ที่สำคัญคือนักวิจัยทุกคนต้องมีคนคอยให้กำลังใจ ไม่ว่าจะภรรยาหรือสามี ตัวเราเองเป็นโสดก็จะมีคุณแม่ที่คอยบอกไม่เป็นไรลูกค่อยๆ  ทำไป ลูกต้องอย่านึกว่ามันเป็นอุปสรรค์ เพราะเมื่อไหร่ที่มันสำเร็จคนกี่ร้อยล้านคนไม่รู้ที่ได้ประโยชน์จากการวิจัยของเรา  จุดพลิกนิดเดียวเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ มีส่วนช่วยให้ผู้คนบนโลกใบนี้หรืออย่างน้อยก็คนไทยด้วยกันมีคุณภาพชีวิตที่ดี”

นี่เป็นเพียงเรื่องราวส่วนหนึ่งของนักวิจัยหญิงคนเก่ง หากอยากทำความรู้จักกับตัวตนและผลงานสิ่งประดิษฐ์ของเธอคนนี้ ไปพูดคุยกับเธอได้ รวมถึงผลงานนักวิจัยและนักประดิษฐ์อีกมากมายในงาน  “วันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2557” จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ระหว่างวันที่ 23-26 มิถุนายน 2557 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค (ฮอลล์ 9) เมืองทองธานี แล้วจะรู้ว่าทุกผลงานวิจัยเปลี่ยนโลกได้จริงๆ