เป็นช่างภาพฝีมือระดับต้นๆ ของเมืองไทยอีกคนหนึ่ง สำหรับ “เปิ้ล-วสันต์ ผึ่งประเสริฐ” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนางแบบและดารานักแสดงหลายต่อหลายคน ล่าสุดทางรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.20 น. ทางช่อง TNN2 โดยพิธีกรอินเทรนด์ “ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์” คว้าตัวมาร่วมพูดคุยในรายการพร้อมอัพเดทงานไปด้วย
เปิ้ล-วสันต์ เล่าว่า “หลังจากเรียนจบที่เทคนิคกรุงเทพ ก็ได้เข้ามาทำงานที่หนังสือดิฉัน ซึ่งเป็นแหล่งที่ให้กำเนิดเรา ช่วงแรกทำงานแบบว่าถ่ายทุกอย่างที่ขวางหน้า เป็นงานคอลัมน์ทุกอย่าง ต้องออกงานสังคมด้วย แล้วก็มีงานคอลัมน์ประเภทถ่ายบ้าน ถ่ายสัมภาษณ์ ถ่ายอาหาร ถ่ายทุกอย่างที่เขาให้เราถ่าย มันเหมือนเป็นช่วงต้นของการเรียนรู้เรื่องงาน ก็อยากจะลองดูว่าจริงๆ แล้วการถ่ายภาพของเรา เราชอบประเภทไหนมากที่สุด
เข้าทำงานที่ดิฉันตั้งแต่ปี 2530 ช่วงแรกอย่างที่บอกว่าถ่ายทุกอย่าง อยู่ที่นั่นประมาณ 6-7 ปี พอหลังจาก 6-7 ปีแล้วเราก็ได้ไต่เต้าขึ้นมาเป็นช่างภาพแฟชั่น หลังจากนั้น 2- 3 ปีถัดมาเราก็สามารถทำได้ทุกอย่าง หมายถึงว่าเราบริหารงานเองด้วย ก็คือดูแลแฟชั่น ดูแลทางด้านการถ่ายภาพ ดูแลแฟชั่นหมายถึงว่าเราเป็นคนจัดแพลนนิ่งเอง ว่าในช่วง 1 ปีดิฉันจะมีใครขึ้นปกบ้าง จะมีร้านเสื้อร้านไหน อย่างดิฉันออกในรูปแบบรายปักษ์ 15 วันออกที เราก็จะต้องวางแผนทั้งปี 24 เล่มว่าใครจะมาขึ้นปก เราก็จะเปิดให้จองคิว แล้วเสื้อผ้าจะเป็นแนวไหน และอีก 2 เซ็ต ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเวทีสำหรับเด็กๆ ช่างภาพรุ่นใหม่ที่กลับมาจากต่างประเทศหรือที่จบมาจากสถาบันต่างๆ ก็จะเอางานมาเสนอ
บอกได้เลยครับว่า นางแบบ ดารานักแสดงต่างๆ เกิดจากดิฉันเยอะมาก ผมก็เป็นทั้งสไตล์ลิสท์ ช่างหน้า ช่างผม ช่างภาพเองด้วย แล้วก็ให้เด็กรุ่นใหม่ๆ เข้ามาร่วมสนุกด้วย หนังสือจะได้ดูหลากหลาย”
เมื่อถามถึงชิ้นงานที่ภาคภูมิใจ เปิ้ล-วสันต์ เล่าว่า ตอนอยู่นิตยสารดิฉันในช่วงยุคปลายๆ ก็อยากแสดงงานอยู่ชิ้นหนึ่ง อยากจะเหมือนอัพเดทตัวเอง หรือเปิดให้คนภายนอกเขาได้รับรู้บ้าง คือพอหลังจากนิตยสารดิฉันออกไปมันมีการเก็บแผง เก็บอะไรไปเลย ก็เลยรวบรวมผลงาน ซึ่งตัวเองชอบงานถ่ายชุดว่ายน้ำมาก ก็รวบรวมงานถ่ายภาพชุดว่ายน้ำของตั้งแต่ยุคสมัย 15 ปีที่เริ่มถ่ายภาพ
“เป็นการมิกซ์อัพระหว่างนางแบบชุดว่ายน้ำกับโลเคชั่นที่มันแปลกๆ ใหม่ๆ ที่ไม่ได้จำเจเหมือนถ่ายในสตูดิโอตลอดไป ก็รวบรวมมาแสดงใช้ชื่อว่า Summer Reloaded แสดงเมื่อประมาณปี 2550 ที่สยามพารากอน ก็สนุกสนานดี ดาราที่เขาอยู่ในภาพที่เรานำมาจัดแสดงไว้ในเอ็กซิบิชั่นเขาก็มาเป็นเกียรติให้เรา
และล่าสุดเมื่อประมาณต้นปีนี้ หลังจากที่เรารวบรวมคนที่เราชอบ คนที่เราคิดว่าเราถ่ายรูปเขาได้ดีได้สวยแน่นอน ก็เลยใช้คำว่า Relationship หมายถึงว่าเรารู้จักเขาด้วย หรือเรามีความผูกพันว่าคนนี้มันมีความผูกพันที่เป็นอินเนอร์ด้วยกัน ถ่ายคนนี้รับรองเราถ่ายสวยแน่นอน ผมก็เลยรวบรวมคนสักประมาณ 15 คนมาถ่ายภาพพอร์ทเทต แล้วจัดแสดงในนิทรรศการ และอีกอันก็คือ บริเวณชั้น 3 ของสยามเซ็นเตอร์ เราก็ทำเป็นภาพ 3 มิติ เป็นแฟชั่นแนวอวกาศ 3 มิติ ต้องใส่แว่นดู และก็รูปนางแบบเราเป็นขาวและดำ และแต่งตัวเป็นอวกาศนิดหนึ่ง แล้วก็ให้นางแบบลอยออกมาจากซอกหิน หลายคนชอบนะครับ มันก็มีความแตกต่างกัน ฟีดแบคก็ออกมาดี”
กับสไตล์การทำงาน เปิ้ล-วสันต์ บอกว่า ที่ชัดเจนมันจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ อย่างที่เราชอบถ่าย มันเกิดขึ้นมาจากตัวเราเอง บางครั้งการวัดค่า การมองสไตล์จากตัวเราเอง เราพอจะรู้อยู่บ้าง หลายคนที่บอกว่างานของผมมันเป็นลักษณะเรียบหรู โก้ สวย เป็นธรรมชาติ จะไม่มีเทคนิคอะไรวุ่นวาย มันจะไม่มีองค์ประกอบดูหวือหวาวุ่นวายมาก จะทำแบบสไตล์เรียบๆ โก้ๆ ดูแล้วลุ่มลึกหน่อยๆ สะอาดๆ งานพวกนี้มันต้องกลั่นมาจากตัวเราจริงๆ มันเหมือนเป็นเหมือนตัวเราเอง
เปิ้ล-วสันต์ ผึ่งประเสริฐ และพิธีกรรายการ ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์
ถามว่ามีแพลนอะไรไว้ในอนาคตไหม ภายใน 2-3 เดือนมันก็จะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ขึ้นอยู่กับเทรนด์อะไรต่างๆ แต่จะยังคิดว่าก็คงยังถ่ายรูปต่อไป โครงสร้างอะไรต่างๆ ที่เป็นระยะยาวก็หมั่นเติมรายละเอียด แต่จริงๆ อยากบอกอยู่อย่างหนึ่งว่าสิ่งที่ผมคิดตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียน ก็คืออยากทำแกลอรี่ภาพถ่ายของตัวเอง แต่ก็รู้อยู่สำหรับธุรกิจ ผลงานมันอาจจะเชย เพราะใครๆ ก็คิด ซึ่งมันทำไม่ยากหรอก แต่มันก็ยังอยู่ในใจเรา
เด็กรุ่นหลังที่อยากเจริญรอยตาม พผมก็มีข้อคิดของการดำเนินชีวิตของตัวเอง จะเป็นเรื่องของทักษะ การฝึกฝนอะไรต่างๆ ผมว่าในสิ่งพวกนี้ถ้าเราหล่อหลอม รวมถึงเรื่องเทรนด์และแรงบันดาลใจด้วย ถ้าเกิดเรามีอยู่ตลอดเวลา มันก็เหมือน 3 สิ่งที่จับเอามารวมกัน ความสมดุลย์ของชีวิตการทำงาน ผมว่าเราก็สามารถนำอันนี้ไปสู่ความสำเร็จได้ แต่สิ่งทุกสิ่งการทำอะไรทุกอย่างมันเหมือนกับว่าเราพูดง่าย แต่วิธีการทำมันยาก คนเราไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นภาพที่ทุกคนถ่ายรูปก็ไม่เหมือนกัน สิ่งพวกนี้ถ้าเราหมั่นต่อเติม มีใจรักกับมัน และยึดมั่นในหลักการต่อไป ไม่ท้อถอย วันหนึ่งเขาก็ประสบความสำเร็จได้
จากประสบการณ์ของตัวเอง มองว่ายุคก่อนหน้านี้กับยุคปัจจุบัน ในวงการนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่เห็นชัดๆ โลกการถ่ายรูปวันนี้ก็เป็นดิจิตอลโดยสมบูรณ์แบบแล้ว ฟิล์มกลายเป็นสิ่งที่หายาก และอีกอย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าคนในโลกนี้มันเยอะมาก การที่เราจะเกิดขึ้นมาเป็นช่างภาพที่มีชื่อเสียงสักคน มองว่ามันยากยิ่งกว่าสมัยพผมมาก เพราะว่าทุกอย่างมันมีการแข่งขันกันสูง ถึงต้องบอกตลอดเวลาว่า ถ้าเกิดเราไม่ยึดมั่นหรือทำอะไรให้มีสไตล์ของตัวเอง มันก็จะเกิดลำบาก เพราะเรื่องเทคนิคอย่างเดียวหรือเรื่องการถ่ายรูปภาพเก่งอย่างเดียวมันไม่พอแล้วสำหรับยุคนี้”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี